29 พฤศจิกายน 2547 08:41 น.
น้ำตาหมอก
จงจดจำรำลึกนึกถึงพี่
ถึงถ้อยคำคำนี้ที่มีให้
ว่ารักเจ้าทั้งตัวทั้งหัวใจ
อยู่ใกล้ไกลก็คำนึงรำพึงเชย
แม่มิ่งขวัญฝันฝากอยู่ฟากฟ้า
เอาดวงตามองตามทรามวัยเอ๋ย
รักยังลอยอยู่กลางเหมือนอย่างเคย
ไม่ร้างเลยลับลาจากตาแวว
พี่รักเจ้าเท่าดวงชีวิตพี่
ค่าเจ้าเทียมเทียบศรีมณีแก้ว
ถนอมไว้ในทรวงห่วงนักแล้ว
รักเราฉายพรายแพรวเพริศพิไล
เหมือนโคมลอยคอยโลมโหมใจรัก
สว่างนักทรวงนี้ไม่มีไหน
สว่างแจ้งแสงจ้าค่าของใจ
เหมือนดาวได้เด่นดวงช่วงของดาว
แม้นดาวอื่นหมื่นแสนไม่แม้นเหมือน
เหมือนรักเดือนดาราในฟ้าหนาว
หนาวเหลือเกินหนาวชืดอยู่ยืดยาว
ยาวแสงวาวลึกล้ำไม่อำพราง
จงจดจำรำลึกนึกถึงพี่
ต่อแต่นี้ให้นึกถึงพี่บ้าง
อย่าปล่อยให้ใจร้าวอยู่ริมทาง
และอยู่อย่างคนจรนอนเดียวดาย
24 พฤศจิกายน 2547 12:37 น.
น้ำตาหมอก
ฟ้าในค่ำคืนนี้ไม่มีดาว
อนาถหนาวน้ำค้างลงพร่างพร่าง
หนาวกมลคนสัญจรนอนริมทาง
ดื่มแต่ความอ้างว้างวังเวงใจ
ก้อนกรวดทรายรายเรียงเหมือนเตียงหมอน
หัวหนุนนอนนุ่มไม่แพ้แพรผ้าไหม
ค่ำลงแล้วแนวฟ้ากว้างกว่าไกล
มองทางไหนมืดมนอนธกาล
ใช้ใบไม้ไหมพรมห่มแทนผ้า
ใช้แนวป่าป้องกายหมายเป็นบ้าน
ฟังเพลงลมพรมใจให้เบิกบาน
ไผ่ผสานสีเสียดเอียดออดแอ
พอด่ำดื่มลืมช้ำน้ำจากหนอง
มือทั้งสองช้อนน้ำใสนิ่งกระแส
ที่ริมหนองน่าเหมือนเป็นเรือนแพ
เอากายแช่คลายช้ำขรมพอลมไกว
พเนจรร่อนเร่จนเหว่ว้า
หยุดชอกช้ำน้ำตาอย่าให้ไหล
มีความหวังตั้งไว้ยังมั่นใจ
ทางยาวไกลจะเดินไปให้สุดทาง
22 พฤศจิกายน 2547 18:13 น.
น้ำตาหมอก
ความรักไม่ต้องการการพิสูจน์
ความรักไม่ต้องพูดด้วยเหตุผล
ความรักไม่ใช่การเล่นกล
ความรักไม่ใช่มนต์ดลบันดาล
ความรักคือทุกอย่างที่จะให้
ความรักคือหัวใจที่ไหวหวาน
ความรักคือเที่ยงธรรมและทนทาน
ความรักคืองานของหัวใจ
ความรักคือดอกไม้ใกล้จะผลิ
ความรักคือวินาทีที่อ่อนไหว
ความรักคือหนึ่งผนึกอยู่ในใจ
ความรักคือความใกล้ไกลในดวงตา
ความรักคือเรื่องราวคนสองคน
ความรักไม่ต้องด้นและค้นหา
ความรักไม่มีกาลเวลา
ความรักจักมีค่ากว่าทองคำ
ความรักคือฟ้าอ่าอำไพ
ความรักคือธารใสไหลเย็นฉ่ำ
ความรักคือนกน้อยลอยเริงรำ
ความรักคือถ้อยคำย้ำโลกยิน
ความรักคือแผ่นผาอันแน่นหนัก
ความรักคือห่วงหาอาวรณ์ถวิล
ความรักคือเพชราค่าแผ่นดิน
ความรักคือเพลงพิณประทินชีวิต
ความรักคือความเสียสละ
ความรักมีสัจจะไร้ถูกผิด
ความรักคือสิ่งไร้รูปไร้นิมิต
ความรักทีละนิดติดกลางทรวง
ความรักคือสิ่งที่ไร้แก่นสาร
ความรักคือพยานของความห่วง
ความรักคือการหลอมใจไว้สองดวง
ความรักคือแดนสรวงอันพรายทิพย์
ความรักไม่ต้องการการตอบแทน
ความรักไม่มีแผนให้คิดหยิบ
ความรักไม่ใช่อยู่ไกลลิบ
ความรักเพียงจิบก็ชื่นใจ
ความรักคือความห่วงหาและอาทร
ความรักความแน่นอนทั้งเหนือใต้
ความรักคือการฉายประกายไฟ
ความรักคือเส้นไหมใยสีทอง
ความรักคือเธอและคือฉัน
ความรักไม่มีวันจะมัวหมอง
ความรักคือความใฝ่และความปอง
ความรักจะเรียกร้องรักสุดหัวใจ
22 พฤศจิกายน 2547 08:57 น.
น้ำตาหมอก
น้ำตาพรากจากแก้มแต้มกระดาษ
ถ้อยคำขาดใจความไม่กล้าไข
ฝืนปากกามาร่ายระบายไป
เป็นกลอนไทยใจความถึงทรามเชย
นึกอนาถนอนหนาวทรวงหวามวาบ
ซดกำซาบโศกซ้ำระกำเอ๋ย
น่าน้อยใจไหนรักกระไรเลย
คนที่เคยเคียงข้างมาห่างตา
ไม่เคยพูดคำรักด้วยคำพูด
ซ้ำพิสูจน์ไม่ได้ด้วยภาษา
มีแต่ใจใสสัตย์ด้วยสัจจา
ทอศรัทธาทอดยาวอยู่ยั่งยืน
บางครั้งคราวความรักก็มักหลง
ไม่เที่ยงตรงบอดตามต้องฝ่าฝืน
ต้องไขว่คว้าหาคลำต้องกล้ำกลืน
ไม่เคยตื่นตลอดเพราะบอดแล้ว
แต่ก็พร้อมยอมตนทนเพื่อรัก
เพื่อรู้จักใจจริงเป็นมิ่งแก้ว
ใจไม่เคยต้องความรักมักสิ้นแวว
และคลาดแคล้วความเป็นคนทุกคนไป
น้ำตาพรากจากแก้มแต้มกระดาษ
ที่เคยขาดถ้อยคำไม่คิดไข
รักมาจ้ากระจ่างสว่างใจ
เขียนกลอนไทยเทิดรักนักเลงกลอน
19 พฤศจิกายน 2547 17:39 น.
น้ำตาหมอก
โอ้ดึกดื่นคืนนี้ไม่มีหลับ
จะรำงับหัวใจไม่ให้หลง
ดาวทุกดวงร่วงแสงแห่งฟ้าลง
นั่งบรรจงเพลงกลอนกล่อมกานดา
กระแจะจุณเจิมจันทน์ทุกหนั่นเนื้อ
ยากจะเชื่อฉุดใจให้ห่วงหา
เคลิ้มถวิลกลิ่นปรางกัลยา
ชื่นหนักหนาชื่นใจไปทุกที
เคยประจงจูบทีไรใจกระเจิด
หลงเตลิดหลงพ้อไม่พอที่
ร้องเพลงแก้เกี้ยวกันทุกวันปี
ไม่เคยคลายหน่ายหนีนึกรำพึง
จะหักห้ามความรักได้อย่างไรเล่า
จะห้ามหักหนักเบาบ่นคิดถึง
หรือหักแม้แต่ความคิดคนึง
หักแค่ครึ่งก็จะครวญหวนใจลอย
ดาวจะดับมืดไปในความมืด
ทางยาวยืดไร้แสงแห่งหิ่งห้อย
ชวาลาหรี่แสงลงเหลือเล็กน้อย
แสงเพชรพลอยพร้อยใจยังไหววาม
สิ้นเสียงกลอนกล่อมมาเมื่อฟ้าสาง
เก็จน้ำค้างเคยค้างก็ครวญหวาม
ฟ้าเชื่อมฟ้ามาสว่างรวิราม
เชื่อมความงามความรักนี้เป็นหนึ่งเดียว