30 ตุลาคม 2551 09:54 น.
นายหมอดี(แท้)
ได้ข่าวกลุ่ม นปช.เริ่มฆ่ากลุ่มพันธมิตร
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ
กลุ่มพ่อค้านายทุน(ทักษิณฯ)เริ่มฆ่ากลุ่มอมาตยาธิปไตย(ขุนศึกขุนนางศักดินา)แล้ว
หรือว่าเป็นเพราะคนละอุดมการณ์
พูดกันไม่รู้เรื่อง เลยต้องตัดสินกันด้วยความตายอย่างที่เห็นและจะเห็นต่อไป
จึงมีคำถามว่า การเมือง เป็นเรื่องของประชาชน หรือ เป็นเรื่องของคนมีบุญมีวาสนาบารมี
แล้วเราเป็นประชาชนจะไปเป็นเบี้ยให้เขาเดินเพื่อแย่งอำนาจรัฐกันทำไม
ปลื้มนักหรือที่นอนอ่านหนังสือพิมพ์กลางถนน
27 ตุลาคม 2551 14:34 น.
นายหมอดี(แท้)
เจ็บแล้วจำ คือ คน
เจ็บแล้วทน คือ ควาย
เจ็บแล้วอาย คือ หมา
เจ็บแล้วบ้า คือ เธอ
3 ตุลาคม 2551 09:47 น.
นายหมอดี(แท้)
นักการเมืองส่วนใหญ่ มักเป็นอย่างนั้น
และผู้คน ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ยกย่องไปตามนั้น ว่า ดีและเหมาะสม
แต่พอมีคนๆหนึ่ง ไม่ทำตามค่านิยมนั้น
แต่ทำไปโดยใจที่แท้จริง ชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ
โมโหก็เตะ ต่อย
กลับถูกต่อว่าต่อขานทางสังคมว่าไม่เหมาะสม
แสดงว่า สังคม ชอบคนสวมหน้ากากหรือไร
15 กันยายน 2551 09:58 น.
นายหมอดี(แท้)
การคัดสรร คัดเลือกคนดีนั้น ทำได้อย่างไร
สามีภรรยา เคยมีข่าว สามีเป็นคนธรรมะ ธรรมโม อยู่สนิทชิดใกล้กับภรรยาแท้ๆ ภรรยายังไม่รู้ตัวเลยว่า สามีของตน แอบไปมีชู้
บางคน ทำเป็นออกวิ่งทุกเช้าตีห้า ที่แท้หลบไปหาเมียน้อย
จนลูกโตแล้ว เมียหลวงถึงจับได้
บางราย เมียหลวงเอาขันรดน้ำศพเคาะหัวสามี ก็มี เพราะเมื่อตายแล้ว จึงจะจับได้ว่าสามีไม่ซื่อสัตย์
นี่เป็นตัวอย่างว่า ขนาดคนใกล้ชิดยังไม่รู้ตัวว่า คนที่ตัวเองคบหาหรือชอบพอนั้น เป็นคนดีจริงๆหรือไม่อย่างไร
ในทางการเมือง ยิ่งแล้วใหญ่ ที่ทุกคนที่อาสาลงรับสมัครรับเลือกตั้งเป็นตัวแทน ต่างก็แสดงความดีให้ประชาชนได้เห็น แต่มันเป็นของจริงหรือไม่ อย่างไรกันแน่
ดังนั้นการดูคนดีนั้น ดูยากแท้
ขนาดพระสงฆ์ อยู่ในความดีแท้ๆยังมีข่าวปูดออกมาบางครั้งว่าผิดศีลแล้ว
แต่ผู้ศรัทธา ยังหลงงมงายนับถืออยู่ก็มี
ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า ในทางการเมือง ไม่มีเครื่องมืออันใดที่ดีไปกว่าระบอบประชาธิปไตยแล้ว แม้ไม่ดีมากแต่ก็ดีที่สุดในการคัดเลือกตามระบบแล้ว
จึงสรุปได้ว่า รัฐบาลคนดีชั่วคราวเป็นความเพ้อฝันนั่นเอง
10 กันยายน 2551 13:55 น.
นายหมอดี(แท้)
ความจริง มันคือการค้าเสรี แต่คลาร์นมาร์กซ์ เรียกเป็นทุนนิยม
พรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนนำมาใช้
คนเราต้องเป็นหนี้ เพื่อสร้างโอกาสเข้าหาแหล่งทุนที่รัฐบาลเปิดทางให้
ขยันทำการงาน การค้า การลงทุน มีล้ม มีลุก ไม่งอมืองอเท้า
เพื่อประโยชน์สุขของตนเองครอบครัวและสังคม
ชีวิตจึงมีความหมายขึ้นว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน โดยถ้ายังไม่พร้อม รัฐบาลก็จะประคองและดูแลสนับสนุนให้ต่อไป
ส่วนอีกด้านเป็นแนวคิดเดิม ในระบบไพร่ฟ้า ที่ราษฎรรอความเมตตาจากรัฐ เป็นระบบเจ้าขุนมูลนาย ที่กำลังทวงอำนาจจากพ่อค้านายทุนอยู่ในขณะนี้
โดยใช้ประชาชนเป็นเบี้ยเดินหมากเหมือนเดิม