23 มีนาคม 2550 07:15 น.
นายธนา
เสียงไก่ขันเจื้อยแจ้วแว่วแว่วมา
จวนเวลาฟ้าใสจักใกล้สาง
เสียงนกร้องจิ๊บจิ๊บกระซิบทาง
หยาดน้ำค้างวางไว้บนใบบอน
.................................................
เอนระนาบราบเขียวเป็นเกรียวคลื่น
ล้มลงพื้นทุ่งข้าวราวหนุนหมอน
ลมพัดพลิ้วใบไหวหลับใหลนอน
พอลมต้อนก็ย้อนกลับรับลมแรง
.................................................
หอมกลิ่นปรุงฟุ้งป่าจากหญ้าดอก
ในไอหมอกเบาบางวางรับแสง
ที่มุมเขาตรงกลางสว่างแดง
ด้วยสาดแสงแรกเริ่มเติมลงมา
...............................................
อาทิตย์ขึ้นตื่นมาจากฟ้ากว้าง
ที่ช่องว่างหว่างเขากับเหล่าผา
เป็นแสงทองมองอร่ามงามจับตา
ปลุกให้ฟ้าสว่างไสวไปตามกัน
..............................................
ว่าเช้าแล้วเช้าแล้วหนอแม่เอ๋ย
อย่าช้าเลยลืมตาอย่าหุนหัน
มาทำงานทำกินกันอีกวัน
ด้วยวิถีคนขยันนะแม่เอย...
..............................................
22 มีนาคม 2550 16:01 น.
นายธนา
คือความสุข คือความทุกข์ คือความหวัง
คือพลัง คือแรงใจ พึงใฝ่หา
คือความเหงา คือความเศร้า คือน้ำตา
คือปัญหา คือเรื่องราว ต้องเข้าใจ
คือความหวง คือความห่วง คือความหึง
คือคำนึง คือคิดถึง คือหวั่นไหว
คือความเชื่อ คือความคิด ความไว้ใจ
คืออะไรถ้าไม่ใช่....คือความรัก
22 มีนาคม 2550 12:15 น.
นายธนา
ใสพิสุทธิ์บริสุทธิ์ใสแวววาว
เปล่งสกาวราวเพชรเกล็ดฟ้า
สงสัยแต่ใครหนอเจียระไนมา
ช่างเลอค่างามงดสะกดใจ
..........................................
หรือหลุดมาแต่เทวายอดมงกุฎ
จึงงามหยุดสายตาพาหลงใหล
งามเกินกว่าหาค่าเทียบสิ่งใด
ประกายใสจับวับวาวราวมณี
...........................................
คือน้ำค้างที่วางไว้บนใบหญ้า
แสงสาดมาพาจัดรัศมี
ระยิบระยับจับตาน่างามดี
คือมณีเลอค่าฟ้าประทาน
.........................................
22 มีนาคม 2550 10:12 น.
นายธนา
ขอเรียงลอยถ้อยคำหวานสานคำรัก
แล้วจำหลักจารึกลงตรงกลางฝัน
อยู่ระหว่างห้วงหัวใจกันและกัน
เธอกับฉันฉันกับเธอละเมอไป
หอบหัวใจอันเหนื่อยล้ามาขอฝาก
และก็อยากให้ดูแลรักษาไว้
เก็บหัวใจไว้ที่ห้องของหัวใจ
คอยมอบไออบอุ่นอุ้มดูแล
ใจเอ๋ยใจใจฉันมันฟุ้งซ่าน
วาดวิมานหวานนักรักแน่แท้
รักครั้งนี้มอบใจให้ไม่ผันแปล
โปรดดูแลให้ความรักจักเป็นดี
ใจของฉันมันบอบช้ำมาหลายครั้ง
จึงเพียงหวังฝากหัวใจไว้ที่นี่
หวังอย่างยิ่งว่าหัวใจใครคนนี้
จะยินดีเป็นที่พักรักษาใจ.....
21 มีนาคม 2550 18:48 น.
นายธนา
ลมพัดพลิ้วปลิวสายที่ปลายทุ่ง
หอมดินปรุงฟุ้งอบอวลชวนหลับฝัน
ปล่อยหัวใจเถลไถลในคืนวัน
ให้ไหวหวั่นหวั่นไหวไปสักครา
ลมคิมหันต์ผันพลิ้วลิ่วระลิ่วล่อง
เพลงขลุ่ยร้องคล้องบรรเลงเครงหรรษา
เอ่ยอารมณ์ระงงร้อนผ่อนอุรา
ยามแดดล้าฟ้าโปร่งโล่งหัวใจ
หอมรวยรินกลิ่นป่าใบหญ้าแห้ง
ใบไม้แล้งล่วงหล่นไปหนไหน
อบแสงแดดแปดเปรียวที่เรียวใบ
จนม้านไหม้หม่นหมองต้องสายตา
ปรุงประทิ่นกลิ่นประทับจับดวงจิต
เชยแนบชิดสรวงใจไอพฤกษา
หอมชื่นสายมิหายห่างและร้างลา
โชยกลิ่นซาพาพลิ้วลิ่วล่องลม
อบไอดินกลิ่นไอร้อนต้อนอ่อนล้า
พักหัวใจที่เหว่ว้าปัญหาถม
ค่อยทำจิตคิดเริงรื่นชื่นเริงรมย์
แล้วเอ่ยชมยามลมร้อนนอนพักใจ