23 ตุลาคม 2549 21:56 น.
นาวา วังสถาพร
ราตรีคลี่คลายลงรายล้อม
เหมือนหมึกย้อมทิวาและฟ้าใส
โบกโบยบินจากหล้าถึงฟ้าไกล
ยังรอกลับไม่หลับใหลลงได้เลย
รอคืนรังดังเก่าก่อนคงร่อนล้า
เส้นขอบฟ้าลับแล้วแก้วตาเอ๋ย
รัตติกาลเยี่ยมกรายก็หมายเชย
ลมรำเพยได้ร่วมเรียงเคียงคู่นอน
กิ่งก้านเก่าเจ้าเคยเกาะแกว่งรออยู่
เพื่อเช้าตรู่ค่อยแหวกใบไปหาหนอน
หยาดน้ำค้างพร่างใบใจอาวรณ์
เจ้าไปลับไม่กลับคอนข้านอนหนาว
หรือเจ้าละสังขารวิญญาณสลาย
จึงได้หายลับไปไร้สืบสาว
แม้ตะวันที่ลับตัวแค่ชั่วคราว
ครั้นรุ่งเช้ายังกลับมาให้ฟ้าชม
เมื่อไร้เจ้าข้าเหงาใจไร้ไออุ่น
ขาดคู่บุญคู่ทุกข์คู่สุขสม
ขาดคู่นกสะทกสะท้อนนอนระทม
จึงจ่อมจมเพ้อพกนกละเมอ ฯ
23 ตุลาคม 2549 21:27 น.
นาวา วังสถาพร
เส้นขอบฟ้าทาทาบอาบไล้แสง
เย็นย่ำค่ำตะวันแดงสาดแสงสั่ง
บอกนกน้อยคล้อยบินคืนสู่รัง
พรุ่งนี้ หากชีพยังคงพบกัน
หากคืนหนาวขอดาวจงเป็นเพื่อน
ณ ถิ่นเถื่อนห่างไกลอย่าให้พรั่น
ฝากขุนเขาป้องลมไว้ไม่พัดพลัน
แมกไม้จงป้องกันน้ำค้างพรม
หญ้าแห้งช่วยอุ่นกายให้คลายหนาว
จันทร์สกาวส่องสลับหลับสุขสม
พรุ่งนี้แล ะต่อไปไม่ปรารมภ์
เพียงวันนี้ไม่ทุกข์ตรมก็สมใจ
เพียงวันนี้ไม่ทุกข์ตรมก็สมเจ้า
มีใครเล่ารู้ใจอันที่ฝันใฝ่
เจ้าเหนื่อย หิว บินมาไกลเพียงใด
ไม่ยิ่งใหญ่ ไม่สำคัญ ในวันวาร ฯ
19 ตุลาคม 2549 19:13 น.
นาวา วังสถาพร
ความในใจอย่าให้เพลินจนเกินห้า
จนใจข้าฯมิเพลิดเพลินเกินกว่านี้
เพียงพิเคราะห์แล้วเหมาะใจให้ยินดี
คิดว่ามีสี่บทกลอนได้ออนไลน์
บทกลอนดีเห็นมีมากดูหลากรส
ยากกำหนดหมวดหมู่ดูยุ่งใหญ่
เพียงอยากพร่ำรำพันตะบันไป
หากเหล่าท่านไม่พอใจอภัยด้วย
วงกวีมีไหมคนใจร้าย
ที่ทำลายมือใหม่ให้มอดม้วย
แท้จริงคนรักกลอนนั้นร่ำรวย
อารมณ์เลิศบรรเจิดสวยคงช่วยกัน
ช่วยคนให้เงยหน้าได้อ้าปาก
ผ่านทุกข์ยากพ้นวิสัยดังใฝ่ฝัน
อย่าลวงล่อก่อหนี้ใจให้ผูกพัน
แล้วปล่อยทิ้งในคืนวันอันงมงายฯ