8 กุมภาพันธ์ 2549 06:51 น.
น้ำ
อรุณสวัสดิ์ครับทุกท่าน
๏คุยทับเกกลับแล้ว พี่เละ
คุ้ยฝุ่นฟุ้งโฮเฮะ ฮ่าฮ้า
โคลงยวนร่วนไม่เกะ กะพี่
ง้อแง่งามงอนง้า สง่าเง้าเงาหงอน...
๏เสียงคุยเสียงสู่ข้อย ขำไข
เสียงผ่านสือไท คุ่ยคุ้ย
ลีลาวัจนะใน โคลงบ่ง แบบนา
ชำแหละแม่ขวัญนุ้ย หลุดลุ้ยอำกัน๚
๏สโมสรบ่อนตั้ง สนานสนอง
พบปะฝึกประลอง ปลุกปล้ำ
โรงเตี๊ยมเล็กแหล่งจอง จับอยู่
เหลาหมู่เฮาม่วลล้ำ ฉ่ำน้ำใจเสมอ๚
๏เร่ร่อนแลเหลือบแล้ว ชื่นชอบ ชมแฮ
สนสืบศึกษาสอบ ใฝ่รู้
รักแอบลิลองลอบ ฝนฝึก เฟดนา
อนันตทัศน์แบบบู้ ยุทธผู้ครูสอน๚
๏นารีปราโมทแม้น เสาวรส เลิศนา
นรกพิฆาตพาทพจน์ ดับด้าว
สังวาสนาทเกนกฏ ประดับ
สวนบุปผาอะคร้าว อะเคื้อคำไข๚
7 กุมภาพันธ์ 2549 07:01 น.
น้ำ
จากลิลิตตะเลงพ่าย
พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงได้พระราชทานพรให้ชนะศึกและพระบรมราโชวาท ดังนี้
โคลง ๔
๒๖ จงเจริญชัเยศด้วย เดชะ
ชาวอยุธย์อย่าพะ พ่อได้
จงแพ้พินาศพระ วิริยภาพ พ่อนา
ชนะแด่สองท่านไท้ ธิราชเจ้าจอมสยาม
สงครามความเศิกซึ้ง แสนกล
จงพ่ออย่ายินยล แต่ตื้น
อย่าลองคะนองตน ตามชอบ ทำนา
การศึกลึกเล่ห์พื้น ล่อเลี้ยวหลอกหลอน
จงแจ้งแห่งเหตุเบื้อง โบราณ
เป็นประโยชน์ยุทธการ กล่าวไว้
เอาใจทหารหาญ เริงรื่น อยู่นา
อย่าระคนปนใกล้ เกลือกกลั้วขลาดเขลา
หนึ่งรู้พยุหเศิกไสร้ สบสถาน
เจนจิตวิทยาการ กาจแกล้ว
รู้เชิงพิชัยชาญ ชุมค่าย ควรนา
อาจจักรอนรณแผ้ว แผกแพ้พังหนี
หนึ่งรู้บำเหน็จให้ ขุนพล
อันสมรรถมือผจญ จืดเสี้ยน
อย่าหย่อนวิริยยล อย่างเกียจ
แปดประการกลเที้ยร ถ่องแท้ทางแถลง
จงจำคำพ่อไซร้ สั่งสอน
จงประสิทธิ์สมพร พ่อให้
จงเรืองพระฤทธิ์รอน อริราช
จงพ่อลุลาภได้ เผด็จด้าวแดนสยาม
ถอดความขอรับ.......
1. อย่าหูเบาใจเบา โดยฟังหรือดูอะไรอย่างผิวเผิน
การมุ้งเมืองเรื่องรุ้ง โรมรัน
สองฝ่ายสาดโคลนขัน ข่าวสู้
เราตามอ่านไขคัน ตรองตรึก
จิตพิเคราะห์ความรู้ อย่าให้ใครจูง
2. อย่าทำอะไรตามใจตนเองโดยไม่คิดถึงผู้อื่น
เหลาสุราเลิศล้วน อาหาร
หมายสั่งสักสามจาน กับแกล้ม
ชวนเชิญเพื่อนไขขาน สั่งก่อน
รวมเหล่าเริงรื่นแอ้ม อิ่มอ้วนพุงกาง
3. ให้เอาใจทหารให้มีกำลังใจฮึกเหิม กล้าหาญในการสู้รบเสมอ
สามัคคีไป่คร้าม ผองภัย
เลือดหลั่งหมดกายไหล รักรู้
ตัวเราจักตายใน สนามรบ
คงชื่อชาติไทยสู้ ปกป้องแดนดิน
4. อย่าไว้ใจคนขลาดและคนเขลา
ขาดเขาเราคิดให้ หวนหา
คนขาดเชิญชวนมา ร่วมเกื้อ
คนเขาบ่มานา เรียมอยู่
หวังว่าน้องนวลเอื้อ โอบน้ำใจหวน
5. รอบรู้ในการจัดกระบวนทัพ
เช้าถึงตลาดอย่าให้ ขาดหาย
หมูสับปูปลากราย รสล้ำ
อีกพริกมะนาวขาย ซื้อถูก
ปรุงแต่อาหารน้ำ อิ่มได้ฉันใด
6. รู้หลักพิชัยสงคราม
จะไปรบศึกสู้ เหนือใต้
ศรปะทัดบั่งไฟ จุดเข้า
ศรรามอย่าลืมไป โดยด่วน
ละครช่องเจ็ดนะเจ้า นิ่มน้องนวลอนงค์
7. ให้บำเหน็จความดีความชอบแก่แม่ทัพนายกองที่เก่งกล้าสามารถ
รถหนึ่งคันวิ่งได้ ทั่วถึง
ตามส่งลูกเต้าจึง ตื่นเช้า
เรียมเร่งรับขวัญคนึง มิขาด
ไปตลาดอาจรวยเร้า แบกไม้ไปขาย
8. พากเพียรไม่เกียจคร้าน
งานประจำมากล้น สนใจ
งานเก่างานก่อนไหน เสร็จแล้ว
งานจรจู่มาไป ไม่ยาก
งานบ่เหมาบ่แพร้ว พักตร์พร้อมพวกผอง
5 กุมภาพันธ์ 2549 06:53 น.
น้ำ
วสันตดิลก๑๔
๏หลงใคร่ ณ ยาม จะลุอรุณ...มะนะคุณและสืบสาย
โคลงฉันท์ หทัย นิละสลาย...ผิละลายริรักลอง
เบาราณ วลี นยะกวี.............สวัสดิ์ศรี วิถีตรอง
ร้อยกรอง กำจาย จะทนุผอง...จิตผ่อง พิลาศใส๚
ผังฉันทลักษณ์ครับ
๏ ครุครุ-ลหุ-ครุ-ลหุลหุลหุ-ครุ1.............ลหุลหุ-ครุ1-ลหุ-ครุครุ2
ครุครุ-ลหุ-ครุ-ลหุลหุลหุ-ครุ2 ...............ลหุลหุ-ครุ-ลหุ-ครุครุ3
๏ ครุครุ-ลหุ-ครุ-ลหุลหุลหุ-ครุ4.............ลหุลหุ-ครุ4-ลหุ-ครุครุ3
ครุครุ-ลหุ-ครุ-ลหุลหุลหุ-ครุ3................ลหุลหุ-ครุ-ลหุ-ครุครุ ๚
3 กุมภาพันธ์ 2549 10:46 น.
น้ำ
อรุณสวัสดิ์ดีขอรับ คำนับ"คุย คุ้ย โคลง" จรรโลงลักขมักเข้มน....ใจเต็นตื่นแต่เช้า เชยชื่นเจ้าสดใส ให้แด่ทุกผู้มิตร หมายนา.....ฯ
เขียนเมื่อคืนแล้วมาเกลาตอนเช้าขอรับ
๏ยลป่าเมฆร่ายฟ้า พาฝัน เฝือนแฮ
มืดดับคลับคล้ายจันทร์ กระจ่างแจ้ง
เสียงอกเต้นกระสัน สวมกอด กลมนา
พิศเพ่งพลันกลายแกล้ง กลับกั้นกายเหมือน๚
๏เสียงลมคืนค่ำนี้ มีรัก
ฝันฝากใจมอบภักค์ นิ่มน้อง
นอนหนาวหนึ่งเปลี่ยวนัก ครวญใคร่
คิดครุ่นหนุนหมอนจ้อง จิตคล้ายครวญหา๚
๏สิ่งสวยงามอยากได้ ดังใจ
สิ่งเกียจชังทำไม หน่ายอ้าง
หรือล้วนติดข้องใน ชาติภพ
จำหักอาลัยร้าง ลึกซึ้งในตน๚
คคห45..อิอิ..อะอะ...ขอรับทั่นโกฏดารา ดาวเดือนมิเลือนฟ้า ฟ้อนฟุ้งง้ามงามงอน.....
กระผมชอบเสียงทั่นคัมที่เคยกล่าวไว้ขอรับแลถือโอกาศนำกลับมาท่องไว้อีกรอบครับ...มีจดบันทึกไว้ขอรับว่า
เปิด รับ ส่ง เสียงโคลง
ที่เราจะเขียน เปิด-รับ-ส่ง เสียงตรงไหน ?
***..."ตรงคำสุภาพ ๔ ตำแหน่งครับ"...*****
เปิดด้วยเสียงสามัญ
รับตัวแรกด้วยเสียงสูง
รับตัวที่สองด้วยสามัญ
แล้วส่งด้วยเสียงสูง
จะทำให้ให้โคลงเสียงเพราะมากขึ้น
และความคิดเห็นของทั่นโกฏดาราดาวเดือน...กระผมก็ชอบขอรับ....
๏ ผิววงวัฏว่ายเวิ้ง วารี โอฆฤา
บ่ลุโลกุตรโมฬี เลิศล้น
ผจงจิตเจนกวี ทุกชาติ
ตราบล่วงบ่วงภพพ้น เผด็จเสี้ยนเบียฬสมร๚(ตะเลงพ่าย)
๏ผิวตกกระลอกเรื้อน คายคัน คางแล
บ่แตกตุ่มหนองตัน ต่างต้น
เปลื้อมปันปลูกส้มสรร พันธุ์เลิศ
ตราบลุออกดอกพ้น ผลิให้ผลเสวย๚(จันทร์แห้งน้อมศึกษา)