31 ธันวาคม 2553 08:16 น.
บนข.
ปีใหม่ปีใหม่คิดปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่คิดปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่คิดปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่คิดปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่พูดปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่พูดปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่พูดปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่พูดปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ทำปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ทำปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ทำปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ทำปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ดีปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่สุขปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ใจปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่สุขปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ใจปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่สุขปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ใจปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่สุขปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่ใจปีใหม่ปีให
ปีใหม่ปีใหม่สุขปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่กายปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่สุขปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่กายปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่สุขปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่กายปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่สุขปีใหม่ปีใหม่
ปีใหม่ปีใหม่กายปีใหม่ปีใหม่
28 ธันวาคม 2553 20:13 น.
บนข.
วันวานยังหวานอยู่
แต่วันนี้กลับหดหู่รับปีใหม่
หรือเกิดเหตุอาเภทใด
โน่นปีเก่าผ่านไปปีใหม่มา
แว่วเสียงเพลงบันเทิงเถลิงศก
แต่เรากลับตระหนกได้ไงหว่า
กี่ปีผ่านเราก็ผ่านกาลเวลา
แห้งโรยราย่อยยับไปกับวัน
วันวานยังหวานอยู่
แต่วันนี้กลับหดหู่ไม่สุขสันต์
แม้นฤกษ์งามยามดีปีใหม่วัน
ดูซิฉันกลับผ่านโดนผลาญวัย
จะปีใหม่วันใหม่ช่างใครเถอะ
ฉันไม่เซอะว่างามตามเงื่อนไข
เก็บวันวานหวานกรุ่นพออุ่นใจ
ยิ้มละไมกับกาลที่ผ่านมา
วันวานยังหวานอยู่
แต่วันนี้กลับหดหู่ไม่เข้าท่า
ว่าจะยิ้มสักนิด...อนิจจา
รอยตีนกากลับเด่นเห็นเป็นรอย
จึงจำใจกล้ำกลืนฝืนยิ้มแหย
โบกมือรับความแก่อยู่เหงาหงอย
โอ้ความหนุ่มยากยื้อยุดมันหลุดลอย
เหลือเพียงน้อยนับสั้นทุกวันคืน
วันวานยังหวานอยู่
แต่วันนี้แม้นหดหู่จะขัดขืน
จะเรียกวันหวานๆในวานซืน
มาหยิบยื่นความหวานในวันนี้
ฉันจะยิ้มรับขวัญวันปีใหม่
ฉลองวันฉลองวัยให้สุขี
ให้ทุกวันเป็นวันหวานซ่านฤดี
ตีนกามี...ผมสี(ขาว)บ้าง...ช่างหัวมัน
15 ธันวาคม 2553 18:45 น.
บนข.
ไม่อยากรักแต่ยากนักหักใจห้าม
คิดครั่นคร้ามหวั่นไหวใจหวิวๆ
หรือว่าเรา เขาว่าใจปลาซิว
เรื่องชิวๆกลับหงอมารอรา
ก็รักแนบแอบรักประจักษ์จิต
เธอจะคิดหรือไม่ใช่ปัญหา
ฉันแค่หวังปลูกรักไว้สักครา
อยู่แค่ริมชายคาหัวใจเธอ
ไม่อยากรักแต่ยากนักหักใจห้าม
คดีความหัวใจที่ไผลเผลอ
ผิดที่ฉันปล่อยใจหรือไรเออ
จนเผอเรอเผลอรักสลักทรวง
แต่ยินดีถูกปรักปรำเป็นจำเลย
หากเธอเอ่ยฟ้องร้องมิต้องห่วง
ยอมติดคุกคุมขังใจทั้งดวง
อยู่ในห้วงสิเนหาทุกครารัก
ไม่อยากรักแต่ยากนักหักใจคิด
เรื่องความรักน้อยนิดแต่คิดหนัก
เสมือนสุขแต่ไม่สุขทุกข์ชวนชัก
ก็แส่นักรักเลือกเสือกหัวใจ
เมื่อเป็นรักข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่ง
น้ำใจเธอท่วมถึงก็สุกใส
แต่หากเธอเฉยเมยละเลยไป
ก็แห้งเหี่ยวอาลัยอยู่โรยรา
ไม่อยากรักแต่ยากนักหักใจหวน
รักแต่สวนครวญคร่ำพร่ำเพรียกหา
อยู่แต่สวน ไปแต่สวนล้วนเอกา
ทุกเวลาอยู่แต่สวนมิควรเลย
ต่อไปนี้จะไม่อยู่อย่างคนเหงา
โปรดนะเจ้าฟังคำพร่ำเฉลย
เธอก็ยู่แต่สวนนะทรามเชย
อย่าเฉยเมยปล่อยฉัน...ฝันแต่สวน...
6 ธันวาคม 2553 18:57 น.
บนข.
เมื่อกำเนิดสังขารมารหัวขน
เหมือนถูกปล้นความสุขสนุกสนาน
เอาไว้ใยอับอายตนคนประจาน
ท้องนี้ผ่านกี่ท้องครรลองกาม
เพราะพลั้งพลาดเผลอไผลหรือใจง่าย
หญิงหรือชายไม่เห็นเป็นของห้าม
มารหัวขนจึงก่อรอประณาม
ใครเลวทรามความจริงหญิงหรือชาย
เมื่ออดเปรี้ยวไว้กินหวานมันผ่านยุค
ถึงชิงสุกก่อนห่ามความมักง่าย
ใครใคร่ท้อง ท้อง สบาย
ใครอับอายใคร่แท้ง แท้งกันเพลิน
ก็แค่เลือดก้อนหนึ่งซึ่งผิดพลาด
ซึ่งมิอาจเก็บไว้ให้ขัดเขิน
คลินิกเถื่อน หมอเถื่อนเกลื่อน....เชิญ
ชีวิตหนึ่งยับเยินเผชิญกรรม
ยุคความใคร่แทนที่หนีความรัก
ใครจักอาจห้ามจิตคิดถลำ
ชายเสนอหญิงสนองลองกระทำ
ความใคร่นำเกาะกินสิ้นสังวร
วิญญาณเด็กจะฟ้องใครในปรโลก
ว่าทุกข์โศกมากมายยากถ่ายถอน
ใครทมิฬหินชาติฆาตกร
ชายบิดร หญิงมารดา หรือว่าใคร
เมื่อกำเนิดสังขารมารหัวขน
ผลิตผลหื่นห่ามและความใคร่
มิต้องถามถึงความรักตระหนักใด
นอกจากใจมักง่ายหญิงชายมี
ศพทารกหมกวัดพลัดจากท้อง
วิญญาณก้องร้องกู่อยู่อึงมี่
มารหัวขนผลงานใครไม่รู้ซี
อนุสาวรีย์ไร้สำนึกจารึก ก....าม
24 พฤศจิกายน 2553 21:27 น.
บนข.
นานแล้วไม่ได้เขียนกลอน
ความคิดกร่อนสมองพรุนวุ่นชะมัด
งานหลักรุมสุมตัวมันรัวกัด
งานจรนัดสุมหัวไม่กลัวเกรง
งานหลวง(พ่อ)มารอจ่อกุฏิ
งานราษฏร์ริท้าสู้อยู่เหยงๆ
งานท่านมาร้องขอรอบรรเลง
อยู่โขมงโฉงเฉงหน้าบันได
นานแล้วไม่ได้เขียนกลอน
เพราะงานจรงานหลักมันผลักไส
ทั้งงานท่านงานเธอ...เอ้องานใคร
งานไหนๆก็ผ่าน...เว้นงานตู
มันกองสุมรุมกองสองสามสี่
เท่าทวีดินงอกพอกหางหมู
งานงานงานแม้นคิดมิตรศัตรู
แต่งานสอนให้รู้ค่าราคาคน
นานแล้วไม่ได้เขียนกลอน
ความคิดว่อนหายวับดูสับสน
จับดินสอจ่อจดกำหนดตน
ก็จับต้นชนปลายไม่ได้การ
จึงปล่อยหน้ากระดาษให้ว่างเปล่า
ไร้แม้เงาบทกลอนอักษรสาร
หมดความคิดสร้างสรรค์จะบันดาล
แต่ยืนกรานพากเพียรจะเขียนไป
วันนี้จะเขียนกลอน
ทิ้งงานหลักงานจรก่อนดีไหม
งานหลวง(พ่อ)รอก่อนผ่อนปะไร
งานราษฎร์ไซร้ช้าช้าอย่าว่ากัน
อีกงานท่านงานเธออย่าเพ้อพก
ขอหยิบยกไว้ก่อนค่อยผ่อนผัน
แม้แต่งานหัวใจไม่สำคัญ
เท่างานฉันพากเพียร...งานเขียนกลอน