5 มกราคม 2547 18:57 น.
น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม
ท้องฟ้าใสฟ้าสวยรวยความสุข
ใจฉันทุกข์ฉันไหม้ใครสงสาร
รักที่ผ่านที่พบจบลงนาน
ฟ้าจะสวยจะสราญคงผ่านไป
มีเพียงใจเพียงกายที่หมองหม่น
มีเพียงทุกข์เพียงคนที่หม่นไหม้
ต่อให้ฟ้าให้สวยงามเพียงไร
แต่ในใจในนั้นมันชินชา
ปล่อยความเหงาความเศร้ารุมเร้าจิต
ปล่อยใจคิดใจฝันพลันเหว่ว้า
น้ำที่รินที่หลั่งพรั่งออกมา
ความปวดร้าวปวดปร่าเหมือนฆ่ากัน
ใจเจ็บช้ำเจ็บแสนแค้นใจนัก
ใยความรักความดีที่เคยฝัน
ถึงถูกยีถูกย่ำซ้ำทุกวัน
รักคงมั่นคงขาดไม่อาจคืน
เหม่อมองฟ้ามองเมฆาที่ลอยต่ำ
ทนเจ็บช้ำเจ็บจนจะทนฝืน
อีกกี่เหงากี่เศร้าต้องกล้ำกลืน
ใครหยิบยื่นหยิบฝันเพื่อเคียงกัน
มองทางไหนทางรักยังหมองมัว
มืดสลัวสะท้านลึกหวาดหวั่น
มีบ้างไหมบ้างรู้สึกที่คล้ายกัน
จะผูกพันผูกรักมิเสื่อมคลาย
4 มกราคม 2547 19:45 น.
น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม
ยิ้มให้กว้าง กว้าง
เพื่อลบวันที่อ้างว้าง ที่หม่นหมอง
บทเพลงที่บรรเลงจนน้ำตานอง
ก็ยังคงปล่อยให้ร้องต่อไป
ไม่รู้สินะ
เพราะฉันยังคงเหว่ว้าหม่นไหม้
แม้รอยยิ้มจะกว้างสักเท่าไร
ก็ไม่อาจจะลบคราบน้ำตาได้ ไม่เลย
บทเพลงตอกย้ำให้รู้สึก
ให้ยิ่งเจ็บลึก เหมือนตอนที่ถูกเฉย
แม้ฉันจะยิ้มได้ทุกเวลา แต่ก็ไม่สุขอุราเช่นเคย
ไม่อาจจะเอ่ย อย่ารู้เลย ไม่มีอะไร
4 มกราคม 2547 02:11 น.
น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม
ถึงวันนี้วันไหนคงไม่หวัง
ที่จะรั้งจะรอตัดพ้อหา
เพราะรักเธอรักฉันมันโรยรา
ก็ขอพอขอลาไม่กล้าทวง
แม้นวันนี้วันไหนคงไร้จิต
ขอหยุดคิดหยุดฝันครั้นว่าหวง
เพราะตัวฉันตัวเราโดนเขาลวง
มันซาบซึ้งซาบทรวงที่ล่วงมา
พอแค่นี้แค่ไหนไม่อยากคิด
ต้องเดินผิดเดินถูกเหมือนผูกขา
เจ็บพอแล้วพอทีอยากหนีลา
รักไร้ค่าไร้คนมาสนใจ