10 สิงหาคม 2548 11:42 น.
บพิตร
" ท่ามกลางกระแสความรุนแรง
การลอบทำร้ายผู้คน
หลายชีวิตต้องสังเวย
จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
ใครกันเล่าที่เจ็บปวด
ใครกันเล่าที่ต้องสูญเสีย
ถ้าเป็นคุณจะคิดอย่างไร
หากวันนี้คุณไม่มีพ่อ."
@ คืนร้อนตอนใกล้สาง
พ่อกรีดยางย่ำโคลนตม
ฝูงห่ากระสุนคม
พุ่งฉีกร่างพ่อครางครวญ
@ เลือดแดงทาแผ่นดิน
ชีพพ่อสิ้นกลางร่องสวน
คละคลุ้งคาวอบอวล
อิ่มอกใครใคร่รู้จริง
@ ลูกน้อยต้องขาดพ่อ
อนาถหนอทั้งชายหญิง
ผิดใดใครเล่ายิง
เอาชีพพ่อเพื่อสิ่งใด
@ ยางใหญ่ยังยืนยง
ต่อนี้คงไม่มีใคร
กดมีดกรีดยางไหล
เหลือรอยเลือดรดโคนยาง
@ เสียงแม่สะอื้นอัก
สุดจะหักสิ้นหนทาง
กอดลูกไว้แนบข้าง
เคียงศพพ่อเพ้อรำพัน
@ คืนหนาวคราวฟ้าหม่น
คงไร้คนคู่เคียงฝัน
เหลือเพียงเสียงจำนรรจ์
จากลูกน้อยคอยปลอบใจ
@ วันนี้ไม่มีพ่อ
ลูกจะขอตั้งฤทัย
วันหน้าเมื่อเติบใหญ่
จะกรีดยางอย่างพ่อเรา.
4 สิงหาคม 2548 11:27 น.
บพิตร
ห้วงคำนึงครั้งก่อนตอนยังเด็ก
เห็นรางเหล็กรถไฟให้กังขา
ทางทอดยาวแสนไกลสุดสายตา
อยากรู้ว่าสิ้นสุดจุดหมายใด
เมื่อเติบโตเดินทางสร้างความฝัน
ด้วยมุ่งมั่นแสวงหาค่ายิ่งใหญ่
ออกผจญโลกกว้างนั่งรถไฟ
สู่กรุงไกรจึงพบจบเส้นทาง
ข้อกังขาเยาว์วัยได้คำตอบ
บททดสอบบทใหม่ให้สะสาง
รถไฟเดินสิ้นสุดจุดปลายราง
ชีวิตย่างเริ่มต้นบนชาลา
เห็นผู้คนมากมายทั้งชายหญิง
ทั้งเดินวิ่งขวักไขว่ไม่คุ้นหน้า
บ้างแบกขนปนเปเร่ร่อนมา
ทั้งเสียงด่าเสียงบ่นจนวุ่นวาย
บ้างอุ้มลูกจูงหลานขานเรียกเพื่อน
ลากล้อเลื่อนขนของคล้องเชือกสาย
บ้างก็มาคนเดียวแสนเปลี่ยวดาย
บ้างหญิงชายเคียงคู่ดูรื่นรมย์
ทางรถไฟยังมีที่สิ้นสุด
นำมนุษย์สู่จุดหมายได้ดั่งสม
ชีวิตคนหยุดดิ้นเมื่อสิ้นลม
ถึงเศร้าตรมอย่าท้อสู้ต่อไป.
4 สิงหาคม 2548 08:16 น.
บพิตร
ยามรัก-ยามชัง
ยามรัก มักเอ่ยอ้าง ความดี
ความชั่วดั่งธุลี ซ่อนไว้
ยลเพียงสิ่งโสภี งามยิ่ง
สองร่วมสานฝันให้ เจิดจ้างดงาม
ยามชัง ช่างรุมร้อน ดวงจิต
ความชั่วเพียงน้อยนิด กล่าวอ้าง
เห็นเป็นเรื่องวิปริต ยิ่งใหญ่
เกินกว่าสานต่อสร้าง จึ่งร้างลากัน.