เจ้าหยาดน้ำค้างมาเยี่ยมเช้า
เจ้าหยาดหยดเกล็ดพราวมาจากไหน เจ้าหยาดมาจากฟากฟ้าใด
กลั่นเป็นหยาดหยดใสอยู่พราวตา
เจ้าผู้มีนามว่าน้ำค้าง
มณีพร่างพร่ำพรอดกับยอดหญ้า
หรือเจ้าคือรัตติกาลอันผ่านมา
แล้วอำลาไปลับกับตาวัน
หรือเจ้าคือน้ำตาของคนโศก
ผู้วิโยคท้อแท้รักแปรผัน
จึงกลั่นหยดน้ำตาความจาบัลย์
เป็นอุษาโศกศัลย์ทิพย์วารี
หรือฟ้าสั่งจากฟ้าเวหาหน
ในคืนค่ำเดือนหม่นดาวริบหรี่
เป็นหยาดหยดน้ำค้างรมณีย์
ปลอบทุกชีวีใต้เดือนดาว
เจ้าผู้มีนามว่าน้ำค้าง
เจ้าคือความอ้างว้างสายลมหนาว
แต่งแต้มยอดหญ้าลดาพราว
ปลอบทุกกรวดเม็ดร้าวคลายร้าวราน
ก่อนเจ้าจะสลายร่าง
ทิ้งยอดหญ้าอ้างว้างผันผ่าน
ก่อนอาทิตย์ลืมตาทิวาวาร
สาดแสงประหารแห่งสุรีย์
บอกข้าได้ไหมเจ้าน้ำค้าง
เจ้าเคยอ้างว้างบ้างไหมนี่
หรือเจ้าเพียงผ่านมามิยินดี
ทุกขณะนาที...ความเปลี่ยนแปลง..!!
สุดท้องทุ่งคุ้งฟ้าคือนาข้าว
เป็นเรื่องราวกล่าวขานตำนานทุ่ง
คนผู้เป็นสันหลังหวังผดุง
และหมายมุ่งปลูกข้าวเป็นชาวนา
คนปลูกข้าวเลี้ยงคนแต่จนอับ
หนี้ย่อยยับดักดานทนหว่านกล้า
สุดท้องทุ่งรวงข้าวขึ้นพราวตา
ปลูกความหวังโรยรากล้าแตกกอ
ถึงหน้าเกี่ยวเคียวคมระดมเกี่ยว
เหลือแต่ซังเหี่ยวเหี่ยวแล้วใจฝ่อ
ข้าวที่ได้ขายสิ้นหนี้สินรอ
ใช้หนี้ก่อต่อหนี้ซ้ำเป็นตำนาน
ตำนานคนทำนาคู่นาข้าว
ผู้หลั่งหยดเหงื่อพราวมากล่าวขาน
กสิกรผู้ทนจนดักดาน
จารึกผ่านผืนดินตราบสิ้นใจ
มาบัดนี้ท้องทุ่งเคยคุ้งฟ้า
หมดผืนนากล้าข้าวพราวไสว
แทนต้นข้าวแตกหน่อชูช่อใบ
เขียวไสวสล้างยางพารา
เขาเปลี่ยนจากชาวนาเป็นชาวสวน
กลิ่นยางอวลกรีดยางกลางสวนป่า
เขาทิ้งเคียวเกี่ยวคมจมกลางนา
มีดกรีดยางพาราแทนเคียวคม
เขาจับมีดกรีดยางน้ำยางหยด
หวังหนี้หมดปลดหนี้ที่หมักหมม
ทำนาข้าวพราวหนี้ทุกปีจม
สวนยางล่มถูกค่าราคายาง
เหมือนคมมีดกรีดคอหนอชาวสวน
ความหวังล้วนหดหู่อยู่อ้างว้าง
จับขวานคมจำเป็นไม่เห็นทาง
มาเป็นคนรับจ้าง...โค่นยางทิ้ง