28 ตุลาคม 2551 16:06 น.
บพิตร
ฉันเดินกลางทุ่งกว้าง
สองข้างทางช่างสดใส
สายลมพลิ้วโบกไกว
มวลดอกไม้ไหวเอนโอน
ลู่ลมกระเพื่อมผืน
มิแข็งขืนเจ้าอ่อนโยน
ภู่ผึ้งบินเวียนวน
เป็นคู่ขวัญมิคืนคลาย
ฟ้าครามคู่เมฆขาว
น้ำใสพราวระรินสาย
คดเคี้ยวเลาะเลี้ยวลาย
ระริกร่าทั้งปลาปู
ต่างคนต่างยิ้มแย้ม
ไมตรีแง้มอย่างพรั่งพรู
อาทรเอื้อเอ็นดู
เป็นมิตรหมายไร้มารยา
ผ่านทุ่งมุ่งสู่เมือง
ความรุ่งเรืองนครา
ตึกรามงามตรึงตรา
มียวดยานไม่ลานลน
เรียงรายอย่างเรียบร้อย
ผู้นั่งคอยไม่สับสน
แย้มยิ้มแห่งผู้คน
คราวพบหน้าไม่ว่าใคร
ทักทายคล้ายคุ้นเคย
คำเอื้อนเอ่ยแสนสดใส
วาจามาจากใจ
ที่แบ่งปันมิผันแปร
หนุ่มสาวเด็กผู้ใหญ่
ต่างห่วงใยเฝ้าดูแล
นับญาติเป็นพ่อแม่
เป็นลุงป้าเป็นย่ายาย
คูคลองร่องน้ำไหล
ก็สวยใสไม่ขาดสาย
นกน้อยก็กรีดกราย
กลางเมืองใหญ่ได้แบ่งปัน
ท้องทุ่งถึงกรุงไกร
แม้ห่างไกลไม่ต่างกัน
งดงามทุกคืนวัน
ที่แท้ฉันแค่ฝันไป.
27 ตุลาคม 2551 16:01 น.
บพิตร
กว๊านพะเยา ระยิบยับอยู่วับวาม
สวยสายน้ำทาบทับกับดอยหลวง
เย็นสวยใสหล่อเลี้ยงเพียงแดดวง
ความโชติช่วงวิถีชนคนพะเยา
จากดอยหลวงแม่น้ำอิงไม่นิ่งหยุด
ไหลรี่รุดหลากลานผ่านขุนเขา
สายน้ำเล็กสายน้ำน้อยค่อยรวมเอา
รินหลั่งเข้าเป็นกว๊านใหญ่ให้ชีวี
สายลมพลิ้วระรอกคลื่นระรื่นเล่น
ฟ้ายามเย็นสีทองส่องวิถี
เรือลำน้อยลอยล่องท่องวารี
มิเร่งรี่จ้ำพายสบายใจ
กว๊านคือแม่เลี้ยงดูหมู่ลูกหลาน
มาเนิ่นนานแต่น้อยจนเติบใหญ่
ลูกมีอยู่มีกินสิ้นห่วงใย
ปูปลากุ้งมีให้ไม่ขาดแคลน
น้ำโอบดอยอุ้มชูดูงามเด่น
ทอดเงาเห็นดูลึกล้ำงามเหลือแสน
นกน้อยใหญ่โบยบินเหนือดินแดน
นี่คือแคว้นความอุดมความสมบูรณ์
"กว๊านพะเยา"ยังสดใสในวันนี้
เลี้ยงชีวีภูกามยาวไม่เศร้าสูญ
เป็นแหล่งน้ำเลี้ยงชนพ้นอาดูร
เจิดจำรูญคู่พะเยาเนาว์นิรันดร์.