22 มกราคม 2551 15:17 น.
บพิตร
ฝากฝันวันเหน็บหนาว
ลืมเรื่องราวเคยขมขื่น
หวังให้ไทยหยัดยืน
สู้ลมแรงแห่งโลกา
ถอยหลังคราวครั้งก่อน
แสนเดือดร้อนทั้งดินฟ้า
ความหวังครั้งใหม่มา
ทิ้งฝันร้ายให้คลายคืน
หวังเห็นคนรุ่นใหม่
ทุ่มเทใจที่แข็งขืน
ฟาดฟัดขึ้นหยัดยืน
เป็นผู้กล้าพาชื่นใจ
ถึงวันแห่งความหวัง
ปลุกพลังอันยิ่งใหญ่
หนุ่มสาวที่ก้าวไป
ต้องล้มพับกับน้ำครำ
เหม็นหึ่งถึงทั่วร่าง
ไม่จืดจางแต่มืดดำ
เงินฟาดหัวคะมำ
ตามืดบอดมอดหมดไฟ
ความหวังที่วังเวง
เหมือนคว้างเคว้งกลางโลกใหญ่
จะร่ำร้องจากผู้ใด
กับความหวังที่ลางเลือน.
21 มกราคม 2551 13:28 น.
บพิตร
ยอมขายตัวขายใจขายศักดิ์ศรี
ประกาศเป็นนอมินีที่ซื่อสัตย์
เป็นร่างทรงให้สิงสู่รู้แจ้งชัด
ไม่ฝืนขัดผู้เป็นนายยอมตายแทน
ลมหายใจเข้าออกจะบอกให้
ขอเพียงได้ยืนอยู่คู่แว่นแคว้น
จะทำตามที่สั่งไว้ไม่คลอนแคลน
ที่โลดแล่นคือร่างกายไร้ตัวตน
มีสัตว์ใดในโลกเป็นเช่นนี้บ้าง
ฝูงลิงค่างหมูหมาพาสับสน
เดรัจฉานหันมามองหน้าคน
ไหนพร่ำบ่นว่าประเสริฐเลิศกว่าใคร
ยามโกรธเคืองด่าทอเป็นควายป่า
เป็นหมาบ้ากบเลือกนายน่าอายไหม?
ฝูงสัตว์ป่าบอกเพื่อนว่าอย่าน้อยใจ
ถึงอย่างไรรักศักดิ์ศรีดีกว่าคน
ขอพวกพ้องอย่าทำตัวเยี่ยงมนุษย์
มันแสนสุดน่าอับอายให้ฉงน
ยอมทอดร่างขายศักดิ์ศรีนี่ชอบกล
ยอมขายตนเป็นนอมินีราศีมัว
ถึงยากจนข้นแค้นแสนสาหัส
อัตคัดเพียงใดไม่เกลือกกลั้ว
ความเลวร้ายแห่งอำนาจน่าหวาดกลัว
ใครคิดชั่วคงวอดวายไม่ยั่งยืน.