16 มีนาคม 2548 18:49 น.
น.นิรัติศัย
หนึ่งแค้น จอมยุทธไร้ฝีมือ
สองแค้น นารีชีพไม่ยืน
สามแค้น วารินคลื่นไม่สิ้น
สี่แค้น โลกล้าผันแปล
ห้าแค้น หน้ามุขไม่มิดชิด
หกแค้น ใบไม้มีตำหนิ
เจ็ดแค้น ปักเป้าเปี่ยมด้วยพิษ
แปดแค้น กิ่งบุปผาเสี้ยนหนามงอก
เก้าแค้น ค่ำคืนยุงชุกชุม
สิบแค้น ห้าวหาญซ่อนผวา
สิบเอ็ดแค้น ไม่เคยลิ้มรสผ่าย
สิบสองแค้น ใต้หล้าไร้เทียมทาน
"แก่งแยงชิงดีซึ่งชื่อเสียง
ชีวิตมนุษย์สั้นนิดเดียว
โลกีย์เรื่องราวไม่หมดสิ้น
ไม่ช้าโลกหล้าคือคนเขลา
11 มีนาคม 2548 20:04 น.
น.นิรัติศัย
วันนี้ คือวันที่เศร้าที่สุด ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร
อยากเศร้ามั่งอะไรทำนองนั้น
คนเรามีความจริงใจกันบ้างมั้ยนอกจากการหลอกลวง
หรือเสแสร้งแกล้งพุด แกล้งยิ้มให้กันอะไรทำนองนั้น
แต่ไม่เลย ไม่มีใครต้องการแบบนั้นหรอกจะว่าไปแล้วน้อยนักที่
ยอมรับกับความจริงที่ทำให้เจ้บช้ำได้
คนเรารักมาก ก็ช้ำมาก หวังมาก ก็เหนื่อยมาก
ไม่มีที่สิ้นสุด
เหมือนไหร่จะดีกว่าที่พบเจอ
เมื่อไหร่จะดีกว่าที่เป็นอยู่
และเมื่อไหรจะจริงใจซึ่งกันและกัน
ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนกล่าวพาดพิงถึงใครหรือใคร
แต่ช่วงอารมณ์หนึ่งเท่านั้นที่ข้าพเจ้ารู้สึกแบบนี้
ความเศร้า คู่กันไปกับความสุข
เมื่อไหร่ไม่เศร้า เมื่อนั่น........
น่าจะมี.....ความสุข
10 มีนาคม 2548 19:12 น.
น.นิรัติศัย
ถ้าใจจะต้องปวดร้าว
อย่างไรก้ต้องปวดร้าว
เร็วไปสองวันจะเป้นไรไป
การยอมรับซึ่งกันและกัน เป้นกำลังใจของความรัก
ทุกอย่างดีขึ้น เมื่อเรายอมรับและพอใจในตัวของเรา
ยอมรับวึ่งกันและกัน ดีกว่า เรียกร้องเอาจากกันและกัน
เวลาและความปวดร้าว เป็นบทพิสูจน์ความรัก
เตือนตนเอง ให้มั่นคง และรอคอย
สิทธิอยุ่ที่การแสวงหา หน้าที่อยุ่ที่การสังเกต สำเร็จอยุ่ที่การเดินทาง
สิทธิอยุ่ที่การให้อภัย หน้าที่อยุ่ที่ความอ่อนโยน สำเร้จอยุ่ที่สัตติสุข
การพิสูจน์ตนเองที่ดี
อาศัยเวลาและการกระทำ
มิใช่คำอธิบายและเหตุผล
อย่ารีบร้อนที่จะอธิบาย
การอธิบายที่ดีต้องอาศัยจังหวะและเวลา
การอธิบายที่ดีต้องคอยให้ผู้ฟังพร้อมจะฟัง
10 มีนาคม 2548 18:54 น.
น.นิรัติศัย
ผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นแบบนั้น วันแล้ววันเล่า ผมรอคอยเธอกลับมาหาผม นานเท่านาน
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ยาวนาน และตราตรึงอยุ่ในความทุกข์ระทม จนถึงขั้วหัวใจ ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาความไว้ใจไม่ได้ช่วยอะไร ให้มีดีขึ้น
ยิ่งนานวัน จิตใจเริ่มอ่อนล้า เพียงเพราะอีกฝ่ายไม่เคยทำอะไรให้มันสมกับคำว่า ไว้ใจฉันเถอะนะ
เวลาคนเราเหงาๆ หงอยๆ เบื่อหน่าย เป็นอาลัยตายอยากให้ชีวิตมักคิดถึงคนรูใจหรือคนรักอะไรทำนองนั้น แล้วฝ่ายตรงกันข้ามจะคิดถึงเหมือนอย่างที่ตนเองคิดหรือเปล่าหละ
การรอคอยเพียงเพื่อเจอกันในหนึ่งเดือน เจอกัน 4 วัน ในทุกสัปดาห์ มันยังไม่เพียงพอต่อความรักกระนั้นหรือ.
หรือ อย่าเจอกันเลยดีกว่า คนเราก็แปลก เมื่อมีความรักมันมีทุกข์ .. แต่พร้อมจะรอคอยการเจอเจอกันในแต่ละครั้ง
10 มีนาคม 2548 18:49 น.
น.นิรัติศัย
แต่ทุกคนขณะนี้ ล้วนจ้ำพายอย่างเอาเป็นเอาตาย บ้างลมๆ แล้งๆ บ้างเพ้อเจ้อ บ้างฆ่าเวลาในแต่ละวัน
ล้วนสร้างแรงใจให้ต่อสู้ต่อไปภายใต้โลกอันเน่าเฟะของการเอารักเอาเปรียบในขณะนี้
นั่นหรือ ฝันที่คุณอยากเจอ นั่นหรือผลของความฝันที่ไร้ขอบเขต และนี่หรือ สิ่งที่ทุกคนฝัน
โลก ใบนี้สร้างความบอกช้ำให้กับมนุษย์ผู้ยึดติดกับความฝันอันเพ้อเจ้อ วันแล้ววันเล่าเฝ้าฝันอย่างใจจดใจจ่อ ไม่เคยแม้ขยับกายหรือคายคำพูดออกมา นั้นสิ มันติดอยู่ที่ริมฝีปาก จากอดีตที่ผ่านพ้นมาล้วนเป็นฝันที่คิดขึ้นมาแต่แล้วผู้รอคอยเพื่อกอบโกย ก็แย่งชิงไปหมด ฝันต่างๆ ล้วนเป็นจริงแต่ฉไหนเลยสิ่งที่เขาฝัน ไม่เคยสำเร็จ ฝันให้คนอื่น ฝันเพื่อปลดปล่อย ฝันที่ไร้ขอบเขต
ยามเช้าแสงแดดจ้า ลอดผ่านม้านลายเรียบริมหน้าต่าง ผมตื่นขึ้นมาพร้อมสบัดหัว 2-3 ครั้ง อาการเมาค้าง เริ่มซางซาไปบ้างแล้ว ทุกวันนี้ผมกินเหล้าเหมือนหมาตกน้ำตัวหนึ่งที่เปียกปอนด้วยเหงือและกลิ่นเหล้าอันคละคลุ้งไปทั่วห้องนอน อันรกรุงรังไปด้วยกองขยะและหนังสือนาๆ ชนิด
ผมไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง รับงานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และก็ทำและทำ เมื่อเสร็จก็ส่งให้ลูกค้าดู เพียงเท่านี้ผมก็มีเงินไว้กินเหล้าอย่างสบาย
หลังจากเรียนจบ ผมทำงานแบบนี้มาตลอด บางครั้งก็เบื่อหนาย และเซ็งไปตามฤดูกาล บ้างก้ปล่อยให้มันผ่านไปตามกาลเวลาอย่างช้าๆ
แล้ววันหนึ่ง งานผมกลับไปเตะตาเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งเข้า ทางบริษัทเลยติดต่อมายังตัวผม เพื่อร่วมงาน
ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะหยุดจากการทำงานแบบเดิมๆ เสียที เพราะเป็นอยู่แบบนี้ ล้วนทำให้ผมเป็นขี้เมาเข้าไปทุกวัน
1 เดือนกับการทำงานภายใต้ เพดานกระจก ที่สะท้อนทุกอริยบทขางการทำงานในแต่ละวัน สร้างเงาที่คอยหลอกหล่อนความคิด จนเข้าถึงแก่นอย่างหนักหน่วง เปรียบเหมือนสว่านเจาะที่ปล่อยลงมาจากท้องฟ้าพร้อมความบิดเบี้ยวที่ตะบี้ตะบันลึกลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะทำอะไร หรือแม้แต่คิดอะไรอยู่ ความคิดนั้นไม่เคยรอดพ้นจากผุ้กอบโกย ทุกอย่างที่ผมคิด ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนนำกลับไปใช้ บ้างเสนอเป็นโครงการ หรือชิ้นงานจนเป็นที่ยอมรับของลูกค้าและผู้พบเห็น
.. ทำไมคนพวกนั้น กลับรู้วามคิดของผม ทำไมคนพวกนั้น ขโมยความคิดของผมไป บางเรื่องผมคิดเป็นเดือนคนพวกนั้นกลับขโมยไปเพียงไม่ถึงวินาที ความคิดผมหลุดลอยได้หรือ หรือความฝันเข้าไปอยู่ในโลกของความเป็นจริง ไม่. มันไม่จริงหรอก
ผมคิดเช่นนั้น วันแล้ววันเล่า การทำงานเป็นไปอย่างช้าๆ เงาที่คอยตามหลอกหลอน ค่อยปรากฏกายอย่างเชื่องช้า ไม่ว่าผมจะทำอะไร คิดอะไร เงานั้นจะทำทุกอย่าง อย่างที่ผมคิด นี่เหรอคือ
สิ่งที่ทุกคนขโมยจากผมไป.