เยี่ยมดอกปริ่มน้ำมาย่ำเช้า อาทิตย์ยิ้มยั่วเย้าเยาว์สมัย อ้อมกอดแดดอุ่นละมุนละไม หยดน้ำค้างกลั่นใจบนใบบัวเย็นลมโชยพัดชายมาอ่อนอ่อน แดดร้อนสาดสายกระจายทั่ว จากเต่งตูมผ่านคืนได้ตื่นตัว รับแดดยั่วเร่งรีบเผยกลีบบาน
บานแล้วเจ้าสล้างอยู่กลางบึง หมู่ภู่ผึ้งเชยชมลมพัดผ่าน งามกลีบซ้อนซ่อนกลีบตระการ ฉ่ำหวานรสเกสรซุกซ่อนใน
คือบ่อทิพย์หยิบยื่นมธุรส ภู่ผึ้งจึงปรากฏทั้งไกลใกล้ คลุกเคล้าเกสรแล้วว่อนไป สู่แห่งหนใดสร้างรวงรัง
บานแล้วลุกาลแห่งสมัย กลีบบานผ่านวัยมิหยุดรั้ง แห้งเหี่ยวอับเฉาในเงาบัง ร่วงโรยโปรยยังผืนนที
เป็นสำเภาเกลากลึงประหนึ่งจิต เนรมิตลอยคว้างกลางพื้นที่ แห่งภพชาติทั้งปวงห้วงวารี จนลับลี้หลุดพ้นไม่วนเวียน
เกิดแต่ตมจมปลักไม่หมักหมม ในโคลนตมหล่มนั้นแล้วผันเปลี่ยน รอดพ้นเต่าปูปลาอันมาเพียร เฝ้าเยี่ยมเยียนกัดกินเกือบสิ้นกอ
จึงโผล่ตนพ้นภัยเต่าปูปลา รับแดดจ้ากำหนดด้วยจดจ่อ ในอ้อมกอดอรุณอบอุ่นรอ จากตูมต่อตื่นตัว....เป็นบัวบาน
ฉ้อฉลแยบยลกลอุบาย
ราษฏร์ถูกหมายเรียกยื่นความขื่นขม บังเบียดซุกซอนแล้วซ่อนปม หลวงระทมฝูงห่าประดาลงคดในข้อแถมยังส่อทุจริต โกงเป็นกิจถนัดวิบัติบ่ง ปลิ้นปลอกหลอกให้ปักใจปลง ปล้อนให้หลงด้วยเล่ห์เพทุบาย
ฉ้อกันเป็นระบบตระหลบสัตย์ ราษฎร์อึดอัดเขาเห็นเป็นของง่าย บังตาแล้วมืดใจไร้ยางอาย หลวงวอดวายปี้ป่นด้วยคนโกง
อำนาจเด่นเป็นหลักก็มักใหญ่ อำนวยให้เงินทองเต็มห้องโถง อำพรางนอกเน่าในใจเป็นโพรง อำเภอใจยืดโยงแต่โกงกิน
ซื่อสัตย์ครองกมลคนมีสัตย์ กินอย่างอัตคัตผลัดหนี้สิน ได้ดีแต่ตกอับเป็นอาจิณ อดอยากสิ้นลูกเมียละเหี่ยใจ
คดในข้อแถมงอในกระดูก กินพันผูกทวนน้ำตามน้ำไหล อยู่อย่างไม่เกรงกลัวความชั่วใด นานเพียงไรเหลือบริ้นมันกินเมือง
มือสิบนิ้วลิ่วล้อคอยต่อนิ้ว ใครโหยหิวหาทางเข้าวางเขื่อง ยาวจึงต่อความยืดไม่ฝืดเคือง สาวจนเฟืองฟันหักหวังตักตวง
ได้เพียงคืบคิดเหมาจะเอาศอก สาวออกมาเต็มตักจนหนักหน่วง เอาโลภเป็นดวงตาตัณหาลวง ราษฏร์และหลวงป่นปี้...พวกขี้โกง
มี-มิตรแท้แผ่เผื่อคอยเจือจุน เพื่อน-การุณย์เสมือนแม่คอยแผ่อุ้ม ดี-แม้ยามทุกข์ร้อนมารอนรุม เพียง-คอยคุ้มปกปักษ์ด้วยรักจริง
หนึ่ง-ในโลกคือเพื่อนไม่เคลื่อนคล้อย ถึง-ลับลอยม้วยมรณ์ไม่ถอนทิ้ง
จะ-ปกป้องผองภัยไม่ประวิง น้อย-แต่ยิ่งสูงค่าราคาคน
ดี-อะไรไม่ดีเท่ามีเพื่อน กว่า-โลกเปื้อนเถื่อนถ่อยคอยฉ้อฉล
ร้อย-มารยาสันดานเป็นพาลชน เพื่อน-ปลอมปนปล้นเราเฝ้าคอยกินคิด-แต่ได้ให้ไม่เป็นเห็นประโยชน์ ริษยา-หาแต่โทษใจโหดหิน เหมือน-สายธารฉ่ำใจยามไหลริน ดั่ง-โชยกลิ่นหอมหวนมวลผกา
เกลือ-คงค่าความเค็มอยู่เต็มที่ เม็ด-หนึ่งมีรสเค็มเต็มชิวหา น้อย-แต่คงยงเยี่ยมเปี่ยมอัตรา ด้อย-แต่เด่นในค่าความเป็นตน
รา-ตรีงามด้วยดาวที่พราวพร่าง คา-รพวางตนชอบกอปรเหตุผล ยัง-คงชัดอัตราราคาคน ดี-จึงทนพิสูจน์ผ่านกาลเวลา
กว่า-มหาชลาศัยอันใหญ่กว้าง น้ำ-เวิ้งว้างกว้างใหญ่แต่ไร้ค่า เค็ม-แต่ชื่อระบือไปไม่เข้ายา
เต็ม-อัตราทว่าคุณไม่หนุนใคร
ทะ-นงตนอวดตนจึงป่นปี้ เล-ห์กลมีกลับกลอกเกินบอกไหว มีเพื่อนแท้เพียงหนึ่งก็ซึ้งใจ หมื่นพันไซร้ ลับเลือน เพื่อนจอมปลอม...