8 กันยายน 2551 12:41 น.
น้ำผึ้งเดือนห้า
เพราะด้วยเงิน นั้นล่อใจ จึงไปร่วม
อย่าเหมารวม ว่าข้าเลว หรือเหลวไหล
เพราะยากจน เป็นเช่นนี้ จึงต้องไป
ไม่ตั้งใจ เพียงหวังได้ ซึ่งเงินตรา
ให้หาญาติ แลพี่น้อง มาให้มาก
ไม่ลำบาก ข้าวของมี หมดปัญหา
วันหนึ่งนั้น ได้ห้าร้อย ทยอยมา
ใครไกลกว่า ได้แปดร้อย ทยอยเดิน
ไปเถอะนะ ไปช่วยดู ช่วยกู้ชาติ
ใจสะอาด ก็ไปได้ ไม่ต้องเขิน
เงินที่ได้ ไว้ใช้จ่าย ในการเดิน
จึงรับเชิญ เพื่อมาช่วย กู้ชาติเรา
เขาก็ว่า รัฐบาลนี้ มันโคตรแย่
มันจะแก้ รัฐธรรมนูญ นี้ไงเล่า
ข้าก็เชื่อ ดั่งคนโง่ ปัญญาเบา
ผู้นำเขา พูดอย่างไร ตั้งใจฟัง
เขาก็ด่า เขาก็แช่ง แรงจริงหนอ
ใจหนึ่งท้อ อยากกลับไป ไม่หันหลัง
เบื่อคำพูด ที่หลอกล่อ เบื่อจะฟัง
พอไม่นั่ง เขาก็ด่า ข้าก็ทน
พอจะเดิน ออกไปพัก เหนื่อยสักหน่อย
เผื่อจะพลอย หลบหนีไป ได้สักหน
มองทางไหน มีแต่การ์ด ทางอัปจน
จึงเหมือนคน หมดทางหนี มีแต่ตาย
คนข้างนอก เขาไม่รู้ ดูไม่เห็น
ข้านั้นเป็น คนคนหนึ่ง ซึ้งความหมาย
อิสรภาพ คำคำนี้ จำจนตาย
จะไม่ขาย ความเป็นตัว ชั่วเพราะเงิน
พอรู้ตัว มันก็สาย ไปเสียแล้ว
เสียงเจื้อยแจ้ว ของผู้นำ ไม่ห่างเหิน
เราจะอยู่ จะกู้ชาติ พร้อมเผชิญ
หากต้องเดิน สู่ความตาย ก็ไม่กลัว
พอได้ฟัง ข้าก็นั่ง น้ำตาไหล
นี่ปะไร เคราะห์มาซ้ำ กรรมดีชั่ว
อยากกลับไป ยังบ้านเกิด ก็มืดมัว
เพราะความชั่ว เพราะว่าเงิน เดินผิดทาง
อยากขอร้อง ท่านผู้นำ โปรดเมตตา
ปล่อยตัวข้า กลับบ้านได้ ไม่ขัดขวาง
สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น จะระวาง
ไม่ขัดขวาง ทั้งอำนาจ และเงินตรา
และครั้งนี้ ข้าจะจำ เป็นบทเรียน
อย่าได้เพียร ไปเกี่ยวข้อง ด้วยเชียวหนา
เขาใช้เงิน ซื้อเราได้ ไร้ราคา
อนิจจา หมดชีวิต และวิญญาณ.
คำบอกกล่าวจากยายคนหนึ่ง ที่ลูกชายเขาเขาอายุ 50 กว่าปีโทรกลับไปล่ำลายาย ซึ่งเป็นแม่ของเขาที่ต่างจังหวัด
แม่..ตอนนี้ฉันกลับไปบ้านไม่ได้หรอกนะ เขายังไม่ให้กลับ เขาว่าเรื่องยังไม่เรียบร้อย ยังกลับไม่ได้ เงินค่าจ้างที่ฉันให้แม่ไว้น่ะ แม่เก็บไว้ซื้อกินนะ ถ้าน้อง(...........)ติดต่อกลับมาแม่บอกไม่ต้องเป็นห่วงฉันนะ ฉันเอาตัวรอดได้
เออ...แล้วเขาบอกหรือเปล่า ว่าเรื่องจะเสร็จเมื่อไร ไหนเขาบอกให้มึงไปแค่ไม่กี่วัน นี่มันหลายเดือนแล้วนะลูก มีข้าวปลากินหรือเปล่า
มี...เขามีข้าวมีของกินให้ทุกอย่างนั่นแหละแม่ แต่เขาไม่ให้ไปไหน ให้นั่งอยู่อย่างนี้ ตั้งแต่ย้ายมาที่นี่เขาไม่ยอมให้ออกไปไหนเลย มีคนคอยคุมตลอด มีแต่พวกที่เขามาเองนั่นแหละที่เขาเดินไปไหนก็ได้ คนคุมเขาก็ห้างคุยกับคนพวกนี้ด้วย เขาให้ฉันอยู่กันเป็นกลุ่ม นี่ฉันก็แอบโทรมาหาแม่ ยืมโทรศัพท์เพื่อนที่มาด้วยกัน ที่จริงแล้ว เขาจะไม่ให้เอาเข้ามาแต่เพื่อนฉันมันแอบเอาเข้ามาได้ ตอนนี้ก็อยากกลับกันเยอะเลย แต่กลับไม่ได้น่ะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ดูข่าวเอาก็แล้วกัน ถ้าเขาจะปะทะกัน ฉันจะไปแอบในห้องน้ำ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ
เฮ้อ..มึงจะไม่ให้แม่ห่วงได้ยังไง มึงน่ะแก่แล้วนา ลูกเต้าก็ไม่มีเหมือนคนอื่น พลาดพลั้งไปจะทำยังไง ระวังตัวด้วยนะลูก เห็นไม๊ล่ะ แม่บอกแล้วไม่ให้ไปเอาเงินของพวกมัน มึงก็รั้นจะเอา ไม่มีใครเขาให้กันฟรีๆหรอกลูก เขาไม่ฆ่ามึงก็บุญแล้ว
เอาน่า...ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันก็กลับได้แล้ว รอแค่ให้ไอ้คนที่เขาอยากให้ออก ลาออกก็เสร็จแล้ว แม่ดูแลตัวเองดีๆก็แล้วกัน แม่รู้จักไอ้หมายใช่ไม๊ ฉันฝากมันให้ดูแม่ด้วย ถ้าแม่มีอะไรก็ไปเรียกมันนะ ไม่สบายก็ไปหาหมอ เงินที่ส่งมาให้ก็เก็บๆไว้บ้าง ฉันไม่รู้ว่าจะหาได้อีกเมื่อไร แค่นี้ก่อนนะแม่ มีคนมาแล้ว
เออ เออ...ระวังตัวนะลูก..
เจ้าประคู๊ณ...คุณพระคุณเจ้า ช่วยคุ้มครองมันด้วยเถอะ ฉันไม่มีใครอีกแล้ว เหลือมันคนเดียวที่ทำมาหากินเลี้ยงแม่มันคนนี้ จนมันไม่ยอมมีเมีย ขอให้คุณพระศรีช่วยคุ้มครองมันด้วยเถิด คุ้มครองมัน สมกับที่มันเป็นลูกกตัญญูด้วยเถอะ สาธุ....
22 สิงหาคม 2551 15:15 น.
น้ำผึ้งเดือนห้า
ย้ายโรงเรียน แหม..ท่านใช้ อะไรคิด
เรื่องถูกผิด แยกไม่ออก เลย..ใช่ไหม
เด็กนักเรียน กี่พันคน ต้องย้ายไป
เพื่อจะให้ ไม่กี่ร้อย ผู้ใหญ่มา
ทั้งที่ท่าน ผู้ใหญ่นี้ มีไม่มาก
ไม่ลำบาก การเดินทาง ห่างปัญหา
รถก็มี ประจำตำแหน่ง ก็มากตา
ยังเบิกค่า น้ำมันได้ ใช้เดินทาง
ความเหมาะสม ใช้อะไร เป็นตัววัด
เรื่องควรจัด เรื่องควรทำ ก็ทำบ้าง
เรื่องบางเรื่อง ไม่เร่งด่วน ควรปล่อยวาง
เรื่องบางอย่าง ไม่ควรทำ ควรปล่อยไป
ถ้าไม่มี รัฐสภาใหม่ เป็นไรหรือ
หรือหารือ หรือทำงาน กันไม่ได้
จึงต้องสร้าง ผลาญเงินเล่น ให้บรรลัย
หวังเพียงให้ ภาพการเมือง เป็นเรื่องงาม
ย้ายโรงเรียน ทุบของเก่า ให้เสียของ
ใยไม่ตรอง ลองคิดสิ อย่าผลีผลาม
ย้ายไปแล้ว เด็กลำบาก หากรู้ความ
โปรดจงห้าม โปรดจงยั้ง ฟังผู้คน
***********************
ย้ายโรงเรียน เพื่อสร้างรัฐสภา...อะไรคือความเหมาะสม...
ในเวลาอย่างนี้...ยังจะคิดทำแบบนี้..
น่าอนาถนักหนานะความคิด ...น่าอายจริงๆ
อย่างนี้ล่ะ..เป็นจริงอย่างเขาว่า นโยบายปัญญาอ่อน
24 มิถุนายน 2551 12:35 น.
น้ำผึ้งเดือนห้า
หรือว่าหน้ามืด ตามัวไปหมดแล้ว เพียงแค่ต้องการจะชนะฝ่ายรัฐบาล วิจารณญาณหรือความคิดที่มีว่า เรื่องใดควรไม่ควรถึงกับไม่มีเชียวหรือ
ไม่มีคำกลอนใดจะแต่งอีกแล้ว เพียงแค่เห็นภาพก็อื้งจริงๆ ไม่คิดว่าจะคิดและทำได้ขนาดนี้ ทีเรื่องนี้ทำไมไม่นำขึ้นไปพูดบนเวทีบ้างล่ะคะ..เห็นแล้วสงสารท่านจริงๆ ที่ต้องถูกนำมาเป็นเครื่องมือในการต่อรองกับตำรวจ
คนที่คิดทำเรื่องนี้ คงจะต้องตกนรกหมกใหม้ไม่รู้ว่าอยู่ขุมไหนเลยเชียวแหละ ทำอะไรก็คงจะไม่เจริญรุ่งเรื่อง....จริงๆไม่เชื่อคอยดู
12 มิถุนายน 2551 14:14 น.
น้ำผึ้งเดือนห้า
ก็สมัยนี้อ่ะนะ...อะไรๆก็เกิดขึ้นได้
ใครๆก็ย่อมต้องการความรักและคนรัก..
(เห็นว่าน่ารักดี เลยเอามาฝาก เผื่อโดนใจใครบางคน...)
4 มิถุนายน 2551 13:44 น.
น้ำผึ้งเดือนห้า
เมื่อมาถึง เวลาหนึ่ง จึงรู้สึก
ได้สำนึก ความเป็นไป อย่างไรนั่น
ทั้งที่คิด ว่าเราต่าง เป็นเพื่อนกัน
ได้มาฝัน ได้บอกเล่า ผ่านบทกลอน
เคยมีทั้ง เหล่าพี่น้อง และผองเพื่อน
ไม่ลืมเลือน ครูอาจารย์ ที่คอยสอน
ทั้งแนะนำ และบอกกล่าว ในบ้านกลอน
ไม่ลิดรอน สิทธิ์ของใคร ได้พึงมี
ได้โอกาส ฝึกฝีมือ คือศึกษา
ใช่ตำรา แต่เป็นคน ในบ้านนี้
เป็นตัวตน ที่คงใช่ ที่ใจมี
เป็นคนดี ที่คงใช่ ในบ้านกลอน
แต่เมื่อถึง เวลาหนึ่ง จึงรู้แน่
ว่าที่แท้ มีมากมาย ที่หลอกหลอน
มิตรที่แท้ ก็มีบ้าง ในบ้านกลอน
ที่คลางคลอน ที่เคลือบแฝง ก็คงมี
เมื่อเรามี ทัศนคติ ไม่ตรงกัน
เธอกับฉัน เป็นศัตรู ไปหรือนี่
ไม่เลือกข้าง ถือเป็นกลาง ยังไม่ดี
ให้เฉยสิ ถึงเป็นกลาง ในทางเธอ.
พอไม่เลือกเข้าข้างตนเอง ก็โยนให้เป็นฝ่ายตรงกันข้ามทันที
พอความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็หาว่าเข้าข้างฝ่ายตรงกันข้าม
พอพูดถึงเรื่องฝ่ายตนเองเข้าบ้าง ก็อ้างว่าเชื่อฝ่ายตรงข้าม
ถ้ามีใครมีความคิดเห็นไม่ตรงกับฝ่ายของตนเองและบังเอิญเดิน
เข้าไปในกลุ่มแล้ว..จะเกิดอะไรขึ้น นี่ขนาดแค่เป็นบทกลอนที่ออกมาโต้ตอบกันในบ้านกลอนเท่านั้น ยังไม่ทันได้เห็นหน้าตา ยังไม่ทันได้รู้จัก ยังไม่ทันได้รู้นิสัยใจคอกัน ยังมีทีท่ากันถึงขนาดนี้ ถ้าหากเจอหน้ากันจะๆแล้ว..จะเป็นยังไง มีใครเคยคิดบ้างไม๊ คิดว่าทั้งสองฝ่ายจะฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้างไหม ในเมื่อเท่าที่อ่านดูก็รู้แล้วว่า ถ้าใครมีความคิดเห็นไม่ตรงกันกับเขา เขาก็จะกำหนดว่าเราเป็นฝ่ายตรงข้ามทันที..
นี่คือเหตุผลของความต้องการให้มีการหยุดการชุมนุมกัน เพราะประชาชนที่สนับสนุนทั้ง 2 ฝ่าย ต่างก็คิดกันแต่แบบนี้ ยิ่งปล่อยให้ยืดเยื้อ เรื่องยิ่งรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ