23 กรกฎาคม 2551 03:42 น.
นรศิริ
ไตรมาสจริยวัตร
จวบไตรมาศปฏิบัติวัตรข้นเข้ม
เพื่อเติมเต็มมิขาดขัดจรัสศรี
ให้ผ่องแผ้วแววใสในฤดี
มิให้มีมัวหมองข้องกมล
ทุกค่ำเช้าเฝ้ารักษ์จิตพิชิตชั่ว
ที่เมามัวหลงผิดคิดสับสน
ทั้งหม่นหมองครองใจให้ทุกข์ทน
ฤดีดลดื่มด่ำธรรมคุณ
ในคราใจบริสุทธิ์ผุดผ่องแผ้ว
เนื่องเน้นแนวศีลธรรมมานำหนุน
พรหมวิหารภาวนามาเจือจุน
ไตรรัตน์คุณอนันต์สร้างปัญญา
เกิดปัญญาอวิชชาย่อมเหือดหาย
โลกวุ่นวายในกิเลสเหตุตัณหา
รู้ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา
รู้คุณค่าดีชั่วรู้ตัวตน
รู้ปล่อยวางละเว้นเวรสาปส่ง
รู้จักปลง เหนี่ยวใจในเหตุผล
รู้ผิดชอบชั่วดีที่เวียนวน
ไม่ต้องทนทุกข์ท้ออีกต่อไป
20 กรกฎาคม 2551 19:49 น.
นรศิริ
สายสัมพันธ์นิรันดร์กาล
คราพ้นอกมารดามายลโลก
หนูน้อยเริ่มวิโยคทั้งโศกศัลย์
ร้องไห้โฮกลัวปัญหาสารพัน
นิจจานั้นเด็กได้รู้ต้องสู้เอา
เริ่มรู้จักหายใจร้องไห้ขอ
ทั้งแม่พ่อคอยพะนอดูแลเขา
ลูกร้องหิวหรือเจ็บป่วยช่วยบรรเทา
ทุกค่ำเช้าเจ้าเนื้อเย็นเป็นโซ่ใจ
ครั้นลูกหลับขยับหาหุงอาหาร
กมลมานร้องลั่นใจสั่นไหว
ถลาปลิวลิ่วมาหาทรามวัย
ดวงฤทัยอกแม่เจียนแดดาย
มิยอมให้สรรพภัยกล้ำกรายลูก
เจ้าบุญปลูกป่วยไข้ดุจใจแม่สลาย
ยลสายโยงน้ำเกลือแทบวางวาย
ลูกทุรนทุรายใจแม่จะขาดรอน
ลูกนอนแบบแนบเตียงแม่เคียงข้าง
ไม่เคยห่างแรมไกลใจสุดถอน
ไม่เขยื้อนขยับลับจากจร
แม่นั่งเฝ้าขวัญอ่อนทุกวันวาร
เจ้าร้องจ้าพยาบาลมาเจาะเลือด
ดั่งถูกเชือดหัวใจไปประหาร
แม่กล้ำกลืนชลนาฝ่าดวงมาน
แสนร้าวรานสะท้านไหวที่ในทรวง
ลูกเจ็บหนึ่งแม่ปวดแสนแน่นในอก
น้ำตาตกรินไหลใจห่วงหวง
กราบขอพรพุทธคุณคุ้มภัยปวง
ให้ดวงใจแม่หายป่วยไข้พลัน
คราครั้งเจ้าเติบโตโอ้ลูกรัก
ยิ่งประจักษ์รักยิ่งทุกสิ่งสรรค์
แม่อบรมบ่มนิสัยให้ครบครัน
สิ่งที่ดีทั้งนั้นแม่มอบมา
เจ้านั้นเป็นเช่นเคียวเกี่ยวชีวิต
รู้ชอบผิดชั่วดีที่เสาะหา
เป็นกุศลของแม่แล้วเจ้าแก้วตา
ไม่ให้แม่โศกาแม้คราเดียว
เจ้าล้ำค่าเกินใดหาไหนเทียบ
หาใดเปรียบไม่ได้แท้แม้ครึ่งเสี้ยว
เราผูกพันฝั้นแก่นแน่นเป็นเกลียว
มิเคยเลี้ยวลดใจไปจากกัน
เรากินนอนร่วมกันสรรค์ความสุข
คราใครทุกข์หม่นใจได้ปลอบขวัญ
ช่วยแก้ไขคราข้องขัดขจัดพลัน
ความผูกพันธ์แน่นเหนียวดุจเดียวกัน
18 กรกฎาคม 2551 03:07 น.
นรศิริ
พรเพื่อคุณ และปุจฉา
อีกเมื่อไรเล่าจะถึงซึ่งพรุ่งนี้
คำถามที่หัวใจเฝ้าไถ่ถาม
อีกนานไหมจะมีมาวันฟ้างาม
อาบน้ำตาต่างน้ำอีกเท่าไร
ฟ้ามืดมิดดั่งชีวิตที่มืดหม่น
ว่ายเวียนวน วนเวียนจะเปลี่ยนไหม
อีกกี่ช้ำฟ้าสีทองจึงผ่องไพ
หรือหาไม่สำหรับเราผู้เฝ้ารอ
กับชีวิตที่เรียบเรียบและง่ายง่าย
สะดวกดายกับการให้แม้ใครขอ
มอบเมตตาการุณย์อุ่นลออ
ไม่เคยพ้อแม้เหนื่อยแสนแม้ทำบุญ
ทนไม่ได้ที่จะเห็นใครเป็นทุกข์
อยากให้สรรพสัตว์สุขจึงเกื้อหนุน
ทุกส่ำสัตว์ใหญ่โตหรือเพียงจุล
ใจการุณย์แผ่บุญไปให้เหมือนกัน
จงสุขกายสุขใจไร้เศร้าโศก
วิปโยคจงร้างห่างไกลขวัญ
จงมีสุขทุกผู้อยู่นิรันดร์
จงพบพานสุขสันต์นิรันดร์กาล
16 กรกฎาคม 2551 10:06 น.
นรศิริ
มุมตรงข้ามที่ไม่เท่ากัน
เราเมตตากรุณาปรานีสัตว์
เขาขจัดไล่ล่าฆ่าข่มเหง
เราสวดมนต์ภาวนามาตามเพรง
เขานั้นเร่งอิเลคโทรนโกญจนา
เราสวดมนต์ก่อนนอนเฝ้าวอนไหว้
เขาว่าเราบ้าใบ้ในศาสนา
เราถือศีลอาจิณภาวนา
เขาว่าเรานั้นหนาบ้านั้นสิ้นดี
เราทำทานให้อาหารหมูเป็ดไก่
เขานั้นไซร้ไล่เข่นฆ่าน่าบัดสี
เราทำบุญกุศลทานบารมี
เขาบอกคอยดูสิมึงจะจน
เราพาลูกเขียนอ่านงานศึกษา
อีกกีฬาสารพัดหัดฝึกฝน
เขาระรัวอิเลคโทรนดังเหลือทน
ข้างบ้านบ่นหนวกหูอยู่ทุกวัน
เขาตำหนิติกล่าวลูกเช้าค่ำ
เป็นประจำเราพาเล่นเย็นสุขสันต์
สารพัดจัดทดลองอเนกอนันต์
เขาหัวเราะเย้ยหยันเดี๋ยวมันตาย
ครากินข้าวทุกคราวคำพร่ำบ่นลูก
ความพันผูกจึงลี้ทั้งหนีหาย
ถอนสะอื้นกลืนน้ำตาล้าใจกาย
โอ้ลูกชายสุดรักจักตรอมตรม
ทนอีกนิดนะลูกแก้วแววตาแม่
เพียงพ่ายแพ้โชคชะตาพาขื่นขม
คงไม่นานเกินไปที่จำใจระบม
สิ้นโศกตรมสักวันนั้นสุขใจ
15 กรกฎาคม 2551 04:16 น.
นรศิริ
ความเหมือนที่แตกต่าง
อรุณทองทาทาบฉาบขอบฟ้า
สกุณาขับขานกังวานใส
โชยบุปผารวยรื่นชื่นฤทัย
ปลุกชีวีที่หลับใหลจากนิทรา
หมู่ภมรร่อนไปในไพรกว้าง
ทั้งเก้งกวางฝูงชะนีหนีเลียงผา
เหตุเนื้อเย็นเหม็นเน่าเคล้ากายา
อีกหมีควายหมูป่าลาลับไกล
เสือกระทิงลิงค่างบ่างกระจ้อน
อุ้นตุ่นนอนในรูคู้หลับใหล
เหยี่ยวถลาจับกิ้งก่าพาบินไป
ภุชงค์ค่อยเคลื่อนไคล้ขึ้นจากรู
พังพอนกระโจนแผล็วจากแนวป่า
พุ่งถลาเข้าใส่เห่าไฟสู้
รณรงค์โรมรันพันตรู
พังพอนงูสู้กันจนบรรลัย
เปรียบมนุษย์ในเมืองผู้เรืองรุ่ง
ต่างก็มุ่งฆ่าเข่นเป็นนิสัย
ไม่เคยมีคุณธรรมค้ำจุนใจ
สันดานไซร้เลวกว่าป่าที่ฆ่ากัน
หมายเหตุ อุ้นหมายถึงสี่เท้าขนาดเล็กตัวเท่าหนูนาตัวโตๆลายขาวสลับดำบางตัวคล้ายหมูพันธ์ นิวแฮมเชียร์ ตัวโตเท่ากันกับตัวตุ่น คนอิสานเรียกอ้นตัว ส่วนไทยไต๋เรียกอุ้น ค่ะ อาศัยอยู่ในรูชอบขุดดินเป็นรอยบริเวณกว้าง