29 มกราคม 2550 10:59 น.
บพิตร
@ คนเลื่องลือความงดงามเจ้าทิวลิป
อยากจะหยิบมาเชยชมดมใกล้ใกล้
แต่ถูกห้ามของหวงเขาห่วงใย
เดินทางไกลแดนกังหันข้ามวันคืน
@ หลากสีสันขาวเหลืองส้มชมไม่เบื่อ
แดงระเรื่อโยกลมไกวไม่แข็งขืน
เจ้าสู้ทนลมร้อนพัดยังหยัดยืน
ท้ายสุดฝืนธรรมชาติมิอาจทน
@ ถิ่นกำเนิดแถบยุโรปพบลมหนาว
น้ำค้างพราวหิมะปรายคล้ายฝอยฝน
เย็นยะเยือกเจ้าเริงร่าท้าผู้คน
ให้ไปยลความสดใสในฮอลแลนด์
@ เจ้าเดินทางมาเมืองไทยให้ยลโฉม
ข่าวประโคมเชิญชวนมาว่างามแสน
พืชสวนโลกงานยิ่งใหญ่ในดินแดน
ณ ผืนแผ่นดินล้านนามาชื่นชม
@ เจ้าไม่ชินอากาศร้อนอ่อนแรงล้า
แสงแดดจ้าจนหม่นไหม้ไร้สุขสม
ชั่วข้ามคืนเจ้าทุกข์โศกวิโยคตรม
แสนขื่นขมเกินเริงร่าท้าแดดแรง
@ บทสุดท้ายยืนต้นตายเหมือนไร้ค่า
ดุจดาราคราร่วงลับดับสีแสง
พอหมดสวยเหี่ยวเฉาเจ้ากรอบแดง
เจ้าตายแห้งก็ทิ้งไปไม่ใยดี.
22 มกราคม 2550 10:48 น.
บพิตร
@ ข่าวบันเทิงไม่เริงรมย์สมชื่อข่าว
มีแต่เรื่องข่าวคาวความฉาวโฉ่
เหล่าดาราเปลี่ยนเมียผัวออกมาโชว์
นำทรงโตออกมาอวดน่าปวดใจ
@ เปลี่ยนคู่ควงจากคนนั้นเป็นคนนี้
บ้างย้ายที่อยู่กินกันน่าหมั่นไส้
มาออกข่าวว่าทดลองอยู่กันไป
หากขัดใจก็เลิกราไม่ว่ากัน
@ ท้องก่อนแต่งแย่งแฟนแสนน่าเบื่อ
ยิ้มระเรื่อไม่เหนียมอายไม่ไหวหวั่น
บ้างแม่หม้ายชอบวัยรุ่นกรุ่นกลัดมัน
กอดรัดกันเป็นข่าวใหญ่ไม่ปิดบัง
@ ข่าวเตียงหักรักสลายหม้ายขันหมาก
บ้างข้ามฟากควงต่างชาติวาดความหวัง
เกาะคนรวยลูกเศรษฐีคนมีตังค์
ลูกคนดังเลวไม่ว่าตั้งตารอ
@ ไม่รักนวลสงวนตัวมั่วกามา
เป็นดาราหน้าไม่อายกระไรหนอ
ข่าวบันเทิงเสนอมาออกหน้าจอ
ล้วนแต่ก่อความหม่นไหม้ไร้รื่นรมย์
@ เหล่าดาราพึงสังวรก่อนเป็นข่าว
ทุกเรื่องราวสำนึกไว้ให้เหมาะสม
เป็นแบบอย่างคนดีศรีสังคม
อย่างายงมโลกมายาลืมค่าตน.
18 มกราคม 2550 14:21 น.
บพิตร
@ เพลงเพลิงที่พวยพุ่ง
คละเคล้าคลุ้งควันขุ่นขาว
เพลงเพลิงเผยเรื่องราว
ความปวดร้าวในใจใคร
@ เพลิงผลาญเพื่อหาญหัก
มิยอมภักดิ์หลักเกณฑ์ใด
ขัดขืนมิขึ้นใคร
คือขัดข้องไม่คล้อยตาม
@ อำนาจปิดบังตา
ทิ้งคุณค่าคนเลวทราม
เห็นชั่วเป็นดีงาม
ไร้สำนึกไม่ตรึกตรอง
@ เพลงเพลิงของคนพ่าย
เด็กหญิงชายน้ำตานอง
เสียงใครประกาศก้อง
ไม่แพ้ใครในแผ่นดิน.
17 มกราคม 2550 14:52 น.
บพิตร
@ มีห้องหนึ่งที่ปิดไว้ในใจฉัน
ไม่มีวันที่ใครใครจะได้เห็น
มีเพียงฉันที่เปิดเข้าทุกเช้าเย็น
แฝงกายเร้นเพียงลำพังด้วยตั้งใจ
@ ณ ห้องนี้มีทุกอย่างที่เป็นเธอ
ครั้งแรกเจอจนวันนี้ที่เก็บไว้
กาลเวลาจะผันผ่านนานเท่าใด
มิหวั่นไหวยังคงมั่นไม่ผันแปร
@ ทุกอารมณ์ความรู้สึกความนึกคิด
ยังตรึงติดในห้องนั้นมั่นคงแน่
ภาพความสุขความฝันฉันดูแล
ไม่เคยแม้เผลอบอกใครให้ได้ยิน
@ จะเก็บเธอในห้องนี้นิรันดร
จะซุกซ่อนเป็นห้องลับจนดับดิ้น
จะเปิดแง้มให้ฉันเห็นเป็นอาจิณ
จะสูญสิ้นเมื่อตัวฉันนั้นสิ้นลม.
16 มกราคม 2550 13:38 น.
บพิตร
@ โอ้คุณครูในมือถือเพียงชอล์ก
ปากพร่ำบอกสอนสั่งอย่าฉาดฉาน
สอนศิษย์ให้ได้มีวิชาการ
มุ่งทำงานเป็นครูผู้อารี
@ มัจจุราชยืนมองจ้องเขม็ง
ยกปืนเล็งตรงร่างอย่างภูตผี
กระหายเลือดอสูรร้ายไม่ใยดี
ครูผู้มีแต่ให้ไร้มลทิน
@ เสียงปืนร้ายแผดร้องก้องสนั่น
ร่างครูพลันล้มกองต้องด่าวดิ้น
เลือดสีแดงไหลนองกองกลางดิน
ตายเฝ้าถิ่นแดนใต้ถิ่นไทยงาม
@ ครูคือครูผู้ให้ใช่นักรบ
กลายเป็นศพฝังดินถิ่นสยาม
เด็กร่ำไห้เสียงก้องร้องประณาม
คนเลวทรามชั่วช้าน่าละอาย
@ ครูทำผิดสิ่งใดใคร่รู้นัก
ที่ประจักษ์คือนำทางสร้างความหมาย
ให้ความรู้สอนสั่งทั้งหญิงชาย
เหล่าผีร้ายมาฆ่าครูหนูทำไม?
@ เห็นแท่งชอล์กกับกระดานที่ว่างเปล่า
ฝุ่นชอล์กขาวบางพร่าน้ำตาไหล
หยิบแท่งชอล์กเขียนฝากจากหัวใจ
ขอได้ไหม? ขอครูหนูคืนมา