27 มีนาคม 2550 09:08 น.
นายธนา
ก็ชีวิตคิดแต่ว่าจะชนะ
ไม่ลดละความมุ่งมั่นอันเย่อหยิ่ง
อวดโอหังเชิดหน้าว่าเก่งจริง
ทะนงยิ่งหยิ่งจองหองท่องขึ้นใจ
ชีวิตนี้จะไม่มีคำว่าแพ้
ไม่อ่อนแอร้องไห้น้ำตาไหล
จะเข้มแข็งแกร่งกล้ากว่าใครใคร
จะคว้าชัยจะชนะซะทุกคน
ก็มั่นใจเต็มที่ไม่มีแพ้
ใจแน่วแน่ว่าชนะซะทุกหน
แต่แล้วก็ต้องแพ้พ่ายที่ใจตน
ที่ดินร้นไขว่คว้าหาแต่ชัย
ก็เพราะความมั่นใจเกินไปแท้
ว่าไม่มีคำว่าแฟ้ผ่านมาได้
ผลสุดท้ายก็พ่ายแพ้แพ้ที่ใจ
ใช่แพ้ใครแต่แพ้ในใจตนเอง....
26 มีนาคม 2550 21:03 น.
นายธนา
เมื่อคราค่ำย่ำเยือนเคลื่อนครองฟ้า
หอบนำพาหัวใจให้เปลี่ยวเหงา
เพราะเจ็บช้ำค่ำนี้มีเรื่องราว
ที่ปวดร้าวเหลือกล่าวเศร้าระทม
กับความรักความหลงความเพ้อฝัน
ทำไหวหวั่นหวั่นไหวใจขื่นขม
เพราะรักคนหลายใจให้ระทม
เจ็บเหมือนคมมีดขีดกรีดกลางใจ
ว่าจันทร์เอ๋ยเคยไหมเป็นเช่นนี้
ด้วยคนที่รักเจ้าเขาเหลวไหล
ดาวเจ้าเอ๋ยเจ้าเคยบ้างหรือไม่
แล้วควรทำเช่นไรบอกข้าที
ด้วยตอนนี้ใจข้านั้นเจ็บนัก
เพราะคนรักพาใจไกลห่างหนี
เขาไปมีคู่ใหม่ไม่ใยดี
ปล่อยข้านี้เจ็บเศร้าเคล้าน้ำตา
ลมเจ้าเอ๋ยข้าขอเอ่ยฝากได้ไหม
ฝากถามใครที่ทำร้ายใจหนักหนา
ว่าไฉนใจจึงร้ายไกลจากลา
ไม่เห็นข้าในสายตาเลยหรือไร
ตัวข้านี้ทำผิดอะไรหรือ
จึงปล่อยมือไม่รักและผลักใส
ทำกับข้าเหมือนว่าไร้หัวใจ
เจ็บรู้ไหมเจ็บมากมากที่จากลา
สายน้ำค้างพร่างพรูดูเป็นสาย
เปรียบน้ำตาข้ามิหายคร่ำครวญหา
เพราะรักเจ้าเกินใจจะตัดลา
จึงร่ำไห้ร้องหาแทบบ้าไป
คราค่ำนี้เจ็บช้ำระกำนัก
ด้วยความรักชักพาข้าเหลวไหล
จึงคร่ำครวญค่ำคืนฝืนหัวใจ
จักค่ำนี้ค่ำไหนไร้สุขเอย...
26 มีนาคม 2550 07:53 น.
นายธนา
เช้าสว่างทางแจ้งแสงตะวัน
เดินตามฝันเดินไปด้วยใจหมาย
แม้ฝันไกลมานะไปพร้อมใจกาย
สู้เพียงตายวายชีพก็เป็นพอ
อนาคตอีกยาวไกลจงใฝ่หา
และตั้งหน้าเดินไปไม่ย่อท้อ
แล้ววันหนึ่งจะประสบพบสิ่งพอ
อย่ารีรอต้องไขว่คว้าหาเร็วไว
พยายามจนกว่าจะสำเร็จ
หากล้มแล้วอย่าได้เข็ดลุกเริ่มใหม่
จงเชื่อมั่นเชื่อฝันกำลังใจ
เราทำได้เราทำได้ฝันของเรา
25 มีนาคม 2550 20:19 น.
นายธนา
เสียงคนตรีขับกล่อมล้อมพงหญ้า
สอดสำเนียงเคียงพนาป่าหลังสวน
พลิ้วลมเอื่อยเฉือยฉิวทิวไม้รวน
ลมรัญจวนชวนชื่นระรื่นใจ
ดวงดาราพร่ากระพริบระยิบฟ้า
วับแวววับจับสายตาพาหลงใหล
ทะเลดาวพราวแสงแจ้งรำไร
รัศมีสุขใสให้ชุ่มเย็น
หยาดน้ำค้างโปรยปรายสายหยิมย้อย
ละอองฝอยลอยลมพรมหญ้าเล่น
ทำประกายแวววับกับจันทร์เพ็ญ
ให้โดดเด่นใสบริสุทธิ์สะดุดตา
ฟังเสียงเพลงบรรเลงมาจากป่ากว้าง
ดังท้ามกลางความมืดมิดสนิดฟ้า
พริ้งไพเราะเพราะจับใจให้พรรณนา
เอมอุราอิ่มอุระจังหวะไพร
หมู่หริ่งหรีดกรีดร้องประคองเสียง
แมลงร่วมกล่อมสำเนียงเสียงสดใส
ทำดนตรีมโหรีจากพงไพร
บรรเลงเพลงให้หลับใหลกังวล
ราตรีสร้างดุริยางค์วางดนตรี
ให้ขับกล่อมชีวีที่สับสน
ได้หลับฝันสันต์สุขทั่วทุกคน
เพื่อหลุดพ้นจากความเหนื่อยเหมื่อยกายใจ...
25 มีนาคม 2550 11:50 น.
นายธนา
สายลมลองท่องรำเพยผ่านพัดพา
แหวกกอหญ้าพลิ้วไวไปตามสาย
ปะทะหมอกหยอกกันเล่นเย็นสบาย
เมฆสยายกระจายฟ้าพาตามแรง
แดดลออทอทิพย์กระซิบหญ้า
น้ำค้างพร่าแสงอ่อนสะท้อนแสง
ดังหยาดเพชรเกล็ดฟ้าราคาแพง
ว่างแต้มแต่งผืนไผทให้งดงาม
ดอกหญ้าปลิวลิ่วลิ่วล่องละอองหอม
ก้านใบน้อมคุยกับลมพรมคำถาม
ลมก็ตอบชอบใจปล่อยไหวตาม
ช่างงดงามยามย้ายตามสายลม
ใบไม้พลิ้วปลิวใบไหวทั้งกิ่ง
โอนแอบอิงพิงกันทอดก้านก้ม
กระซิบกระซาบถามไถ่ในสายลม
ให้ชื่นชมภิรมย์ใจไปกับมัน
นกตัวน้อยเกาะกิ่งไม้ย้ายไปมา
เสียงเจื้อยแจ่วแว่วป่าน่าสุขสันต์
คุยกับลมชมดอกไม้ผูกสัมพันธ์
อาศัยกันพึ่งพาน่ารักดี
สายน้ำไหลทอประกายกระทบแสง
ผ่านเกาะแก่งแรงอ่อนผ่อนวิถี
ระยิบระยับจับตาพร่างขจี
ชื่นฤดีใส่สะอางสว่างใจ
พลิ้วลมผันพัดพาวารีเลื่อน
ชโลมดินเยี่ยมเยือนค่อยเคลื่อนไหล
ไหลล่องเล่นกับลมพัดพาไป
ไหลล่องในร่องน้ำตามทางมา
เพียงสายลพัดผ่านก็พลาญพบ
ความสงบร่มเย็นเร้นหรรษา
เมื่อยามใดสายลมพรมพัดพา
ทุกชีวาก็ร่มเย็นดังเช่นลม