30 พฤษภาคม 2555 08:22 น.
นาราวดี ณ ศรีกาญจน์
หมอกม่านบังภูผา
ดังเมืองแมนแดนเทวา
ตระการตาพาเพลินใจ
วิหคนกน้อยจากรังนอน
บินหว้าว่อนอย่างสดใส
ภู่ผึ้งมิ้มเที่ยวตอมใต่
ดอกไม้งามยามอรุณ
เมฆฝนก็ครึ้มมา
มีแดดจร้ามาเกื้อหนุน
แต่กลิ่นหอมอันละมุล
ยังการุณคอยเอื้อมา
ให้เสพความสุขสม
ที่รื่นรมย์เป็นหนักหนา
พลันสายฝนโปรยปรายมา
ก็งามตางามจิตมิรู้วาย
นี่คือแดนดินถิ่นทองผา
ที่ติดตาต้องจิตมิรู้หาย
ได้แนบเนาว์พาสุขสำราญกาย
มิรู้หน่ายเหนื่อยเลยสักเวลา
ยามเช้ากับกาแฟแก้วโปรด
บางครั้งตาก็เห็นภาพได้ชัดเจนกว่ากล้องจึงถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ
เห็นอย่างไรก็บรรยายตามนั้น มิต้องปรุงต้องแต่ง
เพราะธรรมชาติปรุงแต่งไว้แล้วนั้นเอง
25 พฤษภาคม 2555 11:41 น.
นาราวดี ณ ศรีกาญจน์
ดอกดวงพวงบุปผาเจ้า งามล้น พรรณนา
ภู่ผึ้งเที่ยวใฝ่หา ตอมไต่
ใช่มาลาเจ้าเซาะหา ภู่ผึ้ง นาแม่
หมู่ภมรจะมาเล้า โลมเรียม เจ้าเนอ
ได้มาจากคำสอนแม่อุ้ยเปิ้น เน้อเจ้า
29 มีนาคม 2554 15:21 น.
นาราวดี ณ ศรีกาญจน์
หนาวลมเราห่มผ้า หนาวอุราก็ห่มใจ
ความหนาวนานเท่าใด ฉันไม่กลัวเพราะมีเธอ
วันนี้แม้จากไกล ยังมั่นในรักเสมอ
จากกันยังพบเจอ เพราะเชื่อเธอตลอดมา
ฝากลมกับแสงดาว ที่พร่างพราวเต็มแผ่นฟ้า
ฝากสายน้ำกับฝูงปลา กับภูผาอันตระการ
ช่วยเอาความห่วงใย จากหัวใจอันกล้าหาญ
กอดเขาในแสนนาน เพื่อประสานความสัมพันธ์
ให้รู้แม้เนิ่นนาน จะผ่านกาลสักวารวัน
ความรักที่สร้างสรรค์ นั้นไม่เปลี่ยนสักเวลา
ลมหนาวมาต้องกาย ฝากบ่าวนายคิดถึงข้า
ไออุ่นรักจากอุรา จะแทนผ้ามาห่มแทน
ให้อุ่นละมุนละไม ด้วยหัวใจใฝ่เฝ้าแหน
ใกล้ไกลแม้เมืองแมน หรือจะแสนไกลสุดไกล
ไออุ่นก็ไปถึง ความคนึงที่ฝากไป
ความรักจากห้วงใจ จะลอยไปมอบให้เธอ
24 พฤศจิกายน 2553 23:13 น.
นาราวดี ณ ศรีกาญจน์
เย็นลม ณ ยอดภู
อย่างไร้คู่เปลี่ยวเอกา
ใครหนอจักเข้ามา
ให้ไออุ่นละมุลละไม
แสงเดือนก็แสนงาม
ณ เมื่อยามฟ้าแจ่มใส
ส่องทั่วภูผาไพร
ตระการตาพาน่าชม
ทะเลหมอกก็งามแสน
ดั่งเมืองแมนอันสุขสม
ยืนอยู่ฉันอกตรม
แม้ภูผามีหมอกเคียง
ตัวเราไม่มีใคร
เหลือแต่ใจแตกเป็นเสี่ยง
คิดถึงคู่เคยเคียง
ที่จากไปไม่หวลมา
ฝากลม กับแสงดาว
ที่พร่างพราวเต็มแผ่นฟ้า
ให้รู้ รักของข้า
มีให้เจ้าดั่งดาวเดือน
28 มิถุนายน 2553 06:10 น.
นาราวดี ณ ศรีกาญจน์
งามน้ำใจคนบ้านไกลไม่เลือนลับ
แต่ยังกับติดต้องใจไม่เสื่อมหาย
ณ หนองหลวง ห่วงจริงยังมิวาย
คึดฮอดหลายเมื่อจากมายังตราตรึง
ภาพแสนงามยังติดคึดฮอดแน่
ด้วยไมตรีอันเที่ยงแท้ยังฝันถึง
ฝากรำพันกับพระธาตุใจฉันจึง
นั่งรำพึงเป็นกลอนเว่าวอนมา
ฝากพระธาตุศรีสองรักให้ดูด้วย
ขอบุญช่วยให้ปกปักแลรักษา
บอก หนองหลวง ยังคึดฮอดตลอดมา
มิเลือนหายแม้ลับลาทุกนาที
คราออกค่าย ณ บ้านหนองหลวง อ.ด่านซ้าย จ.เลย
ทั้ง ๒ ครั้ง จึงเขียนกลอนเพื่อขอบพระคุณ ชาวบ้านที่ให้การต้อนรับ
อย่างเป็นมิตรไมตรีที่อบอุ่นและทราบซึ้งมาก อย่างไม่เคยลืมเลือน และหากมีโอกาสยังอยากกลับไปเยือนอีกสักครั้ง เพื่อตอบแทนมิตรไมตรีที่ได้มอบให้มา