13 มีนาคม 2554 06:38 น.
น้ำ
๑เสียงโคลงเสียงเห่ช้า ฉ่ำหาว
เสียงร่ายประกายดาว ส่องหล้า
หลับตาตื่นใจวาว วิเวก
ขวัญอยู่รู้เจิดจ้า ชั่วฟ้าดินสมัยฯ
๒ปลาว่ายวัฏฏะเวิ้ง วรรณศิลป์
ปู่เต่ากลอนระบิน ฟากฟ้า
คนและสัตว์ล้วนดิน เดิมโลก
คำกวีเหว่ว้า ปราชญ์ท้าทางเกษมฯ
๓ไหววาทหวังชีพชื้น สุขศานต์
กลางป่ามนุษย์มาน โมหกล้า
มนต์พุทธะกังวาน เวี่ยจิตร
กายบ่งเบาข่มล้า สติจ้าเกิดศรีฯ
๔บุหงาหอมหม่ไว้ แว้ววลี
แก้วกรุ่นหอมฤดี เพริศแพร้ว
โคลงฉันท์กาพย์ปราชญ์ปรี เปลื้องโลก
หายโศกหายทุกข์แล้ว ลึกซึ้งสุขสวรรค์ฯ
31 มกราคม 2554 05:17 น.
น้ำ
๑โลกมณีนี้หนึ่ง สรรพสัตว์
กรรมกฏเวี้ยนเวียนวัฏ ก่อไว้
รุงรังหยักเยื่อหัตถ์ ธัมท่อง
ลอยล่องทุกข์ทิศไร้ เร่งได้ไฉนถึง๚
๒ใจลืมกายแกร่งกี้ เกิดกรรม
ลืมว่าต่างเสพธัม ว่ายวี้
คนและสัตว์ล้วนจำ ใจจด
พุทธพจนนำชี้ ชดใช้เวรเขา๚
๓ข้าวหนึ่งน้ำหนึ่งให้ อิ่มเอม
กลอนหนึ่งคำปรีเปรม ยั่วเย้า
เลี้ยงกายจิตให้เกษม สำเร็จ
สมปรารถนาเจ้า ไม่ทุกข์เกินฉันท์ ๚
๔โลกหล้าแดนเจิดจ้า พุทธมนต์
เสียงสวดเสียงธัมคน เพ่งเพี้ยง
รู้แหละหลงเรียนทน แท้เถิด
ธัมเกิดดับดุจเที้ยน ส่องสิ้นทุกข์หล๚
29 มกราคม 2554 04:51 น.
น้ำ
๏๑บ้านนี้มีรักรู้ อักษร สารนา
บ้างครุ่นคิดบทกลอน อ่านเอื้อน
เสาวรสรื่นรอน ลืมวัฏ เวี้ยนฮา
ยิ้มยั่วเพื่อนเพื่อนเยื้อน อยู่ดี้หรือไฉน
๏๒มาสิมาร่ายล้วน สำนวนเขียน
สัมผัสวลีเพียร คิดค้น
รสรอยหมึกลิ้มเรียน มณีรส
เกิดใสสดใจพ้น แผกเศร้าทั้งหลาย๚
๏๓คำเก่าเล่าไว้ลูก รู้รอย
โคลงเก่าเก็บบนดอย ประดิษฐ์ไว้
อาศัยอยู่กินพลอย สรนุก
สร้อยสุขสโมสรไซร้ ท่านให้เสพถึง๚
๏๔บางคิดจิตใคร่แล้ว ครวญความ
ปีใหม่ได้สมตาม จิตต้อง
ไร้โรคโศกคุกคาม ถึงท่าน
สุขศกโสฬสพร้อง เพริดพริ้งมิตรฉันท์๚นินิ
27 พฤศจิกายน 2553 09:57 น.
น้ำ
๑ชาวประชาสุขบ้าง บางสมัย ไทยเอย
น้ำชุ่มดินฉ่ำไป ทั่วหน้า
มาปีนี่น้ำไหล หลามบ่า
น้ำจากป่าเขาข้า รบาดพื้นภูสยาม ฯ
๒คนไทยกล้าแกร่งสู้ เศิกกษัย
เริงร่านชาญสมรสมัย สมรรถโน้น
น้ำนองล่มบ้านใจ เศร้าโศก
ปอนเปียกชุ่มโชคโพ้น เพิกแพ้พังหนี ฯ
๓ข้าวของหมอนม่านต้อง แตกสลาย
อิสระเสรีกจาย กจัดลี้
นาล่มจมหายกลาย ทะเลเจิ่ง
ตาเบิ่งบ่หลับพี้ พี่น้องต้องกรรม ฯ
๔บารมีพระปกเกล้า แก้ทุกข์
สามัคคีในยุกต์ ยากเค้น
ดั่งคลองลัดโพธิ์สุข สมประเสริฐ
ร่วมมัดขจัดรกเร้น เรียบร้อยรอยทาง ฯ
24 พฤศจิกายน 2553 19:22 น.
น้ำ
๑ยามเย็นเย็นเดินเล่นบนสนามหญ้า
คลายร้อนในกายาไม่หมักหมม
เดินทอดน่องเหยียดแขนขาคลายระทม
ขยับขยายปอดสูดลมยาวสบาย
๒นักฟุตบอลเตะลูกบอลกลมกลิ้ง
บ้างนักวิ่งจ็อกกิ้งขยับขยาย
อ้วนอย่างผมเดินดุ่มแบบเจ้านาย
ลืมโลกแสนวุ่นวายสักครู่ยาม
๓มาสิมาไกวแกว่งชิงช้าเล่น
ไม้กระดกหกเช่นเด็กไต่ถาม
ของเล่นในสวนสนุกน่าติดตาม
ผ่านโมงยามเร็วไวให้ฉงน
๔ถามไถ่หาความสุขอยู่หนไหน
สุขทางกายสุขทางใจใคร่ค้น
ยามเดินเล่นมีสติใจไม่วกวน
รู้สึกตัวไม่หลงตนกันเอย