14 ตุลาคม 2547 06:51 น.
น้ำหมึกขาว
โอยยยยย .. ... จะแปดโมงแล้วหรอเนี่ย สายแน่ชั้น... น้ำหวานพึมกับกับตนเองก่อนที่จะวิ่งลุกลี้ลุกลน ลงมาจากห้องพัก
สวัสดีตอนเช้าครับ... เสียงที่น้ำหวานคุ้นเคยดังขึ้น ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มผมเกรียนคนนั้นยืนยิ้มกว้างใกล้เบ้นซ์สีบรอนคู่ใจ พร้อมกับส่งสายตามาที่น้ำหวาน
ร.. .. ...เรย์?? น้ำหวานพูดกับตัวเองเบาๆด้วยสีหน้าที่งง พร้อมกับเดินหนีเพื่อไปรอรถเมล์
อ..เอ่อ.. .น้ำหวาน! น้ำหวาน!! เรย์ตะโกนพร้อมกับวิ่งไปหาน้ำหวาน
นี่คุณมาทำอะไรแถวนี้ค่ะ นี่จะแปดโมงแล้วเดี๋ยวก็เข้างานสายนะคะ น้ำหวานพูดกลับเมื่อชายหนุ่มวิ่งมาจับมือตน
คือ...ผมมารอคุณตั้งแต่หกโมงเช้าน่ะครับ เห็นปกติออกเวลานี้ไม่ใช่หรอ? เรย์พูดในขณะที่น้ำหวานยืนนิ่งแล้วคิดว่าเค้าใส่ใจ และสนใจตัวเธอเองขนาดเวลามาเวลากลับที่ทำงานเลยหรอ
ผมมารับ ขึ้นรถสิครับ มีอะไรจะบอกคุณด้วย เรย์พูดต่อ
มีอะไรคะ น้ำหวานถามด้วยท่าทางที่สงสัยเมื่อขึ้นรถ
พงษ์ มาสารภาพกับผมแล้วนะครับ ว่าเค้าเสียใจกับสิ่งที่เค้าทำลงไปมาก แล้วเค้าจะลาพักงานยาว เพื่อจะไปทดแทนบาปที่เค้าได้ทำไปเพื่อเพื่อนคุณน่ะครับ เค้าฝากผมมาบอกคุณเพราะเค้าไม่กล้าที่จะมองหน้าคนที่รู้จักเจนเลยแล้วน่ะครับ
หญิงสาวฟังคำตอบยิ้มกว้างด้วยท่าทางดีใจ แต่เก็บเอาไว้คนเดียว โดยที่มีสายตาคู่หนึ่งแอบมองไปที่ความเป็นตัวเองของเธอ... หลังจากนั้นเรย์ก็ไปรับไปส่งน้ำหวานเสมือนกับว่าเป็นกิจวัตของเรย์ไปแล้ว... ตอนนี้ทั้งสองคนเป็นแฟนกันไปโดยปริยาย นี่คือสิ่งที่น้ำหวานรอคอยมาแทบชั่วชีวิต เธอเก็บสิ่งที่อยู่ในใจในอดีตที่ผ่านมา ให้เป็นความหลัง. .. เธอตัดสินใจที่จะไม่พูดเรื่องในวัยเด็กเพื่อเป็นการเรียกความรักจากเรย์ให้มันมากขึ้นอีก... เธอพยายามที่จะให้สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ดีที่สุด ก็เท่านั้นเอง...
เห็นน้ำหวานมั้ยครับ? เรย์ถามพนักงานคนหนึ่ง
อ...เอ่อ...ผมเห็นเดินลงไปทางบันไดหนีไฟนะครับ ถามว่าไปไหนก็ไม่บอก
อ..อืม ขอบใจมาก เรย์พูดจบก็เดินไปทางบันไดหนีไฟทันที ภาพที่เห็นคือร่างของคนรักนอนนิ่งอยู่ตรงทางลงขั้นสุดท้ายของบันไดหนีไฟ เลือดที่ออกมาเป็นก้อนและบางที่ที่ไหลออกมาเป็นหยด ได้ออกมาจากปากของน้ำหวานนั้น ทำให้เรย์ตกใจแทบทำอะไรไม่ถูก... เค้าตั้งสติได้ก็พุ่งตัวไปหาร่างคนรักพร้อมกับอุ้มขึ้นทันที
ร่างน้ำหวานถูกนำส่งโรงพยาบาล โดยที่มีพนักงานที่บริษัทตามเรย์มาด้วยสี่-ห้าคน เสียงพนักงานที่คุยกันเองไม่ดังมาก พอที่จะรู้แล้วว่าน้ำหวานเป็นเนื้องอกในสมองมาตั้งนานแล้ว และกำเริบมาไม่นานนี้ แต่ไม่หนักมาก นั่นคือตอนที่เรย์ได้มาเหยียบที่บริษัทนี้เป็นครั้งแรกนั่นเอง...
ขอพบญาติของคุณ ญัฐริกา ด้วยครับ เรย์ลุกลี้ลุกลนเมื่อได้ยินเสียงของหมอ
เอ่อ..ผมขอให้คุณทำใจด้วยนะครับ...คนไข้อาจจะอยู่กับเราได้ไม่นาน แต่นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของคนไข้เอง ว่าจะแข็งแรงรึเปล่า...เพราะตอนนี้เนื้อร้ายนั้นค่อนข้างใหญ่มากแล้วกินสมองไปเกิน50เปอร์เซ็นแล้วครับ.
ม...ไม่มีทางรักษาเลยหรอครับ?...ผมมีเงินนะหมอ จะเอาเท่าไหร่ก็ยอม ให้น้ำหวานหาย นะครับ... นะครับ!! เรย์ถามทั้งๆที่เค้ารู้อยู่แล้วว่าคำตอบที่ได้คือไม่มีทาง...
ผมเสียใจด้วยจริงๆครับ ตอนนี้สิ่งเดียวที่ทำให้คนไข้อยู่กับคุณได้นานที่สุดคือสภาพจิตใจของแกเองน่ะครับ นายแพทย์พูดจบก็ปลีกตัวออกห่างเรย์เพื่อไปทำธุระอื่น...
เรย์ยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก ส่วนเพื่อนๆที่บริษัทก็ตกใจไม่แพ้กัน เรย์ยืนตั้งสติก่อนที่จะทำใจแล้วเดินเข้าห้องนั้น... ห้องที่มีคนรักเค้านอนอยู่ น้ำใสๆได้ไหลออกผ่านแก้มทั้งสองข้าง ร่างในชุดสีน้ำเงินของโรงพยาบาล บนเตียงเหล็กพอดีตัว ใบหน้าซีดเผือด เหมือนกับว่าไม่มีเลือดหล่อเลี้ยงเลยแม้แต่น้อยนั้นหลับตาพริ้ม ราวกับว่าหลับอยู่... ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆเตียงพร้อมกับมองหน้าไปหาน้ำหวาน และลูบศีรษะไปที่ร่างนั่น...
ไม่นานนักน้ำหวานก็เริ่มรู้สึกตัวและลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เค้าเห็นคือเรย์ที่กำลังมองด้วยสายตาที่ไม่อาจบอกได้เลยว่านั่นคือสายตาของความรักหรือความสงสาร...
อ...ออกจากโรงพยาบาล...ได้ตอนไหนหรอคะ? น้ำหวานถามเรย์
คงอีกสองสามวันน่ะน้ำหวาน ตอนนี้อยากได้อะไรก็บอกเรย์นะครับ แล้วมีอะไรก็ไม่ต้องคิดมากรู้มั้ย... ชายหนุ่มกระซิบบอกคนรัก...
อืมม...เป็นอะไรไปน่ะ ชั้นแค่ไม่สบายนิดหน่อยน่ะ น้ำหวานพักไม่กี่วันก็หายดีแล้ว น้ำหวานตอบพร้อมกับยิ้มให้ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆเตียง และเอามืออีกข้างไปเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาให้เรย์
ติดตามตอนสุดท้าย .. .
13 ตุลาคม 2547 07:04 น.
น้ำหมึกขาว
หลังจากการเสียชีวิตของเจนก็ทำให้น้ำหวานเสียใจไปหลายวัน จนสังเกตได้...น้ำหวานตัดสินใจที่จะไปบอกอดีตคนรักของเจน ว่าตอนนี้เจนเป็นอย่างไร...
ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องก่อนที่จะมีเสียงว่าเข้ามา ดังขึ้น น้ำหวานเปิดประตูพร้อมกับยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก ภาพที่อยู่ตรงหน้าคืออดีตคนรักของเพื่อนกับผู้หญิงที่เป็นเพื่อนร่วมงานในบริษัทฯนี้อีกคน .ทั้งคู่ต่างหยอกล้ออย่างสนุกสนาน
มีอะไรหรอน้ำหวาน พงษ์ถามในขณะที่กำลังหยอกล้ออยู่กับผู้หญิงอีกคน
อ...เอ่อ ชั้นมีธุระกับคุณนิดหน่อยคะ... น้ำหวานตอบด้วยการที่ก้มหน้าเพราะไม่อยากที่จะเห็นภาพอย่างนั้น
เดี๋ยวมานะครับ... พงษ์หันไปบอกข้างหูของผู้หญิงคนนั้นเบาๆก่อนที่จะเดินตรงไปหาน้ำหวาน ...น้ำหวานเริ่มรู้ถึงเรื่องราวทั้งหมดในเศษกระดาษที่เจนเขียนถึงตนแล้วว่าทำไมเธอถึงต้องยอมจบชีวิตลง...เพราะเหตุนี้เองสินะ...คำถามและคำตอบที่ถูกตั้งขึ้นและถูกตอบในเวลาเดียวกันในจิตใจของน้ำหวานอยู่อย่างไม่ขาดสาย...
เจน...เจนตายแล้วค่ะ .. น้ำหวานตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบง่าย...
แล้วไง?... คำตอบที่ดูชินชาเสมือนกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยดังต่อภายในทันทีหลังจากที่สิ้นเสียงน้ำหวาน.น้ำหวานโกรธจัด พร้อมกับตบหน้าของพงษ์สุดแรง พร้อมกับตะโกนลั่น...
ก็คนรักของพี่ไง...ก็คืออดีตคนรู้จักของพี่ก็เท่านั้น...มันไม่มีอะไรหรอกค่ะ ไม่มีอะไรเลยใช่มั้ย!!... น้ำหวานตะโกนจบก็หันหลังไปที่โต๊ะทำงานทันที...เธอโกรธจัดจนหน้าแดงแต่ไม่มีน้ำตาออกมาสักหยด คงเป็นเพราะเธอเสียใจไปจนหมดแล้วมั้ง...
เมื่อกลางวันเกิดอะไรขึ้นหรอ?... เสียงๆหนึ่งที่น้ำหวานคุ้นเคยดังขึ้นอยู่ข้างๆโต๊ะทำงานตอน5โมงเย็น
อ...เอ่อ น้ำหวานตะกุกตะกักเมื่อสบตาขึ้นมาเจอหน้าคนที่เค้ารอคอยมาเป็นเวลานานแสนนาน
อืมม...ผมรู้เรื่องทั้งหมดแล้วน่ะครับ ว่าเจนไม่ได้ลาออก แต่เจนเค้าเอ่อ.เอาเป็นว่าคุณอย่าคิดมากนะครับ...... แล้วเรื่องนี้น่ะ ผมจะพูดกับพงษ์เค้าให้เองนะครับ. เรย์พูดต่อในขณะที่น้ำหวานนั่งนิ่งน้ำตาหลอเบ้า
อ...เอ่อ...ค..ค่ะ.คะ
ง...ง..โง่!...ทำไมเราต้องไปรักเค้าอยู่ได้เราห่างกันแค่ไหน ดูตัวเองซะบ้าง ยัยน้ำหวาน!! ฮืออๆๆ ทำไม!!. น้ำหวานตะโกนลั่นห้องน้ำพร้อมกับใช้มือตนเองตบไปลงบนหน้าของเธอเอง ก่อนที่จะมีร่างๆหนึ่งมาโอบข้างหลังเธอไว้ พร้อมกับใช้มือจับไปที่มือของน้ำหวานเพื่อไม่ให้มือน้ำหวานนั้นไปตบหน้าตนเองอีก... หญิงสาวตกใจมองผ่านใบหน้าไปที่หน้ากระจก ภาพที่เห็นบวกกับเสียงที่ได้ยิน...
ร...เรย์ น้ำหวานพูดเบาๆกับตนเอง
โอเคครับ โอเคนะ...ชู่ววว ชู่วววว...โอเคครับๆ ค่อยๆใจเย็นๆนะครับ ชู่ววว.... เรย์กระซิบไปที่ข้างหูของน้ำหวานก่อนที่จะพยุง ร่างที่เหมือนกับจะสลายไปได้ในทันทีถ้าเค้าไม่ใช่คน ขึ้นรถตนเองก่อนที่จะพาขับส่งไปที่ห้องพัก...
ทำไมต้องทำร้ายตนเองด้วยล่ะครับ? มันไม่ได้จะทำให้เพื่อนคุณฟื้นขึ้นมาเลยนะครับ เรย์พูดไปขณะขับรถ
อ...เอ่อ ชั้นชั้น แค่สงสารเพื่อนน่ะค่ะ น้ำหวานตอบด้วยสายตาเลื่อนลอย ทั้งๆที่อยากจะบอกอยู่เต็มอกว่าที่เธอทำร้ายตัวเองน่ะไม่ใช่เพราะเพื่อนรัก แต่เป็นเพราะผู้ชายที่นั่งข้างๆเธอต่างหากล่ะ .. .
ฝันดีนะครับ...คุณ...เอ่อหน้าคุ้นมาก เราไม่รู้จักกันมาก่อนใช่มั้ยครับ? ชายหนุ่มผู้มาส่งน้ำหวานพูดขึ้น ในขณะที่เธอกำลังจะออกจากรถชะงักทันที่ ไม่มีแรงแม้แต่จะเปิดประตูออกลงไป...
อ...เอ่อ...เปล่าค่ะ.. เราไม่รู้จักกันมาก่อน ชั้นคงหน้าโหลมั้งค่ะ...ฝันดีคะ น้ำหวานตอบพร้อมกับตัดสินใจเปิดประตูออกไป เธอหันหลังเดินตรงขึ้นห้องไป โดยไม่มองหันหลังกลับมาเลยแม้แต่น้อย . .. .
และเธอก็ยังไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มที่มาส่งนั้นเริ่มมีใจให้เค้ามากเพียงไรแล้ว... .. .
ติดตามตอนต่อไป ..
13 ตุลาคม 2547 07:02 น.
น้ำหมึกขาว
น้ำหวาน........ยัยน้ำหวาน......น้ำหวาน...น้ำหวาน! เป็นไงบ้าง? ค่อยยังชั่วรึยัง?? เสียงเจนดังขึ้นใกล้ๆน้ำหวานที่ร่างกายของเธอนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาลของบริษัทฯ พร้อมกับมือที่มียาดมแกว่งไปมาเหนือจมูก
อ...อืมม ค ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ อ...เอ่อ แล้วแล้วเราเป็นไรหรอเนี่ย ทำไมมานอนอยู่ในห้องนี้ น้ำหวานถามทั้งๆที่หน้าออกเหลืองนิดๆเหมือนคนป่วย.
เธอเป็นลมตอนที่กำลังจะประชุมน่ะสิยะ ...แต่โชคดีมีคนมาช่วยไว้ ไม่งั้นหัวเธอฟาดลงขอบโต๊ะเลือดอาบไปนานแล้ว... เจนตอบน้ำเสียงดุแนวตักเตือนเพื่อนรัก
อะ...อ่าว เจน เธอไม่ได้ประคองเราหรอกหรอ? น้ำหวานถามยังไม่ทันจบ เจนก็แทรกขึ้นมาทันที
หืมมมผอมๆแบบเธอ แต่ตัวก็ไม่ใช่เบาๆนะยะ คนที่ช่วยน้ำหวานผู้น่าสงสารก็คือ เรนุวัฒน์ ย่ะ อิอิอิอิ เจนพูดจบเรย์ก็เดินมาข้างๆเตียงของน้ำหวานพอดี...ทำให้เจนถึงกับหน้าเสีย
เป็นไงบ้าง... เสียงห้วนๆ ที่ฟังดูแล้วอบอุ่นแม้จะไม่มีคำว่า ครับ ต่อท้ายก็เถอะ ได้ดังขึ้น ทำให้ใจน้ำหวานรู้สึกอบอุ่นขึ้นอีกครั้งเมื่อเค้าได้ยินเสียงนี้....
เมื่อกลางวันน้ำหวานเค้าไม่ได้กินข้าวน่ะค่ะ เลยหน้ามึดนิดหน่อยค่ะ เจนตอบแทน
อ่าวหรอ....งั้นก็วันหลังก็กินอะไรรองท้องก่อนนะครับ แล้วค่อยมาประชุมนะครับ เรย์ตอบพร้อมกับยื่นมือไปแตะหน้าฝากของร่างที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ไม่มีคำใดหลุดออกมาจากปากของน้ำหวาน มีแต่แววตาที่สุขล้น และความอิ่มเอมในหัวใจที่มากมายเหนือคำใดๆที่จะบอกได้และถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด. ..
หลังจากที่เรย์ไปแล้วน้ำหวานได้ถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดที่เก็บกลั้นมาไว้คนเดียวมาเป็นสิบกว่าปีให้เจนได้ฟัง...เจนรับรู้เรื่องราวทุกอย่างแล้วก็สัญญาว่าจะทำให้เรย์รู้ให้ได้ ว่าน้ำหวานคือคนที่รอคอยการกลับมาของเรย์มาเป็นเวลานานแสนนาน...
****** *****************
น...น้ำ. น้ำหวาน... เสียงเรียกปนเสียงสะอื้นที่น้ำหวานรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้นในค่ำคืนหนึ่ง เมื่อเธอเปิดประตูห้องพักหลังจากได้ยินเสียงเรียกจากเพื่อนรักซึ่งยืนอยู่หน้าห้อง ที่ทั้งตัวเปียกโชกไปกับสายฝนที่กำลังตกอย่างแรงราวกับว่า ถ้าทำให้น้ำท่วมโลกได้คงทำไปแล้ว... ..น้ำตาของเจนปะปนไปกับสายฝนจนแยกไม่ออกว่าอันไหนคือน้ำและไหนคือน้ำตา...
น้ำหวานได้เอาเพื่อนเข้ามาในห้องและถามถึงเรื่องราวพร้อมกับหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยน...เจนเลิกกับแฟนเค้าแล้ว โดยการเลิกในครั้งนี้ทำให้เจนเสียใจมากเพราะเจนได้รักและทุ่มเทกับความรักในครั้งนี้มากจนไม่เหลือหรือเผื่อใจไว้เลยแม้แต่น้อย...น้ำหวานโอบไหล่เพื่อนรักพร้อมกับพูดปลอบกันตั้งแต่หัวค่ำจนเกือบรุ่งเช้า...ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น แต่สิ่งที่ดูจะเป็นเหมือนเดิมคือน้ำตาของเจน ที่ไหลอยู่ไม่ขาดสายราวกับจะขาดใจตายหรือร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือดให้ได้ในตอนนั้น...
มันไม่มีประโยชน์ที่จะร้องไห้แล้วนะเจน...นอนก่อนเถอะ ตื่นมาแล้วค่อยหาวิธีแก้ไข วันนี้วันสุดสัปดาห์พอดีกว่าจะทำงานก็อีก2วัน ยังมีเวลาพักผ่อนอีกเยอะ... น้ำหวานพูดใส่เพื่อนรักเบาๆพร้อมกับพยุงไปที่เตียงนอนของตน... ร่างของเจนได้ค่อยๆนอนลงบนพื้นที่นอนนุ่มสีน้ำเงินอ่อนที่ปูไว้เป็นอย่างดี น้ำหวานนั่งจับมือเพื่อนรักพร้อมกับมองหน้าเพื่อนรักจนร่างที่เค้าจับมือนั้นเปลี่ยนจากการสะอึกที่เกิดจากการร้องไห้เปลี่ยนเป็นนอนนิ่งเสมือนกับว่าได้หลับไปแล้ว...
น้ำหวานลูบหัวเพื่อนรัก พรางส่ายหัวเบาๆก่อนที่จะหันหลังแล้วเอนตัวนั่งคุกเข่าข้างๆเตียง แล้วหลับไปในที่สุด...
เอี้ยยดด.........เอี้ยยดด......เอี้ยยดด...เอี้ยยดด .เสียง เสียงหนึ่งเหมือนกับว่าใครเอาอะไรมาถูกับแท่งไม้ดังขึ้นเบาๆ น้ำหวานได้สะดุ้งตื่นเพราะเสียงประหลาด หญิงสาวขยี้ตาเพราะเนื่องจากเพิ่งตื่นนอนในตอนบ่ายกว่าๆแบบนี้ เธอลุงพร้อมกับบิดขี้เกียจ 1 ทีก่อนที่จะหันหลังไปมองหาเพื่อนรัก...ภาพที่เห็นคือเตียงเปล่า พร้อมกับเศษกระดาษเล็กๆ น้ำหวานไล่มองไปตามถึงที่มาของเสียงประหลาด... ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือร่างของเพื่อนรักที่ลอยขึ้นจากพื้น...เบื้องล่างไม่มีอะไรรองรับร่างที่ไร้วิญญาณนั่น. .. ตรงพื้นที่ลอยอยู่โดยมีเชือกไนลอนสีขาวบริสุทธ์ผูกอยู่กับคอโดยที่อีกด้านของเชือกมัดติดอยู่กับขื่อไม้ของห้อง จึงทำให้เกิดเสียงดังประหลาดเช่นนั้น... หยดน้ำเล็กๆ ตรงพื้น พอที่จะเห็นได้ว่านั่นคือคราบน้ำตาที่ไหลออกมาจากความเสียใจผ่านแก้มทั้งสองข้างของเจนเป็นแน่...
จ...เจน .. ....ม...ไม่...โกหก...ฝัน...เราฝัน หญิงสาวพูดขึ้นกับตัวเองเบาๆเมื่อเห็นสิ่งนั้น เขาเดินไปใกล้ๆร่างไร้วิญญาณของเพื่อนรักพร้อมกับเอานิ้วสัมผัสร่างนั้นเบาๆก่อนที่จะแน่ใจและบอกกับตัวเองว่านี่ไม่ใช่ความฝัน...มันคือเรื่องจริง น้ำหวานกอดเพื่อนรักพร้อมกับพยุงขึ้นเพราะหวังว่าเพื่อนยังคงรอดชีวิตอยู่และยังไม่เป็นไรมาก เธอตะโกนเรียกเพื่อนร่วมห้องพักในแถวนั้นมาช่วย และได้นำร่างของเจนส่งโรงพยาบาล ก่อนที่จะไปจบลงที่วัดแห่งหนึ่งที่ใกล้กับบ้านเกิดของเจน...ข่าวเรื่องการเสียชีวิตของเจนถูกปิดเงียบ จะมีแต่คนที่รู้จักจริงๆและครอบครัวของเจนเท่านั้นที่จะรู้... ส่วนคนที่บริษัทก็รู้แค่ว่าเจนลาออกจากงานเพราะได้งานใหม่ ความจริงเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้...
ในห้องที่เงียบสงัด....เศษกระดาษเล็กๆบนเตียงนุ่มๆสีน้ำเงินมีข้อความก่อนสิ้นลมหายใจของเจเขียนเอาไว้...
ขอบใจสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะเพื่อนรัก...ชั้นคงเคยทิ้งผู้ชายมามาก.แต่เธอจงอย่าท้อถอยนะจงสู้เพื่อรักแท้ที่เธอรอคอยมานานแสนนะยัยน้ำหวาน. จำเอาไว้ว่าฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอไม่ใช่สิย๊ะ .ฉันจะอยู่ข้างเธอตลอดไปแล้วก็ตลอดกาลต่างหากล่ะ. ..เจน
ติดตามตอนต่อไป...
11 ตุลาคม 2547 19:27 น.
น้ำหมึกขาว
น้ำหวานกับเจนตอนนี้เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากในมหาลัยนี้ เพราะด้วยความสวยน่ารักของเธอทั้งคู่ จึงทำให้มีผู้ชายทั้งรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่ตามมาจีบพวกเธออยู่ไม่ขาด เจนนั้นคบแล้วก็เลิกไปหลายราย ส่วนน้ำหวานเธอไม่เคยมีใครเลย.
นี่น้ำหวานทำไมเธอถึงไม่มีแฟนเลยล่ะ?? นี่! อย่าบอกนะว่า.เธอเป็น??
555 5 บ้าสิ เปล่า เราไม่ได้เป็นทอมย่ะเพียงแต่เรายังไม่สามารถรักใครได้.... ..น่ะ... .. ..
นี่เธอ พูดซะงงทำไมล่ะ จะบวชรึไงย๊ะ
เปล่าเพียงแต่เรามีคนที่รักหมดหัวใจจนไม่อาจแบ่งให้ใครได้อีกแล้วน่ะ
อืมมแล้วใครกันล่ะคนที่เธอรักจนหมดหัวใจบอกเราหน่อยดิ
อเอ่อเพื่อนที่เรียนตอนเด็กๆน่ะ เราแอบชอบเค้า แต่ไม่เคยบอกรักน่ะ ได้แต่มองหน้ากันไปวันๆ น้ำหวานตอบพร้อมกับท่าทางที่กระอักกระอ่วน แล้วยิ้มอยู่คนเดียว
แล้วตอนนี้เค้าไปไหนแล้วล่ะ? คำถามในใจของเจนมากขึ้นเมื่อเค้าได้ยินคำตอบจากน้ำหวานในตอนนี้
เค้าไปเรียนต่อน่ะนี่ก้อหก เจ็ด ปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ไม่รู้จะเป็นไงบ้าง น้ำหวานก้มหน้าตอบพร้อมกับท่าทางที่ดูเศร้าลงไปอย่างถนัดเมื่อได้พูดถึงคนที่เค้าคิดถึง
น้ำหวาน. ..เธอรอเค้ากลับมาใช่มั้ย? เจนก้มหน้าไปมองหน้าน้ำหวานที่กำลังก้มหน้าอยู่ก่อนหน้านี้พร้อมกับถามคำถาม
อื้อ เสียงตอบเบาๆจากน้ำหวานพร้อมกับท่าทางที่พยักหน้าเบาๆ มันเป็นเสียงและกริยาที่ออกมาจากคนที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เค้ารอคอยและอยากจะให้กลับมาจะมาหาเค้าเป็นจริงได้รึเปล่า
นี่น้ำหวานเธอต้องได้เจอกับคนที่เธอรอคอย.เราเชื่ออย่างนั้นเราเชื่อมั่นในรักแท้ของเธอนะ เจนตอบหนักแน่น พร้อมกับกุมมือเพื่อนรักแล้วมองตาอย่างมั่นใจ
ออุ๊กอุ๊กจะอ๊วกว่ะเจน 5555 ไปจำมาจากไหนอ่ะ น้ำหวานแกล้งตะโกนตอบเปลี่ยนเรื่อง
โธ่ยัยเพี้ยนนี่ คนอุดส่าพูดให้ความหวัง วันหลังไม่พูดแล้ว เจนตอบพร้อมกับเอาหนังสือที่เรียนในวันนั้นตบหัวเพื่อนรักเบาๆ และวิ่งหนี
เฮ้ย!ตบหัวชั้นเหรอ มาเอาคืนเลยนะ น้ำหวานตอบพร้อมกับลุกพรวดแล้ววิ่งตามเพื่อนรัก ทั้งคู่ต่างวิ่งไล่กันเป็นเด็กๆ โดยที่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
เจนกับน้ำหวาน ทั้งคู่ยังคงเป็นเพื่อนรักที่ดีต่อกันตลอด 4 ปีที่เรียนในมหาลัยนี้ ถึงแม้ว่าเจนจะมีแฟนทั้งเพื่อนรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่แต่เธอก็คบแบบเล่นๆไม่จริงใจเพราะเธอรู้ว่าผู้ชายที่เข้ามาหาเธอนั้นหวังเรื่องนั้นเรื่องเดียว. ในขณะเดียวกันเธอก็จะคอยกันพวกผู้ชายเจ้าชู้เหล่านั้นที่เข้ามายุ่งกับน้ำหวานเพื่อนรักของเธอ. โดยที่น้ำหวานนั้นก็ยังให้ความรักแบบเพื่อนที่มีต่อเพื่อนอย่างบริสุทธิ์ใจที่มีให้กับเจนด้วยเช่นกัน
และหลังจากที่เรียนจบ เจนกับน้ำหวานก็ได้สนิทกับมากยิ่งขึ้น เธอทั้งคู่ได้งานทำโดยที่ทั้งสองคนได้เป็นพนักงานในบริษัทเกี่ยวกับการออกแบบสินค้าแห่งหนึ่ง ไม่นานนัก เจนก็ได้เจอกับรักแท้ โดยที่คนๆนั้นเจนก็มีใจให้กับเค้าเช่นกันคนๆนั้นคือพี่ที่บริษัทที่เจนทำงานนั่นเอง...
ส่วนน้ำหวานก็ต้องอยู่กับการที่จะต้องรอคอยในความรักหมดหัวใจ ที่ให้ไปกับใครคนหนึ่งเมื่ออดีตที่ผ่านมา โดยไม่รู้ว่าอดีตที่งดงาม จะหวนกลับมาหาเธอตอนไหน และอนาคตจะเป็นอย่างไรเธอก็ไม่สนใจ เพียงขอแค่วันนี้เค้ามีลมหายใจและหัวใจที่จะมอบให้กับคนๆนั้น ตลอดวันๆนึง ก็พอใจแล้ว
เฮ้ย!น้ำหวาน. ไหวมั้ยเนี่ย เจนตะโกนดังลั่นกลางห้องทำงานเมื่อเดินผ่านโต๊ะของน้ำหวานแล้วเห็นสภาพเพื่อนรักเอามือขวากุมขมับหัวอยู่
วไหว ไหว ไม่เป็นไรมากสงสัยลืมกินข้าวมาน่ะ น้ำหวานตอบเสียงสั่นพร้อมกับหลับตาปี๋ทั้งสองข้าง
โธ่เว้ย!ไอ้เราก็นึกว่าเป็นอะไรไปเลยเธอ ไปกินข้าวกับชั้นก่อน เพราะตอนบ่ายคณะกรรมการบริษัทคนใหม่จะมานะ เจนพูดจบก็ลากเพื่อนให้ลุกมาจากโต๊ะ พร้อมกับเดินไปที่ศูนย์อาหารชั้นล่างแล้วสั่งข้าวกินกัน
14.30 น. เป็นเวลาเริ่มประชุม พนักงานทั้งหมดแล้วหัวหน้าฝ่ายต่างๆได้มาพบกับคณะกรรมการคนใหม่ รวมถึงน้ำหวานที่ขึ้นมาดูด้วยเช่นกัน ร่างร่างหนึ่งที่เห็นเป็นแล้วต้องสะดุดสายตากับทุกคนเป็นแน่ เพราะเป็นร่างของชายที่สูงใหญ่หน้าตาคมเข้มผมเกรียน เหมือนกับเด็กม.ปลายเพิ่งเรียนรด.ใหม่ๆ
คคนนั้นใครหรอเจน? คำถามแรกที่หลุดออกมาจากปากของน้ำหวานเมื่อเห็นชายคนนั้นที่ยืนยิ้มให้กับทุกคนที่อยู่ตรงหน้า
ไม่รู้นะ.แต่ เห็นพี่พงษ์แฟนของชั้นบอกว่าเค้าชื่อ เรนุวัฒน์ พิทักษ์ลักคณาตระกูล อืมมนามสกุลยาวดีมั้ยล่ะเธอ ชั้นอุตส่าไปนั่งท่องมาเลยนะเนี่ย...5555 เจนพูดจบก็หัวเราะดังลั่น แต่คนที่ขำไม่ออกเห็นจะเป็นน้ำหวานเพราะชื่อนี้เป็นชื่อที่เค้าคุ้นเคยเมื่อสิบกว่าปีก่อน
ร .. ร.. เรย์?? เสียงลมแผ่วพูดเบาๆพร้อมกับน้ำใสๆที่เอ่อล้นอยู่เต็มสองเบ้าตาได้ค่อยๆออกมา ทำให้คนในที่นั้นต่างมองมาที่น้ำหวานเป็นสายตาเดียว รวมถึงร่างของคนที่น้ำหวานกำลังจ้องมองด้วยความดีใจด้วยเช่นกัน
ติดตามตอนต่อไป
11 ตุลาคม 2547 19:25 น.
น้ำหมึกขาว
แสงแดดสีส้มอ่อนที่สะท้อนอยู่ทั่วทั้งโรงเรียนคริสต์แห่งหนึ่ง ทำให้เห็นว่านี่เป็นเวลาที่เย็นมากแล้วร่างของเด็กชายและเด็กหญิงวัย 11 ปีสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้โอ๊กสีน้ำตาลเข้ม พูดคุยใกล้ๆสนามบาสที่ไม่มีคนแล้ว เด็กทั้งคู่มอมแมมไปด้วยคราบขี้ฝุ่นไปทั่วแทบทั้งตัว เห็นได้ว่าคงพึ่งเล่นซนกันเสร็จตามประสาเด็กๆเป็นแน่
นี่! .. น้ำหวาน ..สัญญานะ ว่าจะไม่ลืมเรา เสียงกวนๆดังขึ้น
โธ่เรย์ เด็กดื้อหยั่งเธอ ใครจะไปลืมลงล่ะย่ะ ..ห๊ะ? เสียงเล็กใสๆตอบกลับมา
ใครจะไปรู้ล่ะยัยคนชอบตื้อ... เราไม่ได้เปลี่ยนที่เรียนนะ แต่มันหมายความว่าจะต้องไปอยู่ที่นู่นเลย เรย์ตอบเสียงเศร้ากลับมา พร้อมกับก้มหน้าเล็กๆ
โธ่!กลัวไร? คนที่กลัวน่าจะเป็นเรามากกว่านายนะ ไปนู่นเจอสาวฝรั่งเศษก็ลืมเพื่อนปากเสียคนนี้แล๊ววแต่จำไว้อย่านึงนะ ว่ายัยน้ำหวานคนนี้จะไม่มีวันลืมคนอย่างนายได้เลยเว่ย น้ำหวานพูดพร้อมกับตบบ่าเพื่อนรักเบาๆ ไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกมาจากปากของเรย์จะมีก็แต่แววตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาที่คลออยู่เต็มสองข้างและรอยยิ้มจากปากสีชมพูที่บางเฉียบ สายตาของเด็กชายและเด็กหญิงทั้งคู่ประสานกัน และยิ้มให้กันอย่างอบอุ่น ภายใต้แสงแดนยามบ่ายใกล้เย็นแบบนี้
ได้เวลาแล้วนะคะคุณหนู เครื่องจะออกแล้วค่ะ เสียงหญิงวัยกลางคนพูดขึ้นข้างหูของเรย์ในขณะที่ร่างของเด็กชายกำลังขเย่งเท้า มองหาเพื่อนรักอย่างไม่ให้คลาดสายตา
เรย์!แฮ่กแฮ่กแฮ่กโอยย เหนื่อยว่ะ เสียงๆหนึ่งตะโกนเรียกชื่อลากยาวมาแต่ไกล ได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าของเด็กหนุ่ม
โห่ยัยน้ำหวาน!เรานึกว่าจะไม่มาแล้ว เด็กหนุ่มพูดใส่เพื่อนรักทันทีเมื่อมาถึง พร้อมกับทำหน้าไม่ค่อยพอใจนิดหน่อย
หืมมมทำเป็นงอน ขอโทษนะนะ น้ำหวานตอบกลับพร้อมกับยกนิ้วก้อยขึ้นมา
อะร๊ะ!? เรย์ถามต่อเมื่อเห็นน้ำหวานยกนิ้วขึ้นมา ทั้งๆที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่านั่นคือการขอโทษ เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก
ก้อออ อย่าโกรธนะ อย่าโกรธน้ำหวานนะ น้ำหวานพูดพร้อมกับทำหน้ากวนๆ แต่เรย์ก็ยังแกล้งโกรธอยู่
เร็วๆ เด็กดื้ออย่าโกรธนะจ๊ะ! น้ำหวานพูดต่อพร้อมกับกระแซะตัวไปใกล้ๆ เรย์
อื้อ!ก้อได้คนชอบตื้อ เรย์พูดกลับทันทีพร้อมกับยกนิ้วก้อยของตัวเองขึ้นไปเกี่ยวนิ้วน้ำหวานพร้อมกับหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ไม่นานนักเสียงประกาศให้ผู้ที่จะเดินทางไปฝรั่งเศษก็ดังขึ้น นั่นซึ่งก็หมายความว่า นี่จะเป็นการลาจากระหว่างเด็กสองคนนี้ และไม่มีทางรู้เลยว่าเขาทั้งคู่จะได้พบกันอีกตอนไหน และชีวิตข้างหน้าของเด็กทั้งคู่จะเป็นอย่างไร
..เสียงเพลงที่ดังโหวกเหวกผ่านรั้วมหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ มันเป็นเพลงซึ่งนักศึกษารุ่นพี่ตะโกนใส่รุ่นน้องปีหนึ่ง ซึ่งนี่ก็หมายถึงว่านี่เป็นการรับน้องในวันแรกของน้ำหวานนั่นเอง
เฮ้ย!น้ำหวาน รุ่นพี่เค้าเรียกเธอ เสียงๆหนึ่งดังขึ้นในขณะที่บริเวณนั้นอัดแน่นและเต็มไปด้วยนักศึกษาหน้าใหม่
พี่ไหน?อ่ะเจน ร่างสูงเพรียวบวกผิวสีขาวอมชมพูระเรื่อไปทั่วแทบทั้งตัวและหน้าตาที่ออกไปแนวหมวยนิดๆ หันมาหาเสียงที่เรียกชื่อตนเมื่อสักครู่นี้ พร้อมกับตะโกนถามว่าใครเรียกตน
เราก็ไม่รู้นะโดนทำโทษแน่เธอ อิอิสงสัยสวยจนเค้าหมั่นไส้มั้ง อิอิอิ เจนพูดเล่นกับเพื่อนสนิทคนแรกของเธอที่เข้ามหาลัยนี้
เออๆๆ พูดเล่นกันเข้าไปนะ น้ำหวานตอบพร้อมกับเดินไปหารุ่นพี่ที่เรียกตน พร้อมกับโดนทำโทษอย่างที่เจนบอกเอาไว้ เจนแอบหัวเราะชอบใจ แต่ก็ไม่พ้นสายตารุ่นพี่จึงถูกเรียกมาทำโทษด้วยกันทั้งคู่
ติดตามตอนต่อไป