26 มิถุนายน 2545 18:48 น.
นิติ
ร้อนหนาวดาวเดือน
มิแชเชือนคลายหนาว
สุขทุกข์เป็นครั้งคราว
เปลี่ยวเปล่าดวงใจ
เดี่ยวเดี่ยวเกลียวกลอก
ยกยอกหลอกใคร
รู้รู้ไม่ใช่
ความในตัวเรา
หงอยหงอยเศร้าสร้อย
ปล่อยปล่อยค่อยเย้า
ทน ทน ทนเอา
เรื่องเก่าเค้าเคือง
นี่ นี่ นั่น นั่น
ฝัน ฝัน เฟื่อง เฟื่อง
บ้า บ้า เบื่อง เบื่อง
เยื่อง เยื่อง ยุ้ง ยุ้ง
บ้า บ้า บอ บอ
ใครหนอก่อเยือน
สะทกสะเทือน
กลบเกลื่อนเดือนดาว
โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา
โจนเข้าเร้าร้าว
คิดสั้นคิดยาว
ไม่เอาแล้วความตาย.
25 มิถุนายน 2545 13:52 น.
นิติ
คนละถิ่น คนละฐาน คนละฝัน
มาร่วมกัน ร่วมเรียน เพียรขยัน
ต่างพ่อ ต่างแม่ ต่างความสัมพันธ์
มาตามฝัน ตามความหมายและศรัทธา
เคยคิดเคยเข้าใจในบางสิ่ง
เคยอิงเคยแอบแนบบูชา
จึงใฝ่เรียนรู้อยู่นานกาลเวลา
กลับรู้ว่าฉันไม่เข้าใจอะไรเลย
ฉันเคยฉันคิดว่ามีฝัน
ทำนั้นทำนี้มันชี้เฉลย
ว่าผิดพลาดไปมิใช่อย่างคิดเคย
ความจริงเผยเลยข้ามความศรัทธา
มหาวิทยาลัยคืออะไรหรือ
ที่ฝึกปรือหรือแหล่งแสดงราคา
หลากยี่ห้อมอสวยเด่นเห็นถนัดตา
หรือแหล่งปัญญาศึกษามหาชน
คุณค่ามหาวิทยาลัยคืออะไรหรือ
ฟังแต่ชื่อซื้อมาติดฝากันฝน
ได้กระดาษแผ่นเดียวเสียวทุกข์ทน
ช่างขัดสนวิชาเสียค่าราคาความ
ตีคุณค่าวิชาตำราราคาหนัก
ได้รู้จักภาระยิ่งใหญ่ให้แบกหาม
กู้ยืมรัฐแสน สามแสน แม้นใช้ตาม
เหมือนมีดดามจะใช้คืนสะอื้นอุรา
อยากให้เธอไปตามฝันมิหวั่นไหว
ก้าวต่อไปด้วยหัวใจแกร่งดังภูผา
ทระนงองค์อาจสมเชื้อชนคนกล้า
จงฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการ
คิดหวังเพียงเธอได้รู้ว่า
เธอก้าวมา ณ ที่แห่งนี้มีวิญญาณ
อย่าหลงใหลในสิ่งอันธพาล
เรียนรู้งานสร้างตนฝนปัญญา
อย่าน้อยใจในบางสิ่งที่กลิ้งกลาด
วงจรอุบาทว์พรากพาลำบากภายหน้า
คิดถึงบุพการีผู้ชี้ส่งเรามา
ให้ศึกษาร่ำเรียนเพียรทันการณ์
หวังเธอเป็นดั่งดวงดาวโดดเด่น
ส่องแสงจรัสเย็นทั่วหล้าฟ้าประสาน
นำความรู้มาพัฒนาวิชาการ
นำการงานสู่ชุมชนสังคมไทย
niti
24 มิถุนายน 2545 16:44 น.
นิติ
ไม่รู้เลยคนละฟ้า
นำพารู้จักกัน
ทักทอความสัมพันธ์
แบ่งปันศรัทธา
แม้ว่าความฝัน
ห่างกัน ณ ปลายฟ้า
ด้วยรักและเมตตา
มองฟ้าจุดเดียวกัน
ระลึกถึงด้วยความสัตย์
ชี้ชัดว่ามุ่งมั่น
ปลาบปลื้มและตื้นตัน
ที่ท่านนั่นกรุณา
ถ้อยคำที่อ่อนถ้อย
เรียงร้อยยังน้อยค่า
มิยิ่งใหญ่เท่าเพชรา
แต่ร่างมาจากดวงใจ
ภาษายังอ่อนศิลป์
ถูกหมิ่นให้ครวญใคร่
ถูกหยามอย่างจัญไร
เหมือนไฟจักลดลา
เพียงลิลิตขีดเขียน
ร่ำเรียนจากตำรา
งานเขียนยังขาดคา
จึงหาประสบการณ์
ขอบคุณรสน้ำใจ
หลั่งไหลดั่งสายธาร
มารดจิตให้ชื่นหวาน
สรรค์สานวรรณศิลป์
ฝากมิตรช่วยชำ
ฝากคำฉ่ำจิต
ต้นกล้ามาวิจิตร
ประดิษฐ์คำร่ำศรัทธา
ดั่งพระจันทร์วันเพ็ญ
มาลอยเด่นบนฟ้า
ส่องแสงสว่างหล้า
ชุบชีวา กวี คืน
แสงดาวช่วยหนุนนำ
ดื่มด่ำ มิ กล่ำกลืน
สาดส่องดัง ครืน ครืน
ให้ฉันฟื้นตื่นนิทรา
มาพบกับแสงสาด
พรรณนาวาดกับท้องฟ้า
ขอบคุณความกรุณา
จักรักษานิจนิรันดร์
23 มิถุนายน 2545 15:16 น.
นิติ
ตะวันลดแสงแรงกล้า
สองฟ้าหล้านี้ดูไหวไหว
รุ่งอรุณอบอุ่นพนาไพร
เอนไหวตามใจต้องการ
หมอกหนาสางซ่าฟ้าสวย
เพราะแสงช่วยด้วยตะวันเวียนผ่าน
ดอกหญ้า ดอกไม้ เริ่มเบ่งบาน
สวยตระการยามเช้าสกาวไพร
ใบไม้ของต้นไม้ช่างสวยสด
ปานถูกรดซดน้ำชามใหญ่
อิ่มเอิบเติบโตเร็วไว
อิ่มอกอิ่มใจเจ้าสวยงาม
อยากยืนอยู่กลางฟ้าทะเลหนาว
แล้วปล่อยเอาความเย็นมายกหาม
เพื่อล่องลอยบนนภาฟ้าสีคราม
แล้วเดินข้ามทะเลหมอกตะวันเพลิง
ไป ณ จุด จุด ใด มิใช่โลก
ที่ไม่มีโศกเกาะกลุ้มประชุมเหลิง
มีแต่สุข สนุกสนานการบันเทิง
ในเวิ้งว้างกลางหมอกบอกสุรีย์
สุริยามิอาจกล้าถ้าลมหมอก
แสงกระจอกยอกมาเพียงแค่เศษสี
มิอาจลดหมอกขาวหนาวทวี
แต่ยินดีมีแสงสว่างบางครั้งคราว
เช้าวันนี้ฉันเผลอไพลไถลสุข
มาหายทุกข์ฉุกใจไหววับวาว
ด้วยความงามยามเช้าสวยสกาว
จะเก็บเอา.ก็เวลาพาเปลี่ยนไป
ฉันจึงเก็บความงามความรู้สึก
เป็นส่วนลึกส่วนหนึ่งของจิตใจ
เก็บเอายามคิดถึงจึงใช้
ระลึกได้ความงามในปฐพี
21 มิถุนายน 2545 19:41 น.
นิติ
พร่ำบ่นกับดอกไม้
ที่ยักย้ายตามสายลม
บางดอกคงระทม
จึงหลบลมมิย้ายตาม
ฉันบอกกับดอกไม้
สวยใสและงดงาม
ชูช่อทำวาบวาม
ในยามฉันชื่นชม
ฉันคุยกับดอกไม้
ทำไมช่างสุขสม
แต่ฉันกลับระทม
ดอกไม้ก้มหลบไป
ฉันพูดกับดอกไม้
ใครรักใครห่วงใย
ดอกไม้คล้ายรู้ความใน
ทำท่าไหว ตามเหมันต์
ฉันบอกกับดอกไม้
ช่างใจร้ายสายสั่น
ไม่คิดจะโรมรัน
ให้ฉันสุขดวงฤทัย
สุขใจแล้วดอกไม้
ได้ระบายความในใจ
ขอเธออย่าบอกใคร
จงเก็บมันไว้อยู่กับเธอ