15 กรกฎาคม 2547 02:54 น.
น่านฟ้า
" ว้าย..."
เสียงของน่านฟ้าดังขึ้นหลังจากที่หนังสือเกือบ 10 เล่มที่อยู่ในมือของเธอหล่นกระจายไปทั่วพื้น ตัวเธอเองก็ล้มลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น แว่นตากรอบสีดำหนาเทอะทะของหล่อนก็กระเด็นหายไปด้วย พอได้สติเธอก็รีบควานหามันทันที
" แว่นตาของคุณอยู่นี่ครับ ผมขอโทษที่ชนคุณ"
เขาส่งแว่นตาให้เธอแล้วกุลีกุจอช่วยเก็บหนังสือมาเรียงซ้อนกัน
" ไม่เป็นไรค่ะ ฉันซุ่มซ่ามเอง เป็นอย่างนี้เสมอล่ะค่ะ "
เธอก้มเก็บหนังสือต่อไปโดยที่ไม่เงยหน้ามองเขาสักนิดเดียว
" เอ่อ..ครับ คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า "
เขาถามด้วยนำเสียงห่วงใยจริงๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เป็นไรจริงๆ "
น่านฟ้าอายเหลือเกิน เธอต่างหากที่ต้องขอโทษเขา เธอเองที่หอบหนังสือกองใหญ่ที่สูงเหนือศีรษะ พอมองไม่เห็นก็เดินเซไปทั่ว แล้วเธอก็ชนเขาเข้า เมื่อก้มหน้าก้มตาเก็บเรียบร้อยน่านฟ้าก็เตรียมหอบหนังสือทำท่าจะวิ่งหนีไป
" เดี๋ยวครับนี่อีกเล่มหนึ่ง..ของคุณ "
เขาประคองหนังสือเล่มนั้นอย่างกรีดกายราวกับมันมีเชื้อโรคติดอยู่ แล้ววางไว้บนกองที่อยู่ตรงหน้าเธอ นิ้วมือเรียวยาวดุจลำเทียนของเขานั้นช่างสะอาดสะอ้าน แหวนสีทองที่นิ้วนางนั้นก็เด่นรับกับนิ้วมือเรียวขาวอย่างเหมาะเจาะ บนแหวนสลักอะไรสักอย่าง เขาคงจะแต่งงานแล้วกระมัง น่านฟ้าคิดในใจ
เมื่อเขาชักมือกลับสายตาของน่านฟ้าก็ไปสะดุดกับตัวอักษรที่สลักไว้บนแหวน " ปฐพี " แหวนทองสลักชื่อปฐพี คุ้นมาก คุ้นเหลือเกิน แหวนประจำตัวของพี่ดินชายคนรักของเธอนั่นเอง ขออย่าให้เป็นอย่างที่เธอคิดเลย
" คุณคะ..คุณคะ อย่าเพิ่งไปค่ะ ฉันขอรบกวนสักนิดนะคะ "
น่านฟ้าพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ แต่ก็รู้ตัวว่าทำได้ไม่ดีนัก เพราะเขาหันมาพูดกับเธอด้วยสีหน้าตกใจ
" ครับๆ ได้ครับ "
" เอ่อ..แหวนวงนี้ของคุณใช่ไหมคะ สวยจัง " น่านฟ้าฝืนยิ้มแห้งๆ
" ใช่ครับ แต่ก็ไม่ใช่ของผมซะทีเดียว คือคนรักของผมให้มาครับ "
เขาทิ้งรอยยิ้มที่หวานหยดย้อยไว้แล้วก็เดินจากไป
ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของน่านฟ้า เธอทรุดลงไปนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง......
7 กรกฎาคม 2547 23:33 น.
น่านฟ้า
ภาพของหญิงชราที่ฉันเห็นในวันนี้ ดูราวกับต้นไม้ที่แห้งโกร๋น ใบหลุดร่วง ยืนสงบเงียบและพยายามต่อสู้กับความโหดร้ายของธรรมชาติอย่างอ่อนล้า ไร้วี่แววของความสดชื่นโดยสิ้นเชิง
มือน้อยๆที่เหี่ยวย่นของยายเฒ่า แห้งกร้านคล้ายผืนดินที่แตกระแหงเพราะขาดความชุ่มชื่น ค่อยๆ บรรจงทำงานของตนเองไปอย่างแผ่วเบาและไม่รีบร้อนนัก เหมือนจะย้ำกับตัวเองว่า เวลามันก็คืบคลานไปอย่างอ้อยอิ่ง ยังมีเวลาอีกยาวนานนักสำหรับการรอคอยการกลับมาของใครบางคน
ใครบางคนที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ ขอเพียงสักครั้งที่จะได้กลับมาพบกันก่อนที่ยายเฒ่าจะหมดแรงแม้จะหายใจเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
ใครบางคนที่อยู่ห่างกันชั่วชีวิต ขอเพียงพบกันครั้งเดียวเพื่อให้ยายเฒ่าได้หลับใหลอย่างเป็นสุขตลอดไป
แม้การรอคอยครั้งนี้จะต้องแลกด้วยลมหายใจสุดท้าย หญิงชราก็ยินดีที่จะรอคอย....เป็นครั้งสุดท้าย
*******************************************