11 ธันวาคม 2546 15:30 น.
นาวี นาวา
ฝนซา............เวลาบ่าย
ฉันแอบป้าย........น้ำตาที่พล่าไหล
ฝนร้าง...........ห่างฟ้าไป
น้ำตาไหล......ลงมาอีกครานึง
เวิ้งว้าง..........บนว่างเปล่า
เพลงลมเบา.........เกลาดีดสีซอซึ้ง
พร้อมใจ........ยังดื้อดึง
ยังคิดถึง...............เพียงแต่คนของใจ
ฝนจาง..........ห่างฟ้าแล้ว
เจ้าดอกแก้ว.........ชูช่อสวยสดใส
หมอกหนา....กระจายไอ
คนหม่นไหม้.........ก็ยังคงเดียวดาย
ถึงแม้..........ทุกอย่างเปลี่ยน
หรือหมุนเวียน......เปลี่ยนไปไม่ห่างหาย
สิ่งหนึ่ง.........ซึ่งคงไว้
คือหัวใจ................ที่ยังเป็นของเธอ
2 ธันวาคม 2546 10:56 น.
นาวี นาวา
เพราะความผูกพันเพราะมิตรภาพ
เพราะรอยยิ้มอิ่มอาบเปี่ยมความหมาย
เพราะเธอคือรักไม่เสื่อมคลาย
เพราะคนสุดท้ายเลือกแล้วคือเธอ
การกลับมาครั้งนี้มีความหมาย
เธอคือคนที่ทำให้ฉันยิ้มได้เสมอ
แม้ครั้งหนึ่งเธอจากไปไม่พบเจอ
แต่เธอก็ยังคือเธอคนของใจ
รักเธอรักด้วยหัวใจรัก
ทอถักรักด้วยความฝันใฝ่
แม้เหินห่างร้างลานานเท่าใด
แต่หัวใจยังอยู่มิรู้ลา
เพราะความผูกพันนั่นคือรัก
เพราะทอถักด้วยแรงสิเน่ห์หา
เพราะคงมั่นต่อรักและศรัทธา
เพราะเราคือชีวากันและกัน
เพราะสองใจสองดวงร่วมด้วยรัก
เพราะสองมือฟูมฟักรักร่วมฝัน
เพราะหัวใจสองดวงร่วมฝ่าฟัน
เพราะเธอเพราะฉันเพราะสองเรา
2 ธันวาคม 2546 10:23 น.
นาวี นาวา
เดียวดายเหลือเกินในวันนี้
ที่รักที่มีมันเหินห่าง
การรอคอยที่ถึงจุดหมายปลายทาง
กับเจอแต่ความเปล่าว่างไม่มีใคร
ฉันรอคอยเธอมาเนิ่นนาน
รอด้วยความทรมานหวั่นไหว
ที่โหยหาเธอไม่ใช่พราะไม่มีผู้ใด
แต่โหยหาเธอเพราะหัวใจมันต้องการ
เคยคิดว่าการกลับมาในครั้งนี้
จะทำให้ความรู้สึกที่เคยมีที่แสนหวาน
จะกลับมาเป็นอย่างเก่าเหมือนวันวาน
ไม่ใช่ทรมานเหมือนครั้งเธอกลับไป
แต่ความเป็นจริงก็มาถึง
เมื่อวันหนึ่งเธอกลับมาอยู่ใกล้
สิ่งที่คนรอได้รับคือมิตรภาพของเพื่อนทั่วไป
ไม่ใช่คนของหัวใจอย่างเคยมี
มันจบลงแล้วความรักครั้งเก่า
ต่อไปจะไม่มีเงาของเราเหมือนก่อนหน้านี้
ความรักครั้งก่อนให้หายไปกับเข็มวินที
เพราะเราจะจบมันที่นี่ที่ความเข้าใจ
ท้ายที่สุดฉันก็หมองหม่น
เมื่อคนหนึ่งคนที่เคยชิดใกล้
วันนี้ต้องมาแปรเปลี่ยนไป
ก็ไม่เข้าใจในการเปลี่ยนแปลง
แต่ฉันเองก็ต้องยอมรับว่า
มิตรภาพที่ได้มามันย่อมต้องแข็งแกร่ง
ไม่มีเงินใดซื้อได้มาราคามันแพง
เพราะต้องแลกด้วยเลือดสีแดงของหัวใจ
ให้มันจบลงตรางนี้จะได้ไหม
ผมไม่อยากให้ใครเจ็บปวดและร้าวหวั่น
เมื่อเราสองต้องร้างลาจางจากกัน
ก็ไม่อยากให้ความสำคํญมันเปลี่ยนไป
เราจบกันด้วยดีจะดีกว่า
มิตรภาพที่ได้มาไม่สำคัญไฉน
แค่คำว่าเพื่อนก็มากมายนักสำหรับใจ
แล้วจะเรียกร้องหาอะไรไม่จำเป็น
ขอบคุณกับมิตรภาพที่เธอให้
และข้อความทีบอกไว้ให้ได้เห็น
แต่กับฉันมิตรภาพไม่จำเป็น
เพราะมันชาเย็นหมดแล้วทั้งใจ
ขอบคุณที่ทำให้อ้างว้าง
และเส้นทางข้างหน้ามันหมองไหม้
แม้อยู่ที่นี่ฉันเองไม่มีใคร
ก็ไม่เป็นไรฉันยืนได้ด้วยตัวเอง
26 พฤศจิกายน 2546 13:17 น.
นาวี นาวา
ปลายทางข้างหน้าเหินห่าง
มองไม่เห็นเส้นทางหวั่นไหว
ทางเดินยังอีกยาวไกล
เมื่อไหร่จะถึงสักที
ยังยืนอยู่ตามลำพัง
กับความหวังที่แสนริบหรี่
แสงสว่างกลางใจไม่เคยมี
และที่ยืนอยู่นี้ไม่มีใคร
ขอทางของฉันเสมอดัง
กลีบดอกไม้บานสะพรั่งสวยสดใส
แม้ที่นี่ไม่มีคนคอยห่วงใย
แต่กำลังใจจากฝันก็ยังมี
อย่าเพิ่งท้อเลยนะเจ้านกน้อย
แม้ฟ้าค่อยจะลับแล้วเส้นสี
ไม่มีแสงจันทรายามราตรี
ก็ยังมีแสงสว่างที่กลางใจ
ยังมีฝันมีรักที่งดงาม
แม้ใครๆจะมองข้ามความฝันใฝ่
แม้ข้างกายตัวเจ้าไม่มีใคร
แต่หัวใจเจ้ามีฝันอันงดงาม
26 พฤศจิกายน 2546 12:56 น.
นาวี นาวา
ฉันร้องไห้ไม่ใช่เพราะฉันอ่อนแอ
ฉันท้อแท้ไม่ใช่เพราะฉันอ่อนไหว
ฉันซึมเศร้าไม่ใช่เพราะฉันเหงาใจ
ฉันเดียวดายไม่ใช่เพราะฉันต้องการ
ฉันอาจร้องไห้เพราะใจฉันอ่อนแอ
ฉันอาจท้อแท้เพราะหมดแรงจะก้าวผ่าน
ฉันอาจซึมเศร้าเพราะเบื่อเรื่องราวความร้าวราน
ฉันอาจเดียวดายเพราะฉันไม่ต้องการมีใคร
เธออาจร้องไหเพราะใจเธออ่อนแอ
เธออาจท้อแท้เพราะหมดแรงจะก้าวผ่าน
เธออาจซึมเศร้าเพราะเบื่อเรื่องราความร้าวราน
เธออาจเดียวดายเพราะเธอต้องการใครๆ
เธออาจร้องไห้เพราะใจเธออ่อนแอ
เธออาจท้อแท้เพราะหมดแรงจ้ก้าวผ่าน
เธออาจซึมเศร้าเพราะเบื่อเรื่องราวความร้าวราน
เธออาจเดียวดายเพราะเธอร่านต้องการใครๆ