23 มิถุนายน 2549 13:09 น.
นางสาวใบไม้
ครั้งหนึ่ง..เคยถามว่าเธอรักฉันแค่ไหน
คำตอบที่ให้..แทนระยะทางอันยาวไกลในห้วงหาว
มือหนึ่งชี้วาดออกไป....จากนี่ถึงดวงดาว...
ใจหนึ่งปวดร้าว..รักเราไม่อาจเทียบเท่าที่เธอเคยมี
ปลอบใจตัวเอง..ว่าสักวันเถิดสักวัน
เมื่อวันคืนผ่านผัน...ท้องฟ้าอาจพลันกลับเปลี่ยนสี
ปริมาณความรักอาจค่อยทบท้น..ล้นทวี
อดทนรอ..วันเวลาที่แสนดี..ที่เธอจะมีฉันเต็มหัวใจ
เก็บถ้อยคำคิดถึง..ไว้ปลอบโยนในวันที่คอยเก้อ
ไม่มีความจริงที่พร่ำเพ้อ...ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน
จะมีใครหรือ..อาจแทนที่สิ่งดีดีที่มีต่ออีกบางใจ
ไม่มีทางใครแทนที่ใครจะหลอกตัวเองทำไมให้ทรมาน
เส้นทางระหว่างเราจึงยังเงียบเหงา...และโหยหา
ถนนแห่งโชคชะตานั้นเป็นเพียงเส้นที่ทอดขนาน
อาจสักครั้งที่..ทางโค้งคดพาเราตัดผ่าน..สักเสี้ยวกาล
ต่างคนจึงต่างร้าวราน..เมื่อถึงคราต้องจากกัน
ไกลแสนไกล...อ้างว้าง..หวั่นไหวจนใจหาย
โอ้ใจหนอ...แสนเสียดาย..วันเวลาเคยร่วมฝัน
ที่แล้วมา...มีเพียงเรา..เคยทะนงว่าตนนั้นสำคัญ
ลืมตาตื่น...สิ้นฝัน..เราไม่อาจมีกันและกันในความจริง
31 พฤษภาคม 2549 16:56 น.
นางสาวใบไม้
อ า จ ถ้ อ ย คำ พั น ธ น า ก า ร เ พื่ อ ร า น ร้ า ว
เ พี ย ง ชั่ ว ค ร า ว ยิ้ ม เ ค ย ชื่ น จึ ง ขื่ น ข ม
ฝั น ม า ร้ า ง จ า ง ห า ย ใ น ส า ย ล ม
น้ำ ค้ า ง พ ร ม พ ร่ า ง ชื้ น รื้ น ข อ บ ต า
อี ก ฝั่ ง ฟ้ า . . ค น ร อ ค ง ท้ อ ถ อ ย
เ มื่ อ ไ ม่ มี แ ม้ รู ป ร อ ย ที่ ค อ ย ห า
ห นึ่ ง น้ำ คำ ริ น ร่ำ พ ร่ำ สั ญ ญ า
แ ท้ ม า ย า . . ป ล อ บ ข วั ญ วั น เ ดี ย ว ด า ย
พ ร า ว ฝ น โ ป ร ย ส า ย ต ร ง ป ล า ย ฟ้ า
แ ส ง พ ร ะ จั น ท ร์ โ รย ร า แ ล้ ว เลื อ น ห า ย
ลั บ แ ส ง ด า ว เ ค ย เ ป ล่ ง ล้ อ ท อ ป ร ะ ก า ย
ห า ก ภ า พ เ ธ อ ยั ง ฉ า ย ชั ด เ จ น ใ จ
. . . ค น ข อ ง ค ว า ม คิ ด ถึ ง . . .
ทุ ก บ ท เ พ ล ง ยั ง ต ร า ต รึ ง ค น อ่ อ น ไ ห ว
เ ธ อ ป ว ด ร้ า ว . . ฉั น ก็ เ จ็ บ ห น า ว เ ห น็ บ ใ จ
น้ำ ต า ไ ห ล . . . คื น นี้ ไ ม่ มี " เ ร า "
29 พฤษภาคม 2549 16:32 น.
นางสาวใบไม้
อาจด้วยโชคชะตาที่ทำให้เราได้มาพบกัน
เพื่อเติมเต็มและแบ่งปัน..คืนวันที่เงียบเหงา
หล่อหลอมความต่างให้ประสานเป็นสองเรา
ข้างกายที่ว่างเปล่า..จากนี้..เราจะมีกันและกัน
..ที่ผ่านมา..อาจเคยสงสัยว่าเราเกิดมาเพื่อใคร
ที่สุดของหัวใจจะมีจริงไหม..คนของความฝัน
หรือแค่นิทาน..ที่ฟ้าจะส่งใครมาให้เราได้ผูกพัน
ท้ายสุดของคำถามนั้น..ถูกยืนยันด้วยหัวใจเธอ
เธอ...นิยามความรักทั้งหมดที่ฉันมี
สุดปลายทางสายนี้..จะมีเธอรอฉันอยู่เสมอ
แม้เนิ่นนานและเดียวดายกว่าเราจะได้มาพบเจอ
จนวันนี้ที่มีเธอ..จึงได้รู้ว่าตลอดเวลาคุ้มค่าเพียงใด
17 พฤษภาคม 2549 07:47 น.
นางสาวใบไม้
เพราะเธอเป็นดั่งฤดูกาลแห่งความรัก
เป็นแดดอุ่นทายทักในเช้าชื่นของวันที่ฟ้าใส
เป็นสายลมโลมไล้ที่เคยคุ้น..อันละมุนละไม
เป็นหยาดฝนชุ่มชื่นใจ..โปรยปรายในวันที่ร้อนรน
ไม่ว่าฤดูอะไร..ฉันจึงอุ่นใจเสมอ
เพราะความรักจะโยงใยให้ได้พบกับเธอในทุกแห่งหน
ทุกย่างก้าวต่อแต่นี้..ใช่มีใครเดินลำพังเพียงหนึ่งคน
แต่ในทุกแห่งหนเราจะเดินไปพร้อมๆ กัน
ต่อให้แดดร้อนลมแรง...สักเพียงไหน
จะหวั่นอะไร...ในเมื่อยังมีเธอและมีฉัน
หนาวสักเท่าใด..อ้อมกอดแห่งเราจะโอบกันและกัน
ในความผูกพัน..ทุกคืนวันจะเป็นนาทีที่งดงาม
15 พฤษภาคม 2549 15:12 น.
นางสาวใบไม้
จากนี่ถึงดวงดาว : รังไม้
กระแสลมยังเดินทางไกล
มิรู้จากนี่ถึงที่ไหน?
หากแต่กระแสใจ ยังทอคลื่น
จากนี่ กี่วัน กลั่นคืน
จากข้าฯ สู่เจ้า นาทีแห่งเรา ร้องร่ำคำคิดถึง
คุ้นอุ่นเสียงหัวเราะ หัวใจเคาะท่วงทำนองหนึ่ง
ถักทอคิดคำนึง
รำลึกถึงอยู่ทุกครู่ยาม
เจ้าเอ่ย ย้ำ - ข้าฯล่วงล้ำต่อคำถาม
ตอบต่อโมงยาม ตามสิ่งจริงของเวิ้งใจ
คิดถึงไหม? รักไหม! รักมากไหม? กึกก้องอยู่ใน-
ทุกอณู กาย-ใจ
ข้าฯรักเจ้าเท่าใด?คำตอบมีให้ จากนี่ถึงดวงดาว
อย่างไรไหม?หรือดุจดังไร้เดียงสาเล่า หญิงสาว
ยามห่างยังห่วงฝากใจกับแสงดาว พราวถึง เสมอ
* หากเธอคิดถึงฉัน....ถึงแม้ไม่ได้เจอ
...ให้เธอรู้ฉันยังอยู่ไม่ไกล...
เมื่อไหร่ที่คิดถึงฉัน.....ให้รักแทนดวงตา
...ฉันจะมาเจอเธอที่หัวใจ.....
บทเพลงนั้นเสมือน ถ้อยแทนห้วงใจจากเจ้า คนไกล
ต่อข้าฯกระนั้นเพื่อยับยั้งภาวะกระวนกระวายภายใน
หาไม่จักเพียงพอ
สุ้มเสียงแห่งเจ้าเท่านั้น เจ้าผู้เป็นที่รัก จักเติมต่อ
การรั้งรอ-เยียวยา-เติมเต็ม ความคิดถึงโหยหาแห่งข้าฯต่อเจ้า..
ยามนี้กระแสคลื่นแห่ง คิดถึง รุกเร้าท่าวทวี ค่ำว้างเหงา
ข้าฯคร่ำย้ำซ้ำกับบทเพลงท่อนเก่า
แว่วเสียงเจ้าเย้า คิดถึงไหม? รักไหม! รักมากไหม?
ข้าฯเผลอยิ้มปริ่มใจ
ตอบต่อสายลมไล้ ว่า คิดถึง รักมาก...
ก่อนสิ้นแสงดาว : ใบไม้
เวิ้งฟ้ากว้างกว่ากว้าง..
หากเวิ้งใจ...อาจเส้นทางกว้างกว่าสักเพียงไหน
ด้วยตายังมองเห็นแสงพราว...ระยับห้วงฟ้าไกล
หากห้วงใจ...สักครั้งไหมได้เอ่ยความนัยให้รับรู้
ฝากถ้อยอธิษฐาน...ก่อนสิ้นแสงดาวในราตรีนี้
ตราบเท่าที่...ทุกลมหายใจแห่งวิญญาณข้ายังคงอยู่
ดวงตาแห่งความคิดถึงจากฟ้าไกลยังคงคอยเฝ้าดู
คือจริงแท้...ในทุกอณู...หาใช่เพียงใจไหวละเมอ
แม้ค่ำคืนเหน็บหนาว.....ยาวนาน
เพียงพอที่จะรานใจดวงร้าว...ยามพลั้งเผลอ
หวังเพียงต่างคนต่างเชื่อมั่น..แม้ไกลกันเกินพบเจอ
ศรัทธาแห่งรักนั้นยังสื่อถึงเสมอแม้ฟ้ากว้างร้างไร้ดาว
เถิด....จงรู้ไว้...คนของความคิดถึง..
ก่อนแสงดาวแห่งความคำนึงลับหายในห้วงหาว
ซาบซึ้งแล้วถึงปริมาณรักเร้นวลี...."จากนี่ถึงดวงดาว"
คราดาริกากระพริบพราว...อุ่นเถิดใจเจ้า...ข้าเข้าใจ