30 กันยายน 2548 23:46 น.
นิรนาม / แก้ว กลางไพร
สายฝนหลั่งจากฟากฟ้ายังนาข้าว
ท้องฟ้าขาวสกาวพราวสดสี
น้ำเจิ่งนองท้องทุ่งนาน่ายินดี
ในปีนี้ฝนไม่แล้งแห่งบ้านเรา
คงได้ข้าวเต็มนาพาสดชื่น
ไม่ต้องฝืนยิ้มรับกับความเหงา
ด้วยฝนมา...ลบน้ำตา...พาบรรเทา
ปีนี้เรา...ใช้นี้หมด...ไม่อดตาย
30 กันยายน 2548 23:45 น.
นิรนาม / แก้ว กลางไพร
เรือนแพน้อยลอยมานาวาใหญ่
ค่อยเคลื่อนไปในสายชลไม่หม่นหมอง
สองฝั่งมีผู้คนล้นฝั่งคลอง
เสียงนกร้องเจื้อยแจ่วแว่วตามมา
มองท้องฟ้าสีครามขาวราวกับมุก
ดวงดาวสุกยามคืนค่ำฉ่ำจิตหนา
เรือนแพน้อยลอยล่องท้องนาวา
สุขยิ่งกว่าอยู่ตึกหรูที่ปูพรม
30 กันยายน 2548 23:39 น.
นิรนาม / แก้ว กลางไพร
โอ้เวรดึกนึกไปใจยิ่งเศร้า
ช่างเงียบเหงาเปล่าดวงจิตคิดฉงน
เห็นคนไข้นอนหลับกันนั้นทุกคน
ดวงกมลให้เปล่าเปลี่ยวเสียวฤดี
โอ้ยามนี้ราตรีกาลผ่านเลยล่วง
ชนทั้งปวงต่างหลับไหลในคืนนี้
ทั้งสิงห์สา...ลาสัตว์...ปัฐพี
ทุกชีวีต่างพักผ่อนนอนนิทรา
แต่ตัวฉันนั้นนั่งอยู่ดูคนไข้
จะหลับไหลเช่นคนอื่นตื่นผวา
จึงต้องฝืนยืนมองท้องนภา
มืดจริงหนาฟ้าคืนนี้ไม่มีจันทร์
หันหลังเดินเข้าตึกใจนึกคิด
อยากสะกิตญาติคนไข้ใจนึกหวั่น
ให้เขาตื่นขึ้นมาพูดจากัน
แต่ว่าฉันทำไม่ได้...ได้แค่มอง
นั่งเหม่อมองนาฬิกาฝาผนัง
เดินช้าจังนาฬิกาพาหม่นหมอง
อยากจะเร่งเวลาให้ดั่งใจปอง
ได้แค่มอง...มองดู...อยู่นั่นเอง.
28 กันยายน 2548 08:22 น.
นิรนาม / แก้ว กลางไพร
รวมความคิดมิตรสัมพันธ์วรรณศิลป์
รวมเป็นถิ่นวรรณกรรมฉ่ำสดใส
รวมความคิดความฝันอันเกรียงไกร
รวมเอาไว้ในthaipoemแสนชื่นบาน.
28 กันยายน 2548 07:55 น.
นิรนาม / แก้ว กลางไพร
ร้อยดวงใจ...รวมความฝัน...วันดอกปีป
ดังประทีป...สุกสว่าง...กลางเวหน
รวมน้ำใจ...รวมพลัง..เพื่อปวงชน
ทุกกมล...ร่วมรวมใจ...ใฝ่ทำดี
จะก้าวไป...พร้อมกัน...วันข้างหน้า
เพื่อประชา...เพื่อชุมชน...เพื่อหน้าที่
แม้เหนื่อยบ้าง...ท้อบ้าง...ในบางที
ทุกคนมี...ความหวัง...ที่ตั้งใจ
ยี่สิบเอ็ด...ตุลา...ฟ้าบรรเจิด
ก่อกำเนิด...วันสานฝัน...วันฟ้าใส
รวมพี่น้อง...รวมรัก...รวมน้ำใจ
รวมเอาไว้...ในวันที่....นี้ตลอดกาล
มอบแด่....พี่น้องชาวสีขาวทุกท่านค่ะ