23 มีนาคม 2553 21:47 น.
นรศิริ
อยากจะเห็นทุกผู้นั้นอยู่สุข
ให้ทุกคนลืมทุกข์มีทั้งผอง
อีกอยากให้ทุกท่านมีธรรมครอง
พิภพต้องสงบสบร่มเย็น
อยากหลอมรวมทุกใจไว้ด้วยรัก
ทั่วถิ่นภักดีใจมีให้เห็น
ไม่อยากรับรู้ใครได้ลำเค็ญ
อยากจะเป็นสื่อรักปักทุกใจ
อย่าได้แบ่งชนชั้นกันเลยหนา
มีคุณค่าเท่ากันนั้นใช่ไหม
มีขันธ์ห้า ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ
รักกันไว้เถิดหนาอย่าฆ่ากัน
8 มีนาคม 2553 19:31 น.
นรศิริ
กับวันนี้ที่บอกว่ารักยิ่ง
หากพรุ่งนี้ฉันทิ้งไว้เพียงร่าง
รักจริงนะที่จะไม่จืดจาง
ศพที่วางตรงหน้าชืดชาเย็น
เธอบอกไม่ลาร้างหรือห่างหาย
รักมากมายทุกวันนั้นอยากเห็น
หากขาดฉันเธอต้องช้ำน้ำตากระเซ็น
ไม่ว่างเว้นคำหวานที่หว่านปรน
นอนแน่นิ่งเดียวดายไร้ผองเพื่อน
มีเพียงเดือนปลอบใจให้คลายหม่น
กายถูกหนอนมดแมลงกัดแทะจน
ไม่เหลือริ้วรอยคนให้ยลงาม
คิดถึงคนเคยบอกรักอยากไปหา
อยากรู้ว่ายังรักหรือจักขาม
คนที่อยากเคียงข้างทุกโมงยาม
อยากจะถามสักคำจำได้ฤา
3 มีนาคม 2553 13:56 น.
นรศิริ
มือของเธอแค่นี้แต่มีค่า
สร้างปัญญาลิขิตชีวิตใหม่
เธอมุ่งมั่นเธอกล้าหาญการก้าวไกล
ด้วยซึ้งในจรรยาคำว่าครู
คือดอกหญ้าป่าเหนือเอื้ออุทิศ
คือชีวิตอันอำนวยช่วยทุกผู้
คือบุคคลอันประเสริฐน่าเชิดชู
คือวิญญูนามจูหลิงมิ่งครูไทย
แม่พิมพ์นี้พิมพ์ชีวิตอุทิศมั่น
แม่พิมพ์นี้สร้างสรรค์โลกวันใหม่
ถึงวันนี้กาฬยุคทุกถิ่นไป
ยังอำไพโชนแสงแห่งศรัทธา
เธอคือครูผู้สร้างทางชีวิต
สร้างเพื่อศิษย์เพื่อชาติศาสนา
ไม่ใช่ครูเพียงครูที่มีปริญญา
ไม่ใช่ครูเพียงว่ามีผลงาน
เธอผู้ไม่ใฝ่ฝันเกียรติยศ
ทรหดฟันฝ่าอย่างกล้าหาญ
เธอคือครูผู้สั่งสมอุดมการณ์
จิตวิญญาณแห่งวิญญูผู้ปรานี
เธอจากเพียงร่างกายที่ตายจาก
ความดีหากปรากฏไว้ในทุกที่
หนึ่งครูจุ้ยตายไปในวันนี้
ขอจงเกิดครูดีอุดมการณ์
1 มีนาคม 2553 20:33 น.
นรศิริ
ทอรักถักสานสายใย ผลิดอกออกใบ
อยู่ในสังคมสมจินต์
เก็บเกี่ยวกอบกำจนสิ้น คืนสู่แผ่นดิน
เพื่อพัฒนาอาทร
มุ่งมั่นหมั่นเสริมสร้างสอน ชีวีดงดอน
ทัดเทียมคนเมืองเรืองรุ่ง
26 กุมภาพันธ์ 2553 22:01 น.
นรศิริ
คุณธรรมคู่คนดี เป็นศักดิ์เป็นศรี เชื้อวงศ์พงศ์เผ่า
เนาในแดนใด น้อมนำสุขให้ ถิ่นห่อนอัฐเฉา
ดังหนึ่งร่มเงา สรรพสัตว์แนบเนา ร่มเย็นยินดี
คุณธรรมน้อมนำให้ เบิกบานสราญใจ อิ่มเอมเปรมปรีดิ์
ไตรรัตน์คุ้มครอง ไตรภพยกย่อง การุณย์มากมี
พักพิงถิ่นที่ มากมายไพรี ผ่านพ้นภัยพาล