31 พฤษภาคม 2549 18:00 น.
น.นิรัติศัย
เพียงเหงาเพียงเศร้าเร้าชีวิต
เพียงสุขที่ลิขิตใครเข้าหา
เพียงหวังเพียงไว้ซึ่งคุณค่า
เพียงตาหนึ่งใจในความฝัน
เพียงรักเพียงร้างทางตีบตัน
เพียงหวั่นเพียงไหวในตัวฉัน
เพียงเก็บเรื่องราวร่วมด้วยกัน
เพียงแค่หนึ่งกำนัลในหัวใจ
เพียงรักเพียงรอแม้ท้อแท้
เพียงแต่ไม่หยุดสุดแสนไกล
เพียงหนึ่งคำรบตบแต่งไป
เพียงก้าวข้ามไฟแห่งเวลา
30 พฤษภาคม 2549 18:02 น.
น.นิรัติศัย
เดินย่ำร่ำสุราหน้าถนน
เดินวกวนเวียนไปในวิหาร
เดินต่อไปสุดก้าวเจอลำธาร
ใต้วิหารเช่นนี้มีที่ใด
โอ้ยามเย็นเห็นวิหครกท้องฟ้า
ยามเมฆาเลื่อนลอยคอยเยื่อใย
ยามท้องร้องกึกก้องห้องใหญ่
สายธารใดมีแต่ช้ำร่ำสุรา
สุรานารีมีให้เกลื่อน
เต็มทั่วเมืองแห่งนี้ที่เหว่ว้า
เดินคนเดียวร้ำให้สุดอุรา
ร่ำสุราหามิตรเคียงเสี่ยงชะตา
หญิงที่รักหักใจไม่แน่วแน่
หญิงนั้นแท้ยากจะเข้าใจในเอกา
สุดหยั่งรู้ยากเย็นเห็นคุณค่า
สู้สุราที่เรามีนี่ของจริง
18 พฤษภาคม 2549 17:44 น.
น.นิรัติศัย
กลอนที่เขียนคืออะไร เราไม่รู้
แต่ที่ดูจากเรื่องมันนั้นเศร้า
เรื่องความรักเรื่องอกหักรักแสนร้าว
เพราะความเศร้าเข้ามาว่านั้นคือ(อะไร)
นักดนตรีอย่างฉันนั้นมีทุกข์
มีเรื่องสุขน้อยนิดคิดหารือ
มีเรื่องราวมากมายคล้ายหนังสือ
ถึงฉันดื้อแต่ฉันวานลมบอกไป
ใครคนนั้นเขาอยู่ไหนในโลกนี้
ใครคนนั้นคนที่หนีไปแสนไกล
ใครคนนั้นคนที่ฉันมอบทั้งใจ
ใครคนนั้นคนที่ใครล้วนต้องการ
17 พฤษภาคม 2549 18:29 น.
น.นิรัติศัย
หลับไหลร่วงโรยดั่งสายน้ำ
หลับไหลเลือนลางดั่งสายฝน
หลับไหลรุ่งริ่งดั่งใจคน
หลับไหลใต้เงาฝนหล่นทับกาย
เธอปล่อยฉันทิ้งลงตรงใจนี้
เธอปล่อยฉันวันที่กลับกลาย
เธอทิ้งฉันสุดเส้นสุดสาย
ทิ้งฉันไว้เดียวดายใต้ฟ้าไกล
คืออะไรใยไม่เล่าเรื่องราวนั้น
คือความฝันหรือความจริงสิ่งที่ไกล้
คือความช้ำความร้าวของหัวใจ
ที่เป็นได้แค่ฝันวันที่เจอ...............
7 พฤษภาคม 2549 16:26 น.
น.นิรัติศัย
หลั่งเลือดชโลมดินสิ้นฟ้า
หลั่งเวลาว่าสวรรค์หวั่นผวา
หลั่งทุกหยดลดเสี่ยงศาสตรา
หลั่งอุราท้าตัวตนคนไร้ใจ
หลั่งอาลัยอาวรณ์ร้อนดวงจิต
หลั่งฉุดคิดริษยาว่าไฉน
หลั่งตัวตนหลั่งฝนพร่ำร่ำอาลัย
หลั่งสุดใจด้วยดวงจิตคิดแค้นเคือง
หลั่งเลือดล้างปฐพีหนีความผิด
หลั่งสารพิษมอดม้วยด้วยแสนเรื่อง
หลั่งความจริงทุกสิ่งอย่างรุ่งเรือง
ยิ่งกว่าเมืองแห่งภูติผีที่ตีตรา