10 พฤษภาคม 2552 18:28 น.
บนข.
อบายมุขรุกรานนะท่านเอ๋ย
ชีวิตเคยชื่นสุขจะทุกขี
ความเสื่อมถอยถ่อยต่ำระยำยี
คือทางชี้อบายอย่าหมายปอง
หนึ่งความเป็นผู้โฉงเฉงนักเลงหญิง
ไม่เกรงกริ่งอายบาปหยาบทั้งผอง
ถือเป็นชายหลายใจใฝ่ลำพอง
หญิงหนึ่งสองสามสี่ก็มีมา
ไม่สันโดษชื่นชูในคู่รัก
กามชวนชักเห็นใครก็ใฝ่หา
อาจพลาดพลั้งเสียทีมีโรคา
ยากรักษาสุดท้ายก็ตายฟรี
สองนักเลงสุราท่านว่าไว้
ดื่มเข้าไปเช้าค่ำร่ำสุขี
สติหมดสตังค์เกลี้ยงเพียงฤทธี
สุรานี้ชักนำทำมึนเมา
เป็นน้ำเปลี่ยนนิสัยในสันดาน
จากดีผ่านเป็นร้ายกระหายเขลา
นักเลงดื่มอย่าพร่ำรำคาญเรา
ตับแข็งเข้าเร้ารุมจะกลุ้มใจ
อบายมุขที่สามความชั่วนั้น
การพนันขันต่อจะขอไข
ทรัพย์สินมีฉิบหายหญิงชายใด
เป็นทาสในมือมารการพนัน
แม้นไฟไหม้สิบครั้งก็ยังเผื่อ
แผ่นดินเหลือไว้เห็นเย็นใจนั่น
นักเลงเล่นเพียงครั้งมิยั้งพลัน
ทรัพย์ทั้งนั้นเคยกอดก็วอดวาย
อบายมุขที่สี่อย่ามีมั่ว
คบคนชั่วใกล้ชิดมิตรสหาย
เพื่อนสำคัญก็จริงทั้งหญิงชาย
โปรดจงหมายระวังอย่าพลั้งตัว
คบเพื่อนดีเพียงหนึ่งถึงจะน้อย
ดีกว่าร้อยเพื่อนพาลประจานชั่ว
หากคบใครมิตรองจะหมองมัว
ค้นให้ทั่วตัวตนเป็นผลดี
.....คือหนทางสี่แพร่งแหล่งอบาย
ท่านหญิงชายจงฟังอย่าชังหนี
รักกันดอกบอกให้ด้วยไมตรี
โปรดหลีกลี้อบายสบายครัน....
29 เมษายน 2552 20:08 น.
บนข.
กากะหมู่อยู่กันด้วยฉันท์มิตร
เป็นเพื่อนรักใกล้ชิดสนิทสนม
สามัคคีต่อกันมั่นเกลียวกลม
แสนสุขสมไมตรีมีต่อกัน
มีกิจการงานใดไกลหรือใกล้
หนักเบาไซร้ลุล่วงทุกช่วงชั้น
กากะหมูออกแรงช่วงแบ่งปัน
ที่หนักนั้นพลันเบาเพื่อนเบาแรง
กาอาศัยรังนอนเป็นคอนโด
ต้นไม้โตสูงใหญ่บังใบแฝง
สุขสบายปลอดภัยไม่ระแวง
หนาวหรือแล้งแดดฝนก็ทนทาน
ส่วนเจ้าหมูอยู่เล้าไม่เช่าที่
แฟลตชั้นดีติดดินถิ่นสถาน
สุขเสรีเพลิดเพลินมาเนิ่นนาน
ณ วิมานเล้าหมูมันอยู่กิน
มาวันหนึ่งถึงคราประดาสัตว์
ประชุมนัดสัตว์ป่ามาทั้งสิ้น
ด้วยสิงโตเจ้าป่ามาพังภินท์
ด่วนด้าวดิ้นชีวาอำลาไป
จึงจำต้องรวมสัตว์เพื่อคัดหา
เป็นเจ้าป่ากำหนดให้สดใส
ผู้กุมเสียงมากกว่าไม่ว่าใคร
ก็จะได้เป็นเจ้าเข้าครอบครอง
บัดนั้นกาส่งเสียงสำเนียงกา
ว่าฟังข้าชัดชัดสัตว์ทั้งผอง
อันตำแหน่งเจ้าป่าข้าหมายปอง
เหล่าพี่น้องอย่าช้าเลือกข้าที
ข้าเป็นกาอยู่สูงยางยูงไม้
วิสัยทัศน์ข้าไกลไปทุกที่
ทุกเถื่อนถ้ำแนวป่าวนามี
หนึ่งล้านนี้ข้าจะมอบตอบแทนคุณ
ข้าจะสร้างคอนโดเอื้ออาทร
ใครเดือดร้อนกายาอย่าว้าวุ่น
ข้าจะคอยช่วยเหลือคอยเจือจุน
ให้อบอุ่นทั่วป่าพนาแดน
หมูฟังกาปราศรัยใช้วาทะ
เอาละวะกูบ้างจะวางแผน
เกิดเป็นหมูอย่าให้หมู่มันดูแคลน
มิใช่แค้นกากูต้องสู้กัน
หมูจึงยืนสี่ขาประสาหมู
ทำปากจู๋ส่งเสียงสำเนียงนั่น
ว่าฟังก่อนสัตว์ป่าสาระพัน
ตำแหน่งนั้นใครดีก็มีชัย
ข้าเป็นหมูหมู่มากหลากผองเพื่อน
ทุกถ้ำเถื่อนแนวป่าข้าอาศัย
รู้ทุกข์สุขทุกสัตว์วิบัติภัย
วินิจฉัยสัตว์ป่าข้ารู้ดี
หากข้าได้คะแนนเป็นแสน,ล้าน
ได้โหวตผ่านข้ารั้งนั่งเก้าอี้
เป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่าบรรดามี
งบทั้งนี้ข้าจะผันบันดาลดล
ใครเจ็บป่วยขึ้นมารักษาขาด
สามสิบบาทแน่หนอไม่ฉ้อฉล
ให้อยู่ฟรีกินฟรีไม่มีจน
ทุกสัตว์ตนอย่าช้าเลือกข้าพลัน
จึงบัดนั้นสัตว์ป่าบรรดาเผ่า
ก็แบ่งเหล่าแบ่งแหล่งเพื่อแข่งขัน
ทั้งกาหมูสูสีไล่บี้กัน
คะแนนนั้นใกล้เคียงลำเลียงมา
กานั้นโชว์นโยบายสบายเหลือ
ทุกสิ่งเอื้ออาทรแน่นอนท้า
ส่วนหมูเน้นจุดขายหมายตีตรา
ทุกสิ่งว่าต้องฟรีไม่มีจน
จึงเกิดการย่ำยีชิงดีเด่น
ไม่ละเว้นรุนแรงทุกแห่งหน
กาจิกหมูหมูกัดกาจลาจล
ต่างคิดค้นวิธีเข้าบีฑา
ความแตกต่างชัดชัดสัตว์แตกแยก
ป่าจึงแหลกสามัคคีไม่มีค่า
ปรากฏการณ์เหลืองแดงก็แฝงมา
สัตว์ถ้วนหน้าใหญ่น้อยก็พลอยเป็น
ดูก่อนเถิดหมูกาสัตว์ป่าเอ๋ย
แต่ก่อนเคยรักกันทุกวันเห็น
กลับมาแตกแยกอยู่ดูลำเค็ญ
เรื่องทุกข์เข็ญชิงเด่นเป็นผู้นำ
เป็นผู้นำสำราญได้ไฉน
เมื่อสัตว์ป่าส่วนใหญ่นั้นชอกช้ำ
ป่าที่แหลกแซกถามความระยำ
สัตว์ใดทำคิดดูหมูหรือกา....
27 เมษายน 2552 19:08 น.
บนข.
ฉันเขียนคำว่ารักไว้บนฟ้า
ฝากทุกดวงดาราอันเฉิดฉาย
ดาวกระพริบวิบวับระยับพราย
สื่อความหมายจากใจใครบางคน
หากคืนนี้เธอมองบนท้องฟ้า
เหงากายาพาใจให้หมองหม่น
สบตาดาวทุกดวง ณ ห้วงบน
คือรักฉันเกลื่อนกล่นบนดวงดาว
ฉันเขียนคำว่ารักไว้บนฟ้า
แล้วฝากเพ็ญจันทราเวหาหาว
แสงจันทร์เพ็ญเย็นตาเมื่อคราคราว
ส่องสกาวงดงามเมื่อยามเพ็ญ
หากคืนนี้เธอมองบนท้องฟ้า
เงาจันทราสาดส่องเมื่อมองเห็น
คือรักฉันจันทร์ฉายคล้ายเงาเป็น
ให้เนื้อเย็นคลายเหงาใต้เงาจันทร์
ฉันเขียนคำว่ารักไว้บนฟ้า
ฝากสายลมพัดพาคำรักนั้น
ลมรำเพยพัดผ่านทุกวารวัน
คือรักฉันปลิวไปในสายลม
หากลมจูบลูบไล้ให้คลายร้อน
ใจบังอรสดชื่นไม่ขื่นขม
คือรักฉันหยิบยื่นให้ชื่นชม
ผ่านสายลมพัดใจใครบางคน
ฉันเขียนคำว่ารักไว้บนฟ้า
ฝากเมฆาโปรยปรายเป็นสายฝน
ให้ชุ่มชื่นเย็นฉ่ำนำทุกข์ทน
และร้อนรนจางคลายมลายพลัน
หากฝนตกลงมาครั้งคราใด
คือรักฉันนั่นไซร้คล้ายวสันต์
มิอาจนับคำนวนจำนวนมัน
หมื่นล้านนั่นนับรอยยังน้อยไป
ฉันเขียนคำว่ารักไว้บนฟ้า
ฝากทุกาลเวลาฟ้าดินไว้
แม้นเธออยู่ขอบฟ้าดาราใด
โปรดรับไว้รักฉันนิรันดร....
29 มีนาคม 2552 18:32 น.
บนข.
เก็บสองพันฝันใฝ่ไม่โกหก
เรายาจกเลื่อนชั้นขั้นเศรษฐี
มะพร้าวตื่นลูกดกยาจกนี้
ก็ตื่นมีเงินพันบันดาลดล
ด้วยรัฐท่านมีจิตคิดสงสาร
จึงโปรยทานหว่านทุนบุญกุศล
แก้ฐานะลำบากคนยากจน
เพื่อทุกคนมีหวังกำลังใจ
เก็บสองพันฝันหวานปานเศรษฐี
จะซื้อที่อย่างฝันสักพันไร่
ซื้อให้หมดทั้งเขตประเทศไทย
ซื้อเรื่อยไปทุกห้วงทุกดวงดาว
เราจะปล่อยความจนความหม่นหมอง
ให้ลอยล่องนภาเวหาหาว
พอกันทีทุกข์เข็ญน่าเหม็นคาว
คงถึงคราวสุขสมภิรมย์ใจ
เก็บสองพันฝันหวานปานเศรษฐี
จะซื้อเบนซ์มาขี่ซักทีไหม
แล้วเปลี่ยนรุ่นประจำไม่ซ้ำใคร
เก่าทิ้งไปให้พังตังค์เรามี
เบื่อแล้วนั่งรถเมล์ทะเลฝุ่น
มะเร็งลุ้นลงปอดกอดเรานี้
จะเชิดหูชูชาติมาดผู้ดี
ในเบนซ์ขี่เย็นฉ่ำนั่งอำเพลง
เก็บสองพันฝันใฝ่ไม่โกหก
ท่านนายกบรรจงมาตรงเผง
เราคนจนทุกข์ท้นคนกันเอง
แสนวังเวงท่านตีค่าราคาพัน
ขอขอบคุณรัฐบาลที่ผ่านงบ
สองพันครบแจกจ่ายเพื่อขายฝัน
จะจ่ายให้คุ่มค่าราคามัน
ต่อชีวันยาจก....นายกไทย....
27 มีนาคม 2552 05:54 น.
บนข.
เมื่อมองคนค้นผ่านสันดานหมา
ย่อมเห็นค่ามิต่างระหว่างสัตว์
จะหมาไทยหมาเทศหรือหมาวัด
หมาจรจัดอนาถาหมาฟั่นเฟือน
หมาคนรวยคนจนค้นให้ทั่ว
หมาทุกตัวเรื่อยมาหมาขี้เรื้อน
สัญชาติหมาเจ้ากรรมมันย้ำเตือน
ไม่แชเชือนหมาหมู่กรูกันมา
เศษอาหารใส่จานอันน้อยนิด
หมาไม่คิดแบ่งปันกันทั่วหน้า
มันสมองน้อยนิดอนิจจา
สี่ตีนกล้าตะลุมรุมแย่งกัน
มีเขี้ยวคมอาวุธยุทธศาสตร์
ขบกัดขาดเลือดไหลเห็นไหมนั่น
ต้องพิกลพิการสังขารมัน
สิ่งยืนยันสันดานประจานตน
ย่อมสมนามเดรัจฉานขนานแท้
ขวางโลกแลชัดชัดสัตว์หน้าขน
ภพภูมิต่ำส่ำสัตว์ในวัฏฏ์วน
ที่จะพ้นอบายอย่าหมายมี
เมื่อมองคนค้นผ่านสันดานหมา
จะเห็นค่าใดต่างระหว่างนี้
โลภโกรธหลงบงการผ่านชีวี
ทุกทุกที่วุ่นวายก็กรายมา
มือใครยาวสาวได้ก็หมายมั่น
อามิสนั้นผูกใจก็ไขว่คว้า
บ้างทะเลาะตบตีเข้าบีฑา
สันดานหมาผ่านคนให้ค้นดู
จึงสำนวนเขาว่าหมาแย่งขี้
ก็เห็นมีในมนุษย์น่าอดสู
คนค้นคนกลใดให้เชิดชู
โลกรับรู้คนหมา....ค่าเดียวกัน...