28 กรกฎาคม 2547 07:47 น.
นางสาวใบไม้
** ขอโทษค่ะ **
ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้
กดหาเธอทีไร...ปลายสายก็บอกอย่างนี้ทุกที
คนฟังทางนี้ก็ได้แต่รอ - - กว่าเธอจะกลับมา
เธอรู้ก็คงหัวเราะเหมือนเคยอีกสินะ
ไม่เคยจะรับรู้เลยว่าใครคนหนึ่งคอยห่วงหา
วันที่เธอไม่อยู่ก็ได้แต่มองเข็มนาฬิกา
ใจหนึ่งก็ภาวนาให้เวลาผ่านไปไว ๆ
ทำไมถึงไม่ชินกับการอยู่คนเดียวซะที
ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะคิดถึงเธอใช่ไหม
เก็บความคำนึงไว้ในซอกมุมหนึ่งของหัวใจ
รู้บ้างหรือเปล่าว่าเงียบเหงาเพียงใดเมื่อไม่มีเธอ
วันที่เธอไม่อยู่มันก็หดหู่อย่างที่เคยบอก
ไม่มีใครรรู้หรอกว่าฉันแอบร้องไห้เสมอ
ก็มันเหงานี่นา - - ตื่นเช้าขึ้นมาก็ไม่ได้ยินเสียงเธอ
ไม่รู้ว่าจะปล่อยให้คนทางนี้คอยเก้ออีกนานเพียงใด
เธอก็พูดได้สิว่า...แค่สองสามวันเท่านั้น
แต่ความรู้สึกน่ะมันนานรู้บ้างไหม
แค่สองสามชั่วโมงยังแทบจะขาดใจ
รอคนที่เรารักน่ะ...ยิ่งนานเท่าไหร่...ก็ยิ่งทรมาน
27 กรกฎาคม 2547 11:37 น.
นางสาวใบไม้
ท่วงทำนองชีวิตลิขิตสร้าง
สรรพสิ่งเลือนร้างตามเหตุผล
เกิดแล้วดับลับหายคล้ายวังวน
ก่อนหลุดพ้นเลือนลับชั่วกัปกาล
เฉกราตรีแม้เหน็บหนาวยาวนานนัก
ยัทายทักแสงอุ่นอรุณฉาน
ตะวันเคลื่อเดือนลับนับวันวาร
ทิวาผ่านราตรีเปลี่ยนหมุนเวียนไป
กาลเวลาเริ่มบรรเลงเลงขับขาน
ก่อวิญญาณเกิดร่างกายให้อาศัย
ใส่ไฟฝันสรรค์ความคิดสร้างจิตใจ
ให้ดำเนินเดินไปในมายา
วันแรกผลิปริออกเป็นยอดอ่อน
ยังย่อหย่อนกับทุกข์โศกในโลกหล้า
ยังครั่นคร้ามหวั่นไหวในชะตา
ด้วยเหว่ว้าเหงาเงียบเยียบดวงใจ
ฤดูผันวันผ่านกาลสั่งสม
กอบเก็บความรื่นรมย์น่าพิสมัย
ร้อยเรียงความชอกช้ำระกำใจ
เป็นบทเรียนแห่งวัยเตือนใจตน
จากคืนวันผันเดือนเลื่อนเป็นปี
ถึงวันคลี่ใบกล้าท้าลมฝน
เป็นร่มเงาที่พิงพักแก่ผู้คน
บรรลุผลสมคุณค่าการรอคอย
กว่าชีวิตปลิดปลิวลิ่วสู่พื้น
ขอเคียงข้างหยัดยืนไม่ถดถอย
ก่อนชีพดับลับล่วงร่วงหลุดลอย
เหลือเพียงรอยความอุดมถมผืนดิน
คือบทเพลงแห่งการอำลาร้าง
หลังเสร็จสร้างความฝันใฝ่ดังใจถวิล
เป็นบทเพลงโศกซ้ำน้ำตาริน
หวังยลยินเพียงสุขสมบนเส้นทาง
ท่วงทำนองของสายลมหวีด หวีด.....หวิว
หนึ่งใบไม้ร่วงหล่นปลิวเคว้ง เคว้ง.....คว้าง
กลางสายหมอกคลายเคลื่อนเลือน เลือน.....ลาง
.....ไม้ทิ้งใบ....อ้างว้าง....กลางสายลม
27 กรกฎาคม 2547 11:27 น.
นางสาวใบไม้
** ขอโทษค่ะ **
ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้
กดหาเธอทีไร...ปลายสายก็บอกอย่างนี้ทุกที
คนฟังทางนี้ก็ได้แต่รอ - - กว่าเธอจะกลับมา
เธอรู้ก็คงหัวเราะเหมือนเคยอีกสินะ
ไม่เคยจะรับรู้เลยว่าใครคนหนึ่งคอยห่วงหา
วันที่เธอไม่อยู่ก็ได้แต่มองเข็มนาฬิกา
ใจหนึ่งก็ภาวนาให้เวลาผ่านไปไว ๆ
ทำไมถึงไม่ชินกับการอยู่คนเดียวซะที
ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะคิดถึงเธอใช่ไหม
เก็บความคำนึงไว้ในซอกมุมหนึ่งของหัวใจ
รู้บ้างหรือเปล่าว่าเงียบเหงาเพียงใดเมื่อไม่มีเธอ
วันที่เธอไม่อยู่มันก็หดหู่อย่างที่เคยบอก
ไม่มีใครรรู้หรอกว่าฉันแอบร้องไห้เสมอ
ก็มันเหงานี่นา - - ตื่นเช้าขึ้นมาก็ไม่ได้ยินเสียงเธอ
ไม่รู้ว่าจะปล่อยให้คนทางนี้คอยเก้ออีกนานเพียงใด
เธอก็พูดได้สิว่า...แค่สองสามวันเท่านั้น
แต่ความรู้สึกน่ะมันนานรู้บ้างไหม
แค่สองสามชั่วโมงยังแทบจะขาดใจ
รอคนที่เรารักน่ะ...ยิ่งนานเท่าไหร่...ก็ยิ่งทรมาน
23 กรกฎาคม 2547 15:50 น.
นางสาวใบไม้
เหตุบังเอิญเปิดสาสน์อ่านหน้าจอ
พบคำขอแลกใจของใบไม้
ไม้หอมไหมแลกใบคงได้ใจ
แต่เพียงใบใจบิดชิดจึงจาง
ใจเจ้าเอยเคยจำคำว่ารัก
ใจเจ้าภักดร์ถักกอมิเมินหมาง
ใจเจ้าเอื้อเคยเกื้อแต่กลับวาง
ใจเจ้าห่างร้างใจใยจะเจอ
ครวญคำมาว่าใจต้องแลกใจ
ครวญคุในร้อนไฟหวั่นเสมอ
ครวญร้องหาอุรารู้รักเธอ
ครวญแล้วเก้อเกิดทุกข์สุขราโรย
หากว่ารักรักกันมั่นในจิต
หากพึงคิดนิยมใช่หน่ายโหย
หากซึ้งค่าวาจาใช่มาโปรย
หากบินโบยรักตรงจงรีบจอง
จะเกี่ยวก้อยร้อยใจไปฟากฟ้า
จะกล่าวอ้างเทวามาคู่สอง
จะมิพรั่นพร้อมสมัครเป็นคู่ครอง
จะยอมมองจ้องปลูกผูกไมตรี
ลอยตามลมพรมพร่างร่างใบไม้
ลอยตามใครตามใจหทัยฉวี
ลอยคำรักทักมาฝากวจี
รอยคำนี้มีค่าใจแลกใจ
ฝากลำนำมอบให้ใบไม้พลิ้ว
เจ้าจงลิ่วมามอบปลอบรักใส
รักกันอยู่คู่หล้าคู่โดมไทย
รักกันไว้คงมั่นลั่นไทยโพม
เป็นลำนำคำหวานปานน้ำผึ้ง
เป็นประหนึ่งความเจิดแจ่มแห่งแสงโสม
เป็นน้ำคำฉ่ำชอบปลอบประโลม
เป็นโพยมแจ่มกระจ่างกลางชีวี
แทนเสียงเพรียกจากใจส่งไปถึง
แทนคำซึ้งส่งให้ไม่หน่ายหนี
แทนน้ำใจอุ่นละมุนกรุ่นฤดี
แทนไมตรีแห่งรัก...ประจักษ์ใจ
จากส่วนลึก...ของความห่วงหา
จากความฝันเจิดจ้าสว่างใส
จากใบไม้ใบหนึ่งในพฤกษ์ไพร
จากหัวใจ....ส่งให้...อาภาภัส
คือแสงทองส่องใจให้ฉายฉาน
คือสัญญาณทิวากาลเจิดจำรัส
คือหนึ่งนี้อรุโณทัยอาภาภัส
คือฉายชัดแห่งจินตนาว่ากวี
ด้วยมิตรภาพจากใจไม่เสแสร้ง
ด้วยกำลังแรงใจจากใจดวงนี้
ด้วยความรักด้วยศรัทธา...เท่าที่มี
ด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจ
เพราะเป็นเพียงใบไม้...ใบหนึ่งเท่านั้น
มีความฝันมีความรักความอ่อนไหว
ร้อยถ้อยคำมากำนัลแทนมาลัย
กรองสุนทรด้วยหัวใจมอบให้เธอ
22 กรกฎาคม 2547 15:35 น.
นางสาวใบไม้
จากคนแปลกหน้าที่กลายมาเป็นคนคุ้นเคย
จากคนที่ดูเฉยเมยและไม่เคยเอาใจใส่
จากคนที่ไม่หวานชาด้านคล้ายไม่มีหัวใจ
คือคนสุดท้ายที่มีไหล่ให้ซับน้ำตา
***ลืมเสียเถิดความหลังฝังดวงจิต
ลืมเสียเถิดมิ่งมิตรขนิษฐา
ลืมเสียเถิดความเศร้าร้าวอุรา
ลืมเสียเถิดแก้วตาอย่าอาวรณ์***
คือบทกลอนปลอบน้องอย่าร้องไห้
นิ่งเสียเถิดดวงใจฟังพี่สอน
พี่รู้ดี...วันนี้เจ้าร้าวรอน - - -
อาจไหวอ่อน - - แต่น้องอย่าอ่อนแอ
คนเก่งของพี่ชายหายไปไหน
เรื่องแค่นี้ไยถอดใจแล้วยอมแพ้
โธ่เอ๊ย.....ยัยเด็กงอแง
ที่แท้ก็คนเจ้าน้ำตา
ยิ้มหน่อยนะ.....คนดี
ดูพี่ชายสิ - - ยังหัวเราะร่า
เช็ดซะ....น้ำมูกน้ำตา
แล้วหันหน้ามาคุยกัน
เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียวหรอกนะ
ทำไมยังจะทำหน้าอย่างนั้น
- - -ในวันนี้ที่ดูเงียบงัน - - -
ลืมไปหรือยังว่ามีพี่อยู่อีกคน
น้ำตามีค่าเกินกว่าจะเสียให้คนอย่างนั้น
เมื่อเขาไม่เห็นความสำคัญก็อย่าไปสน
เวลาที่ผ่านมาก็ถือซะว่าซื้อคนไปหนึ่งคน
แล้วปล่อยความหมองหม่นให้จบไป
อาจไม่มีคำซึ้งมาปลอบขวัญ
แต่ไม่อยากเห็นเจ้านั้นหวั่นไหว
รู้ไว้นะว่าน้ำตาเจ้ารินไหลเพียงใด
ก็รินรด......หัวใจพี่ชาย...ให้เจ็บร้าวได้....พอกัน