23 มิถุนายน 2553 19:25 น.
นรศิริ
กรองกลอนกานท์กราบกรานกวีแก้ว
เกียรติก้องไกลไปแล้วทุกแถวถิ่น
สุนทรภู่ครูกวีศร๊แผ่นดิน
เอกกวินโลกาสาธุการ
นิราศทั้งเก้าเรื่องอันเรืองหล้า
เก้ามณีคุณค่ามหาศาล
เอกลักษณ์อักษรกลอนนิทาน
เป็นแบบบทจดจารกลอนแปดไทย
"ต้อยตะริดติ๊ดตี่เจ้าพี่เอ่ย
จะละเลยเร่ร่อนไปนอนไหน"
เอกวรรคทองอมตะพระอภัยฯ
มิเคยจรจากใจจึงจำนรรจ์
ขีดเขียนคำค้นคำเค้นคุณค่า
ต่อลมปราณงานภาษาพิสุทธิ์สรรค์
จึงดอกแก้วการเวกเอกวงวรรณ
บานอยู่เต็มสรวงสวรรค์ชั้นกวี
21 พฤษภาคม 2553 12:46 น.
นรศิริ
ธรณินร่ำไห้
เลือดไหลท่วมหล้า
สมุทรน้ำตา
ประชาเนืองนอง
ใครรับผิดชอบ
ใช้กรอบใดป้อง
มวลชนทั้งผอง
ดั่งเศษธุลี
กระสุน - มือเปล่า
ใยเขาถูกบี้
อาวุธไม่มี
การนี้เพื่อใคร
โหดร้ายทารุณ
กระสุนสาดใส่
คงไร้หัวใจ
คงไม่ใช่คน
ส่ำสัตว์สามานย์
สังหารท่วมท้น
ใยเทพเบื้องบน
จึงทนดูดาย
ธรณินร่ำไห้
ต้นไม้เฉาตาย
สรรพสิ่งทั้งหลาย
คร่ำครวญอาดูรฃ
เมืองไทยวันนี้
เห็นทีเสื่อมสูญ
ด้วยยิ่งเพิ่มพูน
ชั่วช้าเลวทราม
12 พฤษภาคม 2553 14:58 น.
นรศิริ
หวนกลับมาอีกหนคนคิดถึง
คนผู้ซึ่งห่วงใยในเพื่อนผอง
สุขสบายหรือไรไทเพื่อนพ้อง
ยังปรองดองหรือแตกแยกใจกัน
คนใจซื่อชื่อนรสิริมิเลือนห่าง
ใช่เมินหมางหากใจยังใฝ่ฝัน
ยังแน่นเหนียวเกลียวใจสายสัมพันธ์
ยังคิดถึงทุกวันพี่น้องเรา
นำความรักมาฝากจากใจนี้
พร้อมกับความหวังดีมาสู่เจ้า
ขอชื่นสุขทุกข์ร้างห่างบ้านเฮา
หลั่งไหลเข้าโภคทรัพย์นับอนันต์
ถึงตัวไกลหากใจยังห่วงหา
พบเพียงอักษราพาใจฝัน
จะขอรักมิตรบ้านกลอนชั่วนิรันดร์
จะขอคิดถึงกันนิรันดร์กาล
แม่นเจ้าสุขีหมั่นเสมอมันเครือเก่าบ่อน้อ
พากันสุขอยู่ล้วนกระบวนเจ้าสู่คนบ่อเด้
3 เมษายน 2553 20:00 น.
นรศิริ
ลาก่อน
อยากให้เธอคิดได้ในวันนี้
ขอคนดีหยุดยั้งทางเสื่อมสูญ
อยากเห็นเธอเลอเลิศเจิดจรูญ
หยุดเพิ่มพูนความชั่วตัวทำลาย
เธออาจเสพสุขสมเพียงลมผ่าน
และแล้วก็ร้าวรานรักสลาย
สังคมจะประณามจวบวันวาย
ที่สุดท้ายเสื่อมพงศ์วงศ์สกุล
หวังให้เธอคิดได้ในวันนี้
สร้างความดีชีวีมิเสื่อมสูญ
เกียรติยศเกียรติศักดิ์จักเพิ่มพูน
สังคมจะเทิดทูนคุณความดี
สำหรับฉันผู้ที่มีแต่ให้
ยังห่วงใยท่วมท้นรักล้นปรี่
อยากเห็นเธอมีสุขทุกนาที
อยากให้เธอสุขีทุกวันวาร
ฉันอภัยให้เธอผู้เผลอผิด
ทั้งไม่ติดเรื่องเก่ามาเผาผลาญ
ที่แล้วมาคิดว่าให้เป็นทาน
จะไม่ขอพบพานทุกภพเอย..ลาก่อน
30 มีนาคม 2553 13:22 น.
นรศิริ
อยากจะข้ามฟากฝั่งดังหวังไว้
จึงสู้ศึกทางใจมิไหวหวั่น
แม้อริมีมากมากมาโรมรัน
ไม่เคยพรั่นสู้ไปด้วยใจทะนง
กับวันนี้ชีวีที่มีอยู่
ยืนหยัดสู้อวิชชาหาประสงค์
ไม่ลดละปฏิบัติขจัดลง
เพื่อปลดปลงปล่อยวางทางอธรรม
ทาน ศีล ภาวนา พาให้สุข
ขจัดทุกข์ผูกมัดรัดแน่นหนำ
เป็นทางทองดับไฟใจประจำ
ฉ่ำเย็นสุขเลิศล้ำมีธรรมครอง
สรรพพังอนิจจังนั้นเที่ยงแท้
ความผันแปรส่งให้ใจเศร้าหมอง
มีเกิดแก่แตกดับกับครรลอง
ทุกผู้ต้องได้รับชั่วกัปกัลป์
หากสร้างภูมิคุ้มกันในวันนี้
รักษาจิตให้ดีมิโศกศัลย์
ดูนอกในของเราเพียงเท่านั้น
เป็นประตูปิดกั้นหนทางกรรม
วันนี้วันพระนะคะขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕