12 พฤษภาคม 2552 19:39 น.
นรศิริ
จงร่มเย็นเป็นสุขเถิดทุกท่าน
ไร้ร้าวรานทุกข์ทนทั้งหม่นหมอง
ท่วมท้นสุขทุกยามตามครรลอง
อีกหมายปองครองใดได้ดั่งดล
เถกิงเกียรติถกลศัพท์นับอนรรฆ
ไตรรัตน์ป้องปกปักรักษ์ทุกหน
แม้นย่างกรายแดนใดไร้กังวล
ประเสริฐล้นกุศลบุญคอยหนุนนำ
ได้หลีกพ้นวนห่างหนทางชั่ว
ไม่เมามัวในกามาพาถลำ
มีมากมายหลายหลากมากเวรกรรม
อย่าได้ตามซัดซ้ำหรือกล้ำกราย
จงร่มเย็นนิรันดร์ทุกวันชื่น
จงราบรื่นชีวิตกิจทั้งหลาย
ผองไพรีทั้งมวลมุ่งทำลาย
มอดมลายด้วยธรรมประจำใจ
5 พฤษภาคม 2552 03:35 น.
นรศิริ
ขอเชิญทุกท่านให้นิยาม ความรัก ขอบคุณค่ะ
ความรัก เป็นยาอายุวัฒนะ
ความรัก เป็นสิ่งที่มีคุณค่า
ความรัก เป็นสิ่งที่งดงาม
ความรัก เป็นสิ่งที่ให้ความสุข
ความรัก เป็นสิ่งที่ทำเข้มแข็ง แกร่งกล้า
ความรัก เกิดขึ้นได้ทุกข์เมื่อ
ความรัก ไม่มีขอบเขต
ความรัก ไม่มีชนชั้น
ความรัก ทำให้รู้จักการให้
ความรัก ทำให้รักจักคุณค่าของสิ่งที่รัก
ความรัก ไม่ได้ทำให้โง่ หรืองมงาย
ความรัก ไม่เคยมีพิษหรือเป็นพิษร้ายต่อใครเลย
ความรัก ไม่ได้ทำให้คนตาบอด และคนตาบอดไม่ได้เกิดจากความรัก
ความรักยิ่งใหญ่และกว้างใหญ่กว่าจักรวาล
ผลของความรักจะมีค่าเป็นบวกเสมอ หากรักนั้นบริสุทธิ์
ความรักจะเปลี่ยนเป็นตรงข้ามเมื่อมี
- กิเลส
- ตัณหา
- ราคะ
รักที่บริสุทธิ์จะเป็นสีขาวเสมอ
รักที่เจือปนจะเป็นสีดำเสมอ เช่นกัน
ใครเล่าไม่ต้องการความรัก
1 พฤษภาคม 2552 05:30 น.
นรศิริ
วันนี้วันพระนะคะ คิดดี พูดดี และทำดี สิ่งดีๆย่อมเป็นของเรา
เจ้าสดใสในจิตไร้คิดชั่ว
มิเคยกลั้วการต่ำล้ำเลิศแสน
สว่างใสน้ำใจมิขาดแคลน
ประลุแดนพุทธธรรมนำจิตใจ
มิใช่เพชรหากเลอค่ายิ่งกว่าเพชร
ใช่แก้วเก็จแวววาวสกาวใส
อุบัติมาเพื่อสร้างทางวิไล
เพื่อก้าวไปสู่หล้าฟ้านิพพาน
ศีลวัตรปฏิบัติขจัดชั่ว
มิเคยกลั้วมลทินทุกถิ่นฐาน
เลอความงดทดความงามทุกวันวาร
เยาวมาลย์นั้นหรือคือดอกบัว
หอม เย็น สว่าง ร้างกิเลส
ทุกแคว้นเขตนิยมชมกันทั่ว
สว่างตาสว่างใจไร้มืดมัว
คือดอกบัวบริสุทธิ์พุทธบูชา
ขอความกรุณาท่านนำภาพดอกบัวมาลงให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด ขอบคุณค่ะ
28 เมษายน 2552 19:32 น.
นรศิริ
ตาบอดกับใจบอด
ดวงตาบอดมืดมิดจิตไม่ต่ำ
ความระยำทั้งหลายไม่มีเห็น
แม้นจะมีชีวีที่ลำเค็ญ
ก็หลีกเร้นเข่นฆ่าทารุณกรรม
สังคมอาจมองว่ามีค่าด้อย
เพราะต้องคอยขอเขาทั้งเช้าค่ำ
ด้วยหนทางทุจริตไม่คิดทำ
อย่าเหยียบย่ำเลยหนอข้าขอทาน
การทำมาหากินแม้สิ้นศักดิ์
แต่ก็รักความสงบทุกสถาน
ไม่เคยเบียดเบียนใครให้ร้าวราน
ทั้งวันวานวันนี้มีธรรมครอง
แม้นว่ามองไม่เห็นใจเป็นสุข
มิเคยทุกข์ทดท้อต่อภัยผอง
ยังร้องเพลงกล่อมขวัญตามครรลอง
ถึงมิใช่เสียงทอง ร้องจากใจ
มิเคยมีวันหยุดหรือวันพัก
มีใจรักผูกพันงานยิ่งใหญ่
บริสุทธิ์ยุติธรรมน้อมนำใจ
มิเคยได้แย่งชิงสิ่งทั้งปวง
สำหรับท่านผู้การุณย์บุญประเสริฐ
ขอชีวีเลอเลิศอย่าโรยร่วง
มีตรัยรัตน์ปกปักรักษาดวง
สถิตห้วงสุขาวดีเป็นนีรันดร์
26 เมษายน 2552 05:57 น.
นรศิริ
เมืองไทยเอยเคยเย็นเป็นไฉน
ต้องมาลุกเป็นไฟในทุกที่
เลือดไทยทาทั่วถิ่นปัถวี
น้ำตาไทยล้นปรี่ทุกวันวาร
การเข่นฆ่าล่าไล่มิได้หยุด
มวลมนุษย์ถูกฆ่าน่าสงสาร
เหตุด้วยต่างคนต่างอุดมการณ์
จึ่งต้องผลาญย่อยยับลงกับมือ
ตรองดูเถิดพี่น้องอย่ามองผ่าน
บรรพกาลของเราเฝ้ายึดถือ
ชาติ ศาสน์ กษัตริย์... ต้อง เลื่องลือ
ยึดมั่นมือป้องปัดปัถวิน
มาบัดนี้ลูกหลานต่างราญล่า
อนิจจาเมืองไทยใกล้สูญสิ้น
น้ำตาไทยไหลท้นล้นแผ่นดิน
ทุกชีวินขาดใจหากไร้เวียง
จงหยุดเถิดหยุดสร้างหนทางแยก
อย่าให้เมืองไทยแตกเป็นเสี่ยงเสี่ยง
ก่อนที่ไทยจะไร้ซึ่งสำเนียง
เหลือไว้เพียงตำนานเล่าขานกัน