12 พฤศจิกายน 2545 20:51 น.
นักเดินทาง(Skeczys)
ราตรี ประดับดาว สุสกาวประดับใจ
ส่องแสงสว่างใส ดุจเพชรระยับตา
ดั่งเทพประทานพร จิ ต กร ระบายฟ้า
แต่งแต้ม ณ ดารา สุ สว่าง ส ถิตทรวง
เก็จแก้วพะแพ้วผ่อง รุจิส่อง ธ แดนสรวง
มีจันทร์ สุ วรรณยวง ม ธุ สี ส คราญใจ
แพรฟ้า ณ ราตรี บท คลี่ กระจายไป
แผ่นฟ้า น ภาใส ร วิ ส่อง จะ มาแทน
ลาแล้วบุหลันล่วง ร พิช่วง ส ลับแสง
ถึงกา ล ฟ้าแปลง ก็สว่าง ธ กลางวัน
10 พฤศจิกายน 2545 13:57 น.
นักเดินทาง(Skeczys)
ลมเอื่อยเฉื่อยเรื่อยไล้ลงผิวอ่อน
หลับตานอนผ่อนตามเรื่องความฝัน
มีแต่เราเฝ้ามองส่องแสงจันทร์
พาใจมั่นปั้นเป็นเช่นจันทรา
แม้ยืนเด่นบนฟ้านภากาศ
ก็ผงาดมีดาวพราวแน่นหนา
เป็นเพื่อนแก้วแพรวระยับทุกเวลา
มีกระต่ายบนฟ้าเคียงคู่กัน
ไม่อยากเป็นเช่นดั่งดวงอาทิตย์
อิทธิฤทธิ์แรงเร่าเผาสวรรค์
มิมีใครจักกล้าท้าตาวัน
ส่องประชันแสงสรรหวั่นฤดี
สุริยันนั้นเจ้าไม่เหงาหรือ
ส่องแสงดื้อถือแรงแห่งศักดิ์ศรี
ไม่มีเพื่อนเตือนใจในชีวี
ฤ เจ้ามีความสุขเช่นนั้นเอง
3 พฤศจิกายน 2545 18:06 น.
นักเดินทาง(Skeczys)
แว่วแว่ว วิ หกร้อง บ ท ก้อง และ กังวาล
วังเวง วิ เวกหวาน น ภ เทียบ ผิ ทองทา
รอนรอน ต ะวันลง อั ส ดง ณ ปลายฟ้า
แขไข จะ ไคลคลา พ สุ ธา ก็ มืดไป
วิบวิบ วะ วับวาว พิ ศ ดาว สะ กาวใจ
ยิ่ง เพชรัตน์ใด ชุ ติ ล้ำ ณ ราตรี
ลอยลอย บุ หลันล่อง รุ จิ ส่อง ณ วารี
เป็นเงา ระ ริบหรี่ ร ช นี จะ ครองกาล