29 ตุลาคม 2552 08:34 น.
นายหมอดี(แท้)
นับเป็นเรื่องเศร้าของการเมืองไทย
ที่"กลุ่มอำนาจนิยม" เล่นไม่เลิก กับกลุ่มนายทุน
ความจริงกลุ่มอำนาจนิยมหรือกลุ่มอำมาตยาธิปไตยนี้ โดยเนื้อแท้ก็ทำตัวเป็นนายทุนเหมือนกัน คือ ประกอบธุระกิจโดยใช้ชื่อของญาติหรือคนอื่นๆบังหน้า และอย่างที่สุดก็คือเป็นที่ปรึกษา เป็นเสือนอนกินจากกลุ่มพ่อค้านายทุนที่ต้องส่งส่วยของแต่ละโครงการ ต่ำสุดคือ 5% แต่ตอนหลังมีการเรียกสูงถึง20-25%
ทำให้สภาอุตสาหกรรมออกมาโวยไปแล้วเมื่อเร็วๆนี้
การกระทำของกลุ่มอำมาตย์นี้วิเคราะห์ได้ว่า เหมือน สุนัขจิ้งจอก กับ ลูกแกะ กล่าวคือ เมื่อปฏิวัติล้มเขาได้แล้ว ก็ทำการ"ขุดรากถอนโคลน"เพื่อไม่ให้สามารถกลับมาครองอำนาจรัฐได้อีก เพราะนั่นหมายถึงว่ากลุ่มตัวเองต้องตายสนิทแน่นอน
การล้มกลุ่มอำมาตย์นั้นยาก เพราะพวกนี้มักอ้างชาติศาสตร์กษัตริย์บังหน้าเสมอ ในสมัยก่อนก็จะโยนว่าเป็นคอมมิวนิสต์ มาสมัยนี้แอบอ้างเบื้องสูงว่ากลุ่มนายทุนไม่จงรักภักดี หมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปโน่น
วิธีล้มอำมาตย์ก็คือการพัฒนาความเจริญเติบโตของประเทศ พัฒนาทางการศึกษาให้ลูกหลานไทยได้เรียนรู้ว่า กลุ่มนี้ ทำความเสียหายล้าหลังให้ประเทศชาติอย่างไรบ้าง เช่น ไม่กล้าตัดสินใจสร้างหนองงูเห่าหรือสุวรรณภูมิ จนทักษิณฯต้องใช้ความเด็ดขาดให้สร้าง เราจึงมีโลจิสติกส์ที่สามารถสู้กับการแข่งขันของโลกได้ในเวลานี้เป็นต้น
นี่ไม่นับบริวารของกลุ่มนี้ที่เอาประเทศไปจำนองIMF แล้วทิ้งขี้ไว้ให้ทักษิณฯแก้ไข
แค่คุโณปกรณ์ที่ทักษิณฯช่วยชาติไว้ได้นั้น มันก็คุ้มกว่าข้อหา14ข้อหาที่ ทหาร ตั้ง คตส.ใส่ความเขาไว้แล้วละโยม
28 ตุลาคม 2552 09:47 น.
นายหมอดี(แท้)
ข่าวว่า ลูกจีนเกิดในไทย ประกาศไม่สังฆกรรม กับ แนวร่วมวีระฯที่จะไปปิดล้อมสถานทูตกัมพูชาใน 2 พย.52นี้
วิเคราะห์แล้วได้ความว่า หลังจากถูกเตือน โดยกระสุนปริศนาไม่ทราบฝ่ายแล้วรอดตายหวุดหวิดนั้น ทำให้ประจักษ์ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า"เทียนไหว่เทียน"
อันวีระฯนั้น หาได้เคยเสพการเฉียดตายมาแล้วหาไม่ คราที่แล้วดีที่เขมรไว้ไมตรี ไม่ส่ง"สแนปเปอร์เป่าสมองกระจุย"มาก็ดีแล้ว ครานี้บังอาจเหิมเกริมนัก จะทำการใหญ่อีก ดูท่า เขมรไม่ต้องลงมือ แต่ระบบอำมาตย์ฯอาจเห็นพูดแล้วไม่ฟัง สั่งเก็บก็อาจเป็นได้
เอ้า ใครอยากจะลองของก็ให้เร่งไปปิดสถานทูตเขมรซะ นี่แหละตัวชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้านของจริง เป็นตัวจริง เสียงจริงแท้แน่เทียว แต่ตอนที่บิ๊กจิ๋วไปเกี้ยวมหาจำลองนั้น คาดว่า มหาต้องอาบน้ำขันเดียวชำระล้างร่างกายจิตใจก่อน และน่าจะก้าวเท้าเข้าเพื่อไทยตามพี่จิ๋วและเพื่อนพัลลพฯ
นี่คือการโดดเดี่ยวระบบอำมาตย์นิยมโดยแท้
27 ตุลาคม 2552 09:54 น.
นายหมอดี(แท้)
ย้อนไป...พอฮุนเซ็น บอกสร้างบ้านให้ทักษิณฯอยู่
ลิ่วล้อ ปชปย์ ก็ออกมาบิดพริ้วข้อมูลว่า ตรวจสอบแล้วไม่จริง(ตุ๊ยส์)
พอส่งฮุนเซ็นฯกลับ เทพเทือกก็มาบอกว่า เคลียส์กับฮุนเซ็นฯให้เข้าใจแล้ว(ตุ๊ยส์ แอบอ้างสร้างภาพ)
ยังมีอีกมากที่ลิ่วล้อ ปชปย์ ออกมามุสาทางการเมืองซึ่งเขาเรียกกันว่า "การโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง"
นี่ตอกย้ำว่า พรรคฯนี้นอกจากทำงานไม่เป็น หาเงินเข้าประเทศไม่ได้ ไร้ความสามารถบริหาร ดีแต่กู้ และยังคงรักษาการ"ทาสี สร้างภาพ"ไว้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งยังคงได้สมาชิกจากพวกปัญญาต่ำเท่านั้น
คนที่รู้ความจริง ส่ายหน้าลูกเดียว
เดี๋ยวได้เงินกู้ 8แสนล้านสองครั้ง กินจนพุงกางแล้ว มันก็เปิดตูดหนี ทิ้งขี้ไว้ให้คนอื่นเช็ดต่อไปตามธรรมเนียมลิ่วล้อของอำมาตย์ นั่นเอง
26 ตุลาคม 2552 09:38 น.
นายหมอดี(แท้)
รัฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ ต้องน้อมคาราวะต่อวาทะอันเป็น"ความกล้าหาญทางการเมือง"และ"คุณธรรมทางการเมือง"ของท่านนายกฯฮุนเซ็น
ท่านพูดตรงๆว่า ทักษิณฯเป็นเพื่อนและเป็น"เหยื่อ"ทางการเมือง เหมือนนางอองซาน ซูจี
ที่สำคัญคดีความทางที่ดินนั้น ท่านถือเป็น"คดีความทางการเมือง"
แน่นอน ท่านรู้ว่า รัฐบาลไทยรักไทย โดยนายกทักษิณฯถูกทหาร"ปฏิวัติ"
แล้วตั้ง คตส.มาเป็นกลไกตั้งคดีต่างๆร่วม14คดีให้ทักษิณฯ
ดังนั้นแม้จะอ้างว่า คดี14คดีต้องส้งศาลก็ตาม แต่ที่มามันไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมเสียแล้ว ร้อยทั้งร้อย ยิ่งประเทศกัมพูชาหรือพม่าก็ตาม ย่อมจะรู้ซึ้งถึง"อำนาจทางทหาร"เป็นอย่างดีว่า"ง้างได้แม้แต่เหล็กกล้า" ดังนั้น ฮุนเซ็น ท่านจึงปักใจเชื่อ เหมือนผู้มีคุณธรรมทางการเมืองทั้งหลายเชื่อ ว่า
ทักษิณฯเป็นเหยื่อ ทหาร อำมาตยาธิปไตยโดยตรงที่เป็นมือที่มองไม่เห็น
บงการกองทัพอยู่ให้ตั้งตุ๊กตา ปชปย์.ขึ้นมาในเวลานี้
การทรยศต่อระบบอำมาตย์ฯของท่านบิ๊กจิ๋ว ก็ต้องถูกเบอร์หนึ่งของอำมาตย์ออกมาบ่น และลิ่วล้อของ ปชปย์ ก็ต้องรีบออกมาโฆษณาชวนเชื่อบิดพริ้วข้อมูล ทั้งนี้รวมถึงบริวารเสื้อสีต่างๆด้วยที่จะไปปิดล้อมสถานทูต โดยไม่ห่วงการค้าชายแดนและคนไทยที่ทำมาหากินทางชายแดนและในประเทศกัมพูชา
นี่ถ้ารบกันจริงๆไทยแพ้แน่นอน เพราะเรา63ล้านคน แต่เขมร12ล้านคน ทั่วโลกเขาก็หาว่าเรารังแกประเทศเล็ก สหรัฐฯก็ไม่กล้าช่วยเหลือ เขมรเอาเวียตนามบุกมาช่วยยึดเมืองหลวงได้ประหารอำมาตยาธิปไตยตายเรียบแน่งานนี้ ฮา
22 ตุลาคม 2552 08:49 น.
นายหมอดี(แท้)
หนึ่งคือ ทำบุญ ั ทาน ศีล ภาวนา ก็ได้ไปสู่ที่ สุขคติ เช่นเมืองมนุษย์หรือเมืองสวรรค์(เทวโลก พรหมโลก) หรือ หลุดพ้นวัฏสงสารไป
สองคือ ทำ บาป กาย วาจา ใจ ก็ได้ไปสู่ที่ ทุขคติ เช่น เป็นสัตว์โลก เป็นเปรต อสุรกาย หรือ ลงนรกไปในขุมที่ต้องเสวยกรรม
ทหาร ตำรวจ ฆ่าศัตรู คนร้าย เป็นบาป แม้บัญญัติสมมุติอ้างเป็นการปฏิบัติหน้าที่ก็ตาม แต่ปรมัทถ์ แล้ว มันคือ บาปที่ต้องชดใช้กรรมนั้นๆ
นักการเมืองทำผิด ขุนนางศักดินาอำมาตย์ทำผิด ก็ต้องชดใช้กรรม
การอ้างรักชาติฝ่ายเดียวแบบผูกขาดนั้นอ้างได้แต่ก็เป็นบาปแล้วเพราะเป็นรักชาติจนน้ำลายไหล
เหมือนคนแก่ผมหงอกบางคนที่ผูกขาดความรักชาติไว้กับระบบอำมาตยาธิปไตย จนถูกนายพลรุ่นหลังตักเตือนดังกล่าว
การสวมหัวโขนในตำแหน่งใดๆในบัญญัติสมมุติ เป็น อนัตตา
ตนเองก็ปาเข้าไปเป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว ปลงๆเสียบ้าง
อย่าปกป้องระบบอำมาตย์ที่มันจะต้องเสื่อมถอยไปตามวิวัฒนาการพัฒนาประเทศที่เจริญขึ้นๆ
ระบบอุปถัมภ์และอำมาตยาธิปไตยก็หนีไม่พ้นกรรมเวรนี้ของโลกธรรม8
มีลาภเสื่อมลาภมียศเสื่อมยศมีสุขมีทุกข์ฯมีป๋า มีทักษิณฯ ฮา
คำขวัญวันนี้"คนไทยจะไม่จน ถ้าไม่ถูกปฏิวัติ" ฮา(อีกรอบ)