1 พฤษภาคม 2551 06:52 น.
น้ำ
๑แต่ก่อนอ่อนหัดให้ หรรษา
เขียนขับร้องเฮฮา ที่นี้
น้อยๆค่อยจำมา หัดอ่าน
หลั่นๆคั่นช้าช้า ช่องชั้นคำโคลง๚
๒วรรคตอนต่างเปิดให้ เห็นสม ใจนา
ตำแหน่งเอกโทปม ครึกครื้น
รสคำรสความคม- คายคล่อง
มวลพี่ๆอยู่ยื้น อยู่เย้ายวนหัว ๚
๓โน้มจิตใจหนึ่งซึ้ง ทราบวลี
เสียงขับขานดนตรี ดุจได้
ไพเราะเสนาะวจี เช้าค่ำ
จำจดพจน์ทุกข์ไร้ หลีดเร้นสิ่งหลง๚
๔วรรณกรรมหอมหอบห้อม อุรา
วาทผ่องประภัศร์มา ม่วนเกล้า
ลมพริ้วริ่วๆพา กระดิ่ง ดังพ่อ
สวรรค์แห่งชั้นกวีเร้า ร่ายแล้วเสภา๚
9 เมษายน 2551 06:47 น.
น้ำ
๑กอขอคอครึกครื้น รื่นเสียง
วรรณยุกต์อิอีเรียง ร่ายเร้า
แม่ปูไต่เอียงเอียง อ้างศัพท์
ปูลูกรับจับเค้า ต่วมเตี้ยมเดินตาม๚
๒อักษรหอมกลุ่นเกล้า หรรษา
ไม้เอกไม้โทพา เพลิศด้วย
เสพคำเสพเสน่หา ทิพย ปราชญ์แฮ
ความสุขซาบฤาม้วย ดุจไม้กลิ่นหอม๚
๓สรนุกลิขิตสร้อย เสริมศรี สวัสดิ์แฮ
แม้วจะผูกไมตรี ตรึกตั้ง
สิ้นโศกเศร้าฤดี ด้วยเพื่อน เล่นนา
แม้นมาทหมายจิตยั้ง หยั่งรู้ปราชญ์ปรีย์๚
๔ข้าวคอยเคียวเกี่ยวสร้อย สายสวาท หวามนา
กระดึงกระดิ่งรอลมสาด ประพจน์พร้อย
อรรถะแห่งครูปราชญ์ เปลื้องโลก
ขอศิษฐ์สืบสารร้อย รักแล้วเล่าลือ๚ะ๛
28 มีนาคม 2551 09:57 น.
น้ำ
๏ฟันและเหงือกอาจล้า ลาจาก
ใจจิตรจริงมิอยาก ห่างเจ้า
เช้าค่ำขบเคี้ยวมาก- มายอร่อย รสเฮย
หวังจะพึ่งพิงเฝ้า ใฝ่ฟื้นรักษา๚
๏ยามปวดปวดได้ปวด ไปนา
ยามเมื่อแข็งแรงพา สุขล้น
ยามเจ็บยามป่วยหา สุขไม่ มีเลย
คนและสัตว์ไม่พ้น เจ็บไข้ทุกข์ขัง๚
๏โคลงกล่อมเกลาจิตเกลี้ยง หายขึง
กลอนกาพท์ใฝ่คนึง ฝึกเฟ้น
เอกโทเฟ็ดฟาดจึง ลืมหลบ พักแฮ
เสียงขับโคลงคลายเค้น ครึกครึ้นชื่นใส๚
๏ใดใดในโลกล้วน ลับลา
ยังแต่บาปบุญพา พกไว้
วัวควายเขาหนังมา ยังประโยชน์
คนฝากดีไม่ไร้ เกรียติก้องสรรเสริญ๚
๏เมตตามากแผ่ให้ ทุกคน
ที่ทุกช์หมดทุกข์ตน สุขได้
ทำบุญอุทิศกุศล สวรรค์ส่ง สาธุ
แจ้งสติแล้วรู้ไซร้ ทุกข์แท้คือขันธ์๚
25 มีนาคม 2551 05:02 น.
น้ำ
พระอาจารย์ชีวก โกมารภัจจ์
อภิวันท์แทบเท้า ท่านหมอ
ตาหลับนับปราณพอ สงบง้ำ
นั่งดัดหัตถ์แขนคอ หลังไหล่
กรกดเท้าเลิศล้ำ จับเส้นเอนขยาย
โยคะโยคุคู้ แข้งขา
โหนหัดหายโรคา ค่อไข้
งานการไม่หัดหา หนเก่ง การใด
ปราณอุดตันยากไร้ ทุกข์แล้วตั้งโขยง
ฤๅษีดัดตนตั้ง สติตรอง
ชฏิลดัดคนน่ามอง ฝึกฟื้น
กายใจใหลหลงจอง นรก ลึกแฮ
ลมขัดห่างให้ชื้น ช่วยแก้หลายกล
(เวทนาทางกาย-ทางใจ)
ประดาโรคมากแม้ ทุกข์ขัง
ธาตุสี่ขัดประดัง โรคเร้า
เบากายจิตอนิจจัง เกิดก่อ
จิตสิกขาน้อมเข้า ถิ่นแท้นิพพาน
1 กุมภาพันธ์ 2551 05:19 น.
น้ำ
๑หวานจันทร์เงาเงื่อนน้ำ เนาว์ฝัน
จันทร์เจิดนภาพลัน พิศแพ้
ลอยล่องสู่วานวัน ว้างวาด
หลงภิรมย์รสแล้ รักไร้เลือนจันทร์
๒สายลมโลมลาดไม้ กฤษณา
ตรึกนึกคิดค้างคา เรื่องเศร้า
วานลมบอกนาสา หอมกลิ่น ไม้เฮย
ใจค่อยคืนชื่นเร้า ร่มรื้นชื่นหอม
๓รอยกรรมมาแบ่งแก้ว กับสกนธ์
ขวัญอยู่สติเตือนตน ไป่ร้าง
ทิพยพุทธำรงค์ รั้งจิต
บุญที่สมสะสร้าง สืบไว้ทางกุศล
๔เสนาะเสียงหรีดหริ่งร้อง ระงมไพร
ดาววิบริบริบไกล ฝากฟ้า
วรรณศิลป์สืบรอยใน กลอนกาพย์
เสียงเสนาะจิตเจิดจ้า บทเบื้องโคลงฉันท์