5 กุมภาพันธ์ 2548 18:45 น.
นกปีกหัก
จะคำว่า รัก หรือคำว่า เลิก
ถ้าการกระทำของเธอบ่งบอกชัดเจนขนาดนี้ ก็ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว
หากว่าวันใดแผ่นฟ้ากับผืนน้ำทะเลรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้เมื่อไร ฉันและเธอ ก็คงเป็นคนรู้ใจกันได้เมื่อนั้น
มีคนเคยบอกกับฉันอย่างนี้ คนนั้นของฉัน เค้ายังคงอยู่ และจะอยู่ตลอดไปในใจฉัน แม้ว่าในใจเขาจะไม่มีฉัน
อยู่เลยก็ตาม เขาอาจจะลืมเรื่องราวที่ดีๆ ของเรา เขาอาจจะลืมเรื่องเก่าๆ ของกันและกัน เขาอาจจะยังไม่รู้เลยว่า
ฉันชอบเขามากแค่ไหน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา การกระทำของเขานั้นมันบ่งบอกออกมาแตกต่างจากความรู้สึกของเขา มาก
เธอ ที่ผ่านมา เราไม่เคยคิดอะไรกับเธอ อย่างกับที่เธอคิดกับเรานะ เธอก็รู้ว่าเรามีแฟนอยู่แล้ว
แต่เธอก็ยังมาวุ่นวายกับชีวิตเรา มาคอยตามตื๊อ มาคอยถามนู้น ถามนี่ มายุ่งกับชีวิตเราไปซะทุกเรื่อง ต่อไปนี้เธอ
เลิกยุ่งกับเราสักทีเถอะ เรารำคาญ
น้ำใสๆ ไหลรินอยู่ข้างแก้ม
หน้าของเธอไม่ยิ้มแย้มดูหวั่นไหว
ใจของฉันสั่นสะท้านไกลแสนไกล
ใจของเธอเป็นอย่างไรไม่รู้เลย
วันเวลาเริ่มเปลี่ยน แต่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็สี่ปีเต็มพอดี และวันนี้เธอก็กลับเข้ามาในชีวิต
ของฉันอีกครั้ง พร้อมกับความกลัว ความกลัวที่ก่อกำเนิดขึ้นในหัวใจของฉันเอง
อย่าทำแบบนี้ จบแค่นี้เลย
มาเอ่ยว่ารัก กันตอนนี้ทำไม
ลืมแล้ว ไม่อยากสับสนในใจ
เจ็บตอนเธอไป ไม่เท่าตอนเธอกลับมา
นี่ยัยรินทร์ พรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงรุ่น ที่โรงเรียนอ่ะ เธอไปเป็นเพื่อนฉัน หน่อยได้มั๊ย ฉันอยากจะเจอ
เพื่อน เก่าของฉันจนใจจะขาดแล้ว อืมได้ข่าวว่า ฟ่าง มีแฟนใหม่แล้วนิ่ เป็นหลีดใช่มั้ย รู้สึกจะเป็นหลีดจุฬาฯ นะ
น่าสงสารน้องเค้าเนอะเธอ เออเธอเคยชอบ ฟ่างไม่ใช่หรอ เห็นวันวาเลนไทน์ตอน ม.6 เธอซื้อ อ๋อ ดินสอไม้
ที่หัวดินสอเป็นตุ๊กตารูปหมาใช่มั๊ย ถ้าฉันจำไม่ผิด เอ่อ เกือบลืม ตกลงพรุ่งนี้ เธอว่างรึเปล่าอ่ะ
ดาวรุณี เพื่อนสาวที่สนิทที่สุดของฉันโทรมาชวนฉันไปงาน เลี้ยงรุ่น บ้าบอคอแตกนั่น ฉันไม่อยากไป ไม่อยากไปจริงๆ
ฉันไม่ได้ไปงานบ้าบอ นี้ตั้งแต่ จบม.6 นี่มันก็ 4 ปีแล้วสินะ เธอไม่รู้หรอก ยัยดาว ว่าฉันรู้สึกอย่างไร
ไม่ไปไม่ได้หรอ เธอ
นี่ฉันอุตส่าห์ชวนเธอไปงานนี้นะ เห็นว่าเธอไปอยู่เมืองนอกเมืองนาตั้งหลายปี คงจะคิดถึงเพื่อนเก่าๆ
บ้างหล่ะ หรือว่าเธอไม่คิดถึงใครนอกจากฉัน นะ
เธอไม่รู้หรอกว่าที่ฉันไม่เรียนต่อเมืองนอกก็เพราะ ใครบางคน ใครบางคนที่ทำให้ฉันเสียใจ
อ้าว แต่ว่า
ไม่มีต่ง มีแต่อะไรทั้งนั้น เธอต้องไปกับ ฉัน หรือที่เธอไม่อยากไปจะเป็นเพราะ
เพราะอะไร เธอพูดให้มันดีๆ นะ
เพราะอาจารย์สุที ใช่มั๊ยหล่ะ ที่เค้าเคยมาจีบเธอไง จำไม่ได้หรอ
ไม่ใช่เรื่องนั้น
อ้าวแล้วเรื่องอะไรหล่ะ
อ๋อเปล่าไม่มีอะไรหรอก
ฉันรู้หรอกว่าเป็นเพราะใคร เพราะ ฟ่างใช่มั๊ย นี่มันก็ตั้ง 4 ปี แล้วนะเธอ มัวแต่คิดเรื่องบ้าบอไร้สาระอยู่ได้
มันอาจจะเป็นเรื่องบ้าบอไร้สาระของเธอ แต่เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับฉันแล้วกัน ถ้าเธอเห็นเรื่องของฉันเป็น
เรื่องไร้สาระเธอก็ไปชวนคนอื่น ไป
โถ่ ฉันรู้หรอกนะรินทร์ว่าเรื่องนี้ มันทำร้ายจิตใจเธอมากขนาดไหน ถ้าเธอไม่ทำใจยอมรับมัน เธอจะต้องหนีมันไป
ตลอดใช่มั๊ย เธอก็รู้แล้วไม่ใช่หรอว่า ฟ่างเค้าคิดกับเธออย่างไร เพื่อนไงเธอ แค่เพื่อนเท่านั้น เมื่อเค้าอยากคบเราแค่ในฐานะเพื่อน
เธอก็ควรทำในสิ่งที่เค้าต้องการไม่ใช่หรอ เธอลองคิดดูสิ ว่าตอนเธอกำลังจะขึ้นเครื่องเค้ายังไม่มาส่งเธอเลย เธอคิดว่าเค้ารักเธอมั๊ยล่ะ
เอาอย่างนี้มั๊ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ เธอรอฉันอยู่ที่ห้องเดี๋ยวฉันไปรับเธอตอน 3 โมงเย็น
เธอจะบ้าหรือไง ยัยดาว งานเลี้ยงมันเริ่มตอนทุ่มนึงไม่ใช่หรอ
อ้าวงั้นแสดงว่าเธอก็ได้รับบัตรเชิญ จากโรงเรียนล่ะสิ
อืม แล้วไงอ่ะ
ไม่มีไรหรอกจ๊ะ อดีตแฟนฟ่าง โฮะๆๆ
อือ บาย เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน
จ้า บายนะจ๊ะ
..
ฟ่าง วาเลนไทน์นี่เธออยากได้อะไรหรอ
ไม่หรอก เราไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นแหละ
เอาตัวเรามั๊ย ไม่ต้องใส่กล่อง แต่เดี๋ยวผูกโบว์ให้
เหอๆ ยิ่งเธอ เอาไปไกลๆ เลย
ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับฉัน แต่เธอช่วยโกหกฉันได้ไหม
ช่วยโกหกว่าเธอรักฉัน ว่าเราเป็นแฟนกัน สักวันนึงจะได้ไหม
มันอาจจะเป็นแค่คำวิงวอนอันไร้ค่า ของคนที่คิดหาทางหนีปัญหาทุกๆ อย่าง อย่างฉัน
..
รินทร์ เรามีอะไรจะบอกเธอด้วยหล่ะ
มีอะไรหรอ ฟ่าง รู้มั๊ยว่ารินทร์อยากรู้มากเลย อยากรู้ทุกอย่างที่ฟ่างพูดนั่นแหละ
เหอะ จริงอ่ะ งั้นไม่มีแล้วก็ได้
โถ่ ล้อเล่นนะ
อืม รินทร์ เราเป็นแฟนกันนะ
อะไรนะฟ่าง เดี๋ยวฉันไปเอาที่อัดเสียงมาก่อน
จะไปเอามาทำไมล่ะ
ก็จะเอาไว้อัดที่ฟ่างพูดไง
ตามใจ คือที่เราจะบอกรินทร์ก็คือว่า เราเป็นแฟนกัน แล้วนะ กันที่อยู่ห้องข้างๆ นี่แหละ
อยู่ดีๆ ก็อยากร้องไห้ น้ำใสๆ มันรินออกมา
รินทร์ เป็นอะไรอ่ะ ดูสิ ร้องไห้ด้วย
อ๋อ เปล่าหรอก พอดี คอนแทคเลนส์ ที่ใส่อยู่มันแห้งอ่ะ
หรอ เป็นอะไรรึเปล่า ไปห้องพยาบาลมั๊ย เดี๋ยวเราพาไปเอง
ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวหยอดน้ำตาเทียมลงไป ก็หายเคืองตาแล้วล่ะ
แต่เธอไม่รู้หรอกว่า ตอนนี้ น้ำตาเทียมไม่ได้มีความหมายอะไรอีกแล้ว
ก็ในเมื่อน้ำตาของฉันมันแทบจะทะลักออกมาอยู่แล้วนิ่
ที่ผ่านมาเธอเคยรู้อะไรบ้างไหม เธอเคยรู้บ้างไหมว่าคนข้างๆ เธอ คนนี้คิดอย่างไรกับเธอ เธอจะรู้มั๊ยว่า
ดอกไม้ในทุกๆ เช้า ดินสอในทุกๆครั้งที่มีการสอบ ปากกาในทุกครั้งที่อาจารย์เรียนเก็บงานส่ง จนกระทั่ง เปลือกลูกอมที่ฉันเคย
แอบไปทิ้งไว้บนโต๊ะเธอ เธอเคยคลี่มันอ่านดูบ้างไหมล่ะ มันเขียนไว้ว่าอะไรบ้าง มันบอกว่ามีคนๆหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลกำลัง
คิดถึงอยู่ คงคงไม่ได้เปิดอ่านหรอก เธอไม่รู้หรอกว่าทุกครั้งที่เธอพูด ฉันจำเสียงเธอได้มั่นยำแค่ไหน เป็นเพราะอะไรนั่นหรอ
ก็เป็นเพราะว่า เสียงของเธอไม่เพียงแต่ดังก้องอยู่ในหัวสมองของฉัน แต่เสียงของเธอมันยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจฉันอีกด้วย
ทุกครั้งที่เธอพูดฉันแทบจะหันกลับไปมองเลยว่าเธอพูดกับใคร แต่ถึงเห็นอะไรไป ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่า ฉันกับเธอ ยืนอยู่บน
คำๆเดียวกัน นั่นก็คือ คำว่าเพื่อน ทำไมหล่ะ แค่เธอเปลี่ยนคำว่าเพื่อน มาเป็น คำว่าแฟนมายากมาเลยใช่มั๊ย
..
ยัยรินทร์ เปิดประตูห้องเธอเดี๋ยวนี้นะ
ยัยรินทร์ เธอเป็นอะไรรึเปล่า เธอได้ยินฉันมั๊ย
กริ้ก
รินทร์เธอเป็นอะไรอ่ะ ทำไมตาปวมเป่งขนาดนี้ เมื่อคืนร้องไห้ทั้งคืนใช่มั๊ย
เปล่านะ เปล่าฉันไม่ได้
พอ หยุด เธอ ฉันเป็นเพื่อนกับเธอมา 10 ปีแล้วนะ ฉันรู้ว่าเธอเป็นยังไง พอแล้ว หยุดร้องไห้ แล้วไปแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวไม่ทันนะ
อืม แต่นี่เพิ่งจะ ห้าโมงเองนะ เธอจะรีบไปช่วยเค้า ตั้งโต๊ะหรือไง
เอ่อลืมไป แต่ฉันบอกให้ไปอาบน้ำก็ไปได้แล้ว
อืม
..
กัน เย็นนี้กลับบ้านด้วยคนนะครับ
กันเป็นอะไรหรอ ไม่สบายรึเปล่าดูซึมๆ ผิดปรกติ
นี่พรุ่งนี้ วันวาเลนไทน์แล้วนะ กันอยากได้อะไรล่ะ เดี่ยวฟ่าง ซื้อให้
กัน ฟ่างมีอะไรจะบอก ฟ่างรักกันนะ
ภาพของเธอกับเค้า ค่อยๆ สลับทีละฉากๆ เข้ามาในหัวของฉัน ทำไม ทำไม ทำไม บัดนี้ฉันมีเพียงคำถามนี้คำถามเดียว ที่เข้ามาในหัวของฉันพร้อมกับ ภาพต่างๆ ทำไมล่ะ นังนั่นมันดีกว่าฉันใช่มั๊ย ทำไมล่ะ ฉันมันไม่ดีตรงไหน ทำไมฉันไม่ใช่สเป๊กเธอหรือไง แล้วทำไมเธอต้องคอยแอบมองฉันด้วย ทำไมเธอต้องงอนฉัน ทำไม ทำไม ทำไม
ฟ่าง นิ้วฟ่าง ไปโดนอะไรมาอ่ะ ทำไมต้องพันแผลซะขนาดนั้นด้วย
อ๋อ ก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นกันเค้าทำแผลให้แล้ว ก็เลยปล่อย เลยตามเลย ทั้งที่แค่โดนคัตเตอร์บาด
ฟ่าง มานี่เร็วเดี่ยวเราเช็ดแผลให้น้าาา
ไปเร็วสิ แฟนมาเรียกแล้วล่ะ เร็วสิ
แต่เราคุยกับ รินทร์อยู่นะ
เอาเถอะ ไปหาแฟนก่อนไป เดี๋ยว กันงอนเราไม่ช่วยง้อนะ
..
เป็นอะไรของเธอยัยรินทร์ มองซะอย่างกับไม่เคยเห็นโรงเรียนนี้มาก่อนอย่างงั้นแหละ
เอ่อดาวที่เธอบอกว่า ฟ่างเค้ามีแฟนเป็นหลีด จุฬาอ่ะ จริงหรอ
เอ่อ ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแหละ อือแต่ถ้าเธอเจอฟ่างแล้วล่ะก็อย่าใจอ่อน หล่ะ เธอจำตอนที่เค้าทำกับเธอได้รึเปล่า เค้า บอกเธอพร้อมกับทุกๆ คนในโรงอาหารว่ายังไง
พอแล้ว ฉันไม่อยากให้มาสคาราส์เปื้อนตาฉันนะ
โอเค พอแล้วก็พอแล้ว
เค้าพูดอะไรกับฉันนั่นหรอ เค้าบอกกับฉันว่า
เธอ ที่ผ่านมา เราไม่เคยคิดอะไรกับเธอ อย่างกับที่เธอคิดกับเรานะ เธอก็รู้ว่าเรามีแฟนอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังมาวุ่นวายกับชีวิตเรา มาคอยตามตื้อ มาคอยถามนู้น ถามนี่ มายุ่งกับชีวิตเราไปซะทุกเรื่อง ต่อไปนี้เธอเลิกยุ่งกับเราสักทีเถอะ เรารำคาญ
ฉันก็แอบคิดอยู่ในใจของฉันว่า
เธอรำคาญแล้วเธอเข้ามาคุยกับฉันก่อนทำไม ไอที่ เราถามเธอก็เพราะว่าเราเป็นห่วงเธอ เป็นห่วงในฐานะ เพื่อน คนนึงเท่านั้นเอง ใช่สิเรามันก็คงเป็นได้แค่เพียงเพื่อน เพื่อนเท่านั้น
..
รินทร์ หวัดดี จำเราได้รึเปล่า
หวัดดีจ๊ะ เอ่อ จำไม่ได้จริงๆ อ่ะ
โจ้ไง โจ้ที่นั่งข้างๆ นุ้ยอ่ะ
อ๋อ โจ้นั่นเองนึกว่าใคร แหมไอที่เราจำไม่ได้เนี่ยไม่ใช่เป็นเพราะเราแก่ขึ้นหรอกนะ แต่เป็นเพราะ โจ้อ่ะ หล่อขึ้นจนเราแทบจำไม่ได้แหนะ อือ แล้วมากับใครอ่ะ
มาคนเดียว แล้วรินทร์ล่ะ มากับยัยดาวแน่เลย อือ ได้ข่าวว่ารินทร์ไปเรียนต่อต่างประเทศมาเป็นยังไงบ้างหรอ
ก็ดีนะ สนุกดีแต่เหงาไปนิดนึงอ่ะ ตอนไปเรากะจะลากยัยดาวไปอยู่แล้ว แต่ยัยดาวดันเอนท์ติด เราเลยต้องไปเรียนคนเดียวเลย
นี่ไม่ได้เจอรินทร์ตั้ง 4 ปีสวยขึ้นเยอะเชียวนะ
อันนี้ก็แน่นอนอยู่แล้วล่ะนะ
อ้าวโจ้หวัดดี
หวัดดีครับ เจ๊ดาว
แหมเรียกฉันซะ ฉันไม่ได้ออกมาจากที่เดียวกับแกนะ แกถึงได้มาเรียกฉันว่าเจ๊อ่ะ
โทษทีครับเจ๊ เออว่าแต่ว่าปากยังเหมือนเดิมเลยนะ
อ้าวฟ่างหวัดดี มาคนเดียวหรอ
อืม มาคนเดียว เอ่อ.. รินทร์เรามีเรื่องจะคุยด้วยอ่ะ
อะไรหรอ ว่ามาสิ
คือ .. มานี่แปปนึงได้มั๊ย
ดาว กับโจ้ เธอคุยกันไปก่อนนะ
อืม เร็วๆ หน่อยนะย่ะยัยรินทร์ อุ๊ยโจ้ นั่นไงยัยนุ้ย หัวยังฟูเหมือนเดิมเลยอ่ะ เอิ้กๆๆ
..
อืม สวัสดีนะ มีอะไรหรอ ถึงลากเรามาคุยซะไกลผู้ไกลคนขนาดนี้
ก็ไม่มีอะไรหรอกแค่อยากอยู่ใกล้ๆ กับรินทร์ สองคนแค่นั้นเอง
อย่ามาพูดอะไรแบบนี้ได้มั๊ย
ทำไมล่ะ ทำไมฟ่างจะพูดไม่ได้
ก็เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันน่ะสิ อย่าทำแบบนี้อีกนะ เดี๋ยวแฟนฟ่างรู้เข้า แฟนฟ่างจะเสียใจ
แล้วถ้าเราทำให้เราเป็นอะไรกันล่ะ เราจะทำแบบนี้อีกได้มั๊ย รินทร์
พูดอะไรอีกล่ะ รินทร์บอกว่า
ผัวะ
อย่าทำแบบนี้อีกนะ
ทำไมล่ะ ทำไม รินทร์ไม่รักฟ่างแล้วหรอ
อย่ามาพูดคำๆ นี้อีก
แต่ฟ่างรักรินทร์นะ ฟ่างโทรไปหารินทร์ กี่ทีๆ ที่บ้านรินทร์ก็บอกว่ารินทร์ยังไม่กลับมา โทรเข้ามือถือ
ก็ฝากข้อความ รินทร์เคยฟังมันบ้างมั๊ย ฟ่างตามหารินทร์มาตลอด 4 ปีเลยนะ ให้โอกาสฟ่างอีกสักครั้งจะได้มั๊ย ฟ่างขอโทษ
ฟ่างรู้ว่าตัวเองผิด รินทร์จะให้ฟ่างทำยังไงฟ่างก็ยอมขอแค่ให้รินทร์ กลับมาเป็นรินทร์คนเดิมก็พอแล้ว
ฟ่าง เราเคยรักเธอ เราเคยรักเธอมากๆ เธอก็รู้มาตลอดว่าเรารักเธอ เธออยากรู้มั๊ยล่ะว่าทำไมฉันถึงไป
เรียนต่อต่างประเทศ เพราะว่า ฉันไม่อยากเจอเธอไง แล้วก็รู้ไว้ซะด้วยว่า ฉันเกลียดเธอ
ทำไมล่ะรินทร์ ทำไม ฟ่างทำอะไรผิดหรอ รินทร์ ฟ่างไม่ได้ตั้งใจ ฟ่างขอโทษ ขอโอกาสให้ฟ่างได้แก้ไขตัวเอง
อีกสักครั้งนะรินทร์ ฟ่างสัญญาไว้เลยว่า ฟ่างจะไม่ทำให้รินทร์ เสียใจอีก
ฟ่างรักรินทร์นะ ได้ยินมั๊ยว่าฟ่างรักรินทร์
ฟ่าง รินทร์อยากจะบอกกับฟ่างว่า มันสายไปแล้วล่ะ ฟ่าง มันสายไปแล้ว สำหรับคำว่ารัก
ทำไมล่ะ รินทร์ ทำไม
ก็เพราะว่า ฟ่างไม่เคยคิดอะไรกับรินทร์ไง ก็อย่างที่ฟ่างบอกรินทร์นั่นแหละ รินทร์เข้าใจ เข้าใจมาตลอด
ว่าเราวุ่นวาย จุ้นจ้าน คอยถามนู่น ถามนี่ ทำให้ฟ่างรำคาญ รินทร์ขอโทษล่ะกัน ในเมื่อวันนั้นฟ่างอยากให้รินทร์เลิกยุ่งกับฟ่าง
รินทร์ก็จะเลิกยุ่ง พอกันที จบไปซะกับไอ้ความรักบ้าๆ อืม ฟ่าง รินทร์มีอย่างนึงที่จะให้กับฟ่าง แล้วก็ขอให้รินทร์พูดอะไรหน่อยได้มั๊ย
เป็นครั้งสุดท้าย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา รินทร์รักฟ่าง รินทร์รักฟ่างมากที่สุด และตั้งแต่วันนั้นมา วันปัจฉิมนิเทศน์ วันที่เราเจอกัน
เป็นวันสุดท้าย ฟ่างเคยคิดบ้างไหม เคยคิดบ้างรึเปล่าว่ายังมีอีกคนที่รักฟ่างรออยู่ตรงนี้ แค่คำว่า ลาก่อน แค่นี้ฟ่างยังไม่บอกกับรินทร์
เลย
..
To >> ฟ่าง >นาย การุณย์ บุญผกา>รู้มั๊ยตอนนั้น รินทร์ คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรซวยกว่านี้อีกแล้วนะ
27 สิงหาคม 2547 17:45 น.
นกปีกหัก
ฉันตื่นมาด้วยอาการสลืมสลือ หันซ้ายก็เห็นว่าเซนะยังหลับอยู่ แลขวา ไม่มีอะไร พอตาสว่างก็ลุกขึ้นจากเตียงเก็บที่นอน แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำล้างหน้าแต่งตัว เมื่อเสร็จเรียบร้อยมองดูนาฬิกา ก็ปาเข้าไป เที่ยงกว่าแล้ว ว่าจะเดินออกไปหาอะไรกินข้างนอก ก็โดนเรียกไว้ก่อน
"รุณหวาด...." เซนะที่พึ่งตื่นกล่าวทักทายฉัน
"อืม..อรุณสวัสดิ์ เซนะคุง" ฉันกล่าวทักตอบ ด้วยน้ำเสียงลื่นหู เซนะลุกจากเตียงเข้าไปห้องน้ำ ก่อนจะโผล่หน้าออกมา บอกกับฉันว่า
"รอเดี๋ยว ฉันไปด้วย"
"อืม" ฉันตอบกลับไป ก่อนจะไปนั่งรอที่เตียงของตัวเอง สักพักเซนะก็แต่งตัวเสร็จออกมา แล้ว บอกว่า "ป่ะ หาไรลงท้องกันเดี๋ยวจะตายซะก่อน"
ฉันหัวเราะออกมาอย่างลืมตัวทำให้เซนะ แสดงสีหน้าอย่าง งงๆ ว่าพูดอะไรผิดรึ
"หัวเราะไร" เซนะถามห้วนๆ
ฉันมองหน้าของเขา ก่อนจะกล่าวขอโทษ จะบอกเหตุผลได้ไงว่า "มันดูน่ารักดี"
ร้านแฮมเบอเกอร์ ที่อยู่ข้างโรงเรียนเซนไดกิ จะบอกว่าข้างโรงเรียนคงไม่ได้มั้งเนี่ย ก็มันต้องเดินจากหอผ่านโรงเรียนแล้วลงเนินมา สัก 10 นาทีถึงจะถึง
ในร้าน ฉันกำลังนั่งกินเบอเกอร์หมูที่สั่งมากับแป๊ปซี่ เซนะเองก็เช่นกันแต่ของเขา มีเบอเกอร์ 2 อัน เฟรนฟายอีก 1 กล่อง แล้วก็แป๊ปซี่อีก 1 แก้ว (ก็ผู้ชายนี่นะ ก็ต้องกินเยอะเป็นธรรมดา) เซนะมองฉันแล้วถามว่า
"กินแค่นั้นจะอิ่มหรอ" ด้วยน้ำเสียงสงสัย
"อิ่ม" ฉันตอบ กินเยอะก็อ้วนดิ ฉันผู้หญิงนะยะ จะพูดก็ไม่กล้า
เมื่อกินกันอิ่มแล้วเซนะก็ขอตัวไปทำธุระ เราสองคนก็เลยแยกกันที่หน้าร้าน ฉันที่กำลังเดินกลับหอนั้นก็คิดไปตามทางว่า "ว่างจังๆ เซนะก็ไม่อยู่ แล้วจะไปไหนดีล่ะเนี่ย" ก่อนที่สายตาของฉันจะไปเจอกับ ยูตะ ที่เดินออกมาจากหอ ยูตะเองก็คงเห็นฉันแล้ว ถึงได้เผยรอยยิ้มที่ดูเหมือนยังโกรธเรื่องตอนนั้นอยู่ ก่อนจะทักฉันว่า
"ไง ว่างมั๊ย" ยูตะพูดขึ้นด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูน่าสงสัย
"ก็ว่าง นายจะถามไม" ฉันตอบกลับไปด้วยท่าที ที่ไม่ไว้ใจในคำถามของยูตะ
"งั้นก็ดี ตามฉันมาหน่อย ถ้ากล้าพออะนะ" ยูตะพูดก่อนจะเดินไปข้างหอแล้วหยุดยืนอยู่ เพื่อรอให้ฉันตามไป
ฉันที่สงสัยในท่าทางของยูตะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี จึงได้แต่ตามไป แล้วถามว่า "มีไร"
ยูตะยิ้มออกมาก่อนจะบอกกับฉันว่า
"เรื่องตอนนั้นที่นายเตะฉัน ฉันไม่เอาเรื่องหรอกนะ แต่ฉันอยากจะทำอะไรให้แน่ใจหน่อยว่า นายน่ะ ไม่ใช่โฮโมจริงๆ"
"ยังคิดว่าเราเป็นโฮโมอีก ไอนี่" ฉันนึกในใจ ก่อนจะถามออกไปตรงๆว่า "แล้วจะให้ทำยังไงนายถึงจะแน่ใจ"
"ขอคิดดูก่อน คืนนี้ถ้านายไม่ใช่โฮโมจริงๆต้องมาให้ได้ล่ะ ฉันจะรอนายอยู่ที่นี่" ยูตะบอกพร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นเล็กให้แล้วเดินจากไป ฉันมองดูในกระดาษแผ่นที่ยูตะยื่นให้ ก็เห็นมีตัวหนังสือเขียนไว้ว่า
ร้าน เหล้า บาจิระ เขต 2
เปิด 22.00 น. ปิด 2.00 น.
"ร้านเหล้า บาจิระ เขต 2 เอ....ชื่อร้านมันคุ้นๆนะเหมือนจะเคยได้ยินจากใครสักคนที่รู้จัก" ฉันพึมพัมออกมาหลังจากที่อ่านตัวหนังสือในแผ่นกระดาษจบ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในหอพัก
ที่ห้อง 306 ฉันที่มองดูเวลาว่าถึงเวลานัดรึยังก่อนจะเปิดประตูเดินออกจากห้องไป
"นายจะออกไปไหนน่ะ อากิระ" เซนะถาม
"เออ....ไปเดินเล่นหน่อย นายนอนไปเหอะ" ฉันตอบก่อนจะปิดประตู
หน้าร้านเหล้า บาจิระ เขต 2 ฉันซึ่งมาถึงแล้วก็ยืนอยู่หน้าร้าน พร้อมกับคิดในใจว่า
"จะเกิดอะไรขึ้น? จะเป็นไรมั๊ยหนอ? ชื่อร้านมันคุ้นๆนะ" ก่อนจะโดนใครคนหนึ่ง ตบไหล่เบาๆจากด้านหลัง พอหันไปก็ต้องตกใจ
"ค....คุณ....คุณ....เอ่อ.." ฉันพูดติดอ่างเพราะคนที่ตบไหล่ฉันก็คือ อาจารย์เรย์จิ นั่นเอง
"อากิระ เธอมาทำอะไรที่นี่?" อาจารย์ถามฉัน แต่ฉันไม่ตอบหรอก จะว่าไม่ตอบก็ไม่ได้ เอาเป็นว่า พูดไม่ออกละกัน อาจารย์เลยถามต่อว่า
"เธอ นัดกับใครไว้งั้นรึ?"
"กะแล้วว่าทำไมชื่อมันคุ้นๆ เคยได้ยินมาว่าอาจารย์ เรย์จิมาบ่อยๆนี่เอง ยูตะ ทำแสบนักนะ" ฉันพูดในใจ ก่อนจะตอบออกไปว่า
"จารย์ฮะ คือว่า ชั่งมันเถอะฮะ จะทำโทษไรก็เชิญเลยครับ"
อาจารย์เรย์จิทำสีหน้า งงๆ ก่อนจะบอกว่า "ชั่งเถอะ เด็กผู้ชายนี่นะ มันก็ต้องมีมั่ง ครูเองตอนอยู่ม.ปลาย ก็ทำบ่อย เอ่อ ตกลงจะเข้ารึป่าวล่ะ ว่าไง อากิระคุง"
ฉันมองหน้าอาจารย์ ก่อนจะตอบว่า "ไม่ล่ะฮะ ผมเปลี่ยนใจละ" ทำให้อาจารย์ทำสีหน้าไม่เข้าใจยิ่งกว่าเดิม
"งั้นก็ ราตรีสวสดิ์ อย่าให้โดน อาจารย์คนอื่นๆจับได้ล่ะ" อาจารย์เรย์จิบอกก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน ฉันที่กำลังหันหลังเพื่อที่จะกลับ หอ ก็เจอกับ เซนะ
"เซ..เซนะ นายมาทำไรที่นี่ หรือว่านายตามฉันมา" ฉันถามออกไป
"อืม ว่าแต่นายมาทำอะไรที่นี่น่ะ แล้วก็พอดีฉันเจอ ไอนี่ตกอยู่ในห้องน้ำน่ะ" เซนะบอกด้วยสีหน้าเรียบๆและยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ กระดาษที่ยื่นให้ก็คือ กระดาษแผ่นเดียวกันกับที่ ยูตะยื่นให้เมื่อตอนกลางวัน นั่นเอง ฉันมองหน้าเซนะก่อนจะบอกกลับไปว่า
"ก็มีอะไรนิดหน่อย"
"หรอ" เซนะพูอก่อนจะเดินกลับหอพร้อมกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น
ที่โรงเรียน เซนไดกิ ฉันซึ่งโมโหกับเรื่องเมื่อคืน ก็รีบไปหายูตะ ที่ห้อง 1/C ทันที พอไปถึง ก็ถามหา ยูตะ คนในห้องจึงบอกว่าคงจะอยู่ที่โรงยิม เพราะเห็นบอกว่าจะไปซ้อมบาสฯ
โรงยิม ตึ้ง..ตึ้ง..!!! เสียงของลูกบาสกระทบกับพื้นในโรงยิม ฉันที่เดินไปถึงก็โผล่หน้าเข้าไปดู ก็เจอกับ ยูตะที่กำลัง
เลี้ยงลูกบาสด้วยสีหน้าที่อารมณ์ดีสุดๆ ทำให้ฉันโมโหยิ่งกว่าเก่า เลยเดินเข้าไปภายในโรงยิม แล้วพูดกับ ยูตะว่า
"เฮ้ นายน่ะ เมื่อคืนทำฉันแสบนะ วันนี้ฉันขอเอาคืนมั่ง" ยูตะหันมามองแล้วพูดแบบไม่สนใจว่า
"น้ำหน้าอย่างนายจะทำอะไรฉันได้" โหยดูถูกมาก เห็นตัวเล็กแบบนี้ก็ชูตบาส 3 คะแนนได้นะ ขอบอกๆ
"งั้นเรามาแข่งกัน ด้วยบาสที่นาย ถนัดนั่นแหละ แข่งแบบ 1 on 1 ( 1 ต่อ 1 ) ใครชูตลงก่อนเป็นฝ่ายชนะ คนที่แพ้จะต้องยอมทำตามคนที่ชนะ ตกลงมั๊ย" ฉันบอกออกไปด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจสุดๆว่าชนะแน่
"โอ้...เอางั้นก็ได้ ถ้าฉันชนะนายจะต้อง ไปตะโกนบอกคนทั้งโรงเรียนว่า นายเป็นโฮโม นะ" ยูตะพูด
"แต่ถ้าฉันชนะ นายต้องไปโกนหัวให้โล้นไปเลยนะ" ฉันว่า ยูตะมองหน้าฉันก่อนจะบอกว่า
"เดี๋ยวก้รู้ว่า ใคร หมู่ ใคร จ่า "
ผ่านไป 5 นาที ฉันก็ชูตลูก 3 คะแนน ลงแป้นอย่างสวยงาม
"ก็ไม่เท่าไหร่นี่ อย่าลืมที่สัญญาไว้ด้วยล่ะ" ฉันบอกกับยูตะที่ทรุดลงไปกองกับพื้นพร้อมกับความผ่ายแพ้ อย่างสะใจ (ต้นฉบับของหญิงโหด ต้องดูนี่ ชนะผู้ชายได้โดยไม่มีเหงื่อออกสักหยดเดียว) ฉันที่เดินออกมาจากโรงยิมก็ยิ้มแก้มปริ เพราะแก้แค้นคืนได้สำเร็จ ก่อนจะเดินขึ้นชั้นเรียนไป
เช้าของวันต่อมา ยูตะก็ไปโกนหัวตามที่สัญญากับฉันไว้ ทำให้เพื่อนๆที่หอและที่โรงเรียนหัวเราะและล้อเขา กันยกใหญ่
เซนะที่สังเกตว่าฉันหัวเราะมากกว่าปกติ ก็ถามออกมาว่า "ฝีมือนายงั้นสิ"
ฉันหันไปมองเซนะแบบยิ้มๆว่า "ไม่รู้สิ" ทำให้เซนะ ทำหน้างงๆปนสงสัย
"เออจริงสิ อากิระ อาทิตย์นี้ว่างมั๊ย?" เซนะถามขึ้น
"ว่าง มีไร หรอ?" ฉันบอก
"จะให้นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย"
"ไปไหนล่ะ?" ฉันถามอย่างสงสัย
"ไปซื้อของขวัญวันเกิดให้น้องสาวน่ะ ฉันคิดว่านายคงรู้มากกว่าฉัน" เซนะบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"พูดงี๊ นายจะหาว่าฉันเหมือนผู้หญิงอะดิ" ฉันพูดออกไป
"ป่าวๆๆ แค่คิดว่านายคงจะรู้ดีกว่าฉันน่ะ" เซนะตอบ ฉันซึ่งเห็นสีหน้าของเซนะที่กำลังรอคำตอบของฉันอยู่ ก็ตอบออกไป
"ก็ได้" ก็ต้องรู้ดีอยู่แล้วล่ะ ก็ฉันผู้หญิงนิ แค่นายไม่รู้เท่านั้นเอง เฮ้อ......
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>จบตอน
26 สิงหาคม 2547 17:10 น.
นกปีกหัก
เช้าวันเสาร์
"เฮ้!! ตื่นได้แล้ว" เสียงหนึ่งปลุกฉันขณะที่ฉันกำลังนอนหลับฝันดี
"ขออีก 5 นาทีน่า อย่าปลุกหนูได้มั๊ยคะพ่อ" ฉันพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว
"หนู?....แกเป็นหญิงรึไงวะ อากิระ ใช้คำแทนตัวว่าหนู แล้วฉันก็ไม่ใช่พ่อนายนะ" เสียงที่ปลุกฉันพูดขึ้น
"!!!!!เฮ้ย..!!!" ฉันรีบลุกทันทีเพราะพึ่งคิดได้ว่าตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่บ้าน แต่อยู่หอพักชาย และนอนห้องเดียวกับผู้ชาย และตอนนี้ต้องเป็นชาย ฉันมองหน้า คนที่ปลุกฉันทันที ซึ่งคนที่ปลุกฉันก็คือเซนะ เพื่อนร่วมห้องของฉันนั่นเอง
"ไม่รีบตื่นจะไปเข้าชมรมสายนะ ฉันไปก่อนล่ะเจอกันที่ชมรม" พอพูดจบเซนะก็เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ฉันนั่งคิดว่า คนเดียว
"ความจะแตกรึป่าวหนอ" ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาแต่งตัวออกมา พอหันไปดูนาฬิกาก็ต้องตกใจ "กรรม!! จะสายแล้ว" ก่อนจะรีบเปิดประตูแล้วปิดอย่างรวดเร็ว เพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงเรียน โดยที่ไม่ได้แตะ ข้าวเช้าเลย (โรงเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น จะหยุดวันอาทิตย์วันเดียว โดยใช้วันเสาร์เป็นวันเข้าชมรม)
ที่สนามของโรงเรียน ชมรมกีฑา หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องของชมรมเสร็จก็มารวมตัวที่สนามของโรงเรียน
"เอาละ วันนี้จะจับเวลานะ พอเรียกชื่อก็ให้เตรียมเข้าลู่วิ่งเลย เข้าใจนะ เริ่มจาก 100 เมตรก่อนแล้วกัน" รุ่นพี่ประธานชมรมโทคิบอก เอ่อขอเรียกว่ารุ่นพี่โทคิละกันนะจะได้ไม่สับสน
รุ่นพี่โทคิ เรียกชื่อคนในชมรมทีละคนๆ จนมาถึงฉัน ฉันเข้าไปยืนในลู่พร้อมจะออกวิ่งทุกเมื่อ
"ไหน 14.2 วิ แสดงให้ดูหน่อยซิ" รุ่นมีโทคิพูดเสียงดังบอกกับฉัน
"เตรียมพร้อม ไป!!"
ฉันออกวิ่งทันทีเมื่อได้ยินเสียงสัญญาญ เมื่อวิ่งถึงจุดหมายก็เดินกลับมาฟังผล
"14.3 วิ อืมก็ใช้ได้นะ ถ้าให้ดี ให้อยู่ตัวสัก 12.3 วิ นะ" รุ่นพี่โทคิบอกกลับฉัน ต่อไปก็เป็น เซนะ คนสุดท้าย ผลออกมาไม่น่าเชื่อว่าอีตาเซนะคนนี้จะได้ "12.1 วิ เรียนก็เก่ง กีฬาก็เลิศ หน้าตาก็ดี เสียตรงนิสัยนี่สิ เฮ้อ......" ฉันคิดในใจแล้วถอนหายใจออกมา เซนะที่วิ่งเสร็จก็เดินมานั่งข้างฉันพร้อมกับส่งรอยยิ้มกวนประสาท
"เก่งนี่ นายน่ะ" ฉันพูดขึ้นขณะที่เซนะนั่งลงข้างฉัน เซนะหันมามองฉันด้วยสีหน้าแปลกใจ
"มองไม" ฉันถาม
"แปลกใจนิดหน่อย ที่นายพูดกลับฉันก่อน" เซนะว่า
"เหรอ แต่มันก็จริงของนายว่าแหละ จะว่าไปเวลาฉันคุยกับนายต้องอารมณ์เสียทุกที เลยคิดว่าไม่คุยจะดีกว่า" ฉันบอกไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่คำตอบที่ได้รับทำให้ฉันคิดว่า อีตานี่ ก็พูดดีกับเขาเป็น
"เหรอ งั้นก็โทษทีที่ทำให้นายอารมณ์เสีย แต่ฉันไม่รู้สึกตัวเลยนะ" เซนะพูดออกมาพร้อมกลับหันหน้าไปมองคนที่กำลังวิ่งอยู่
"ชั่งเถอะๆ ว่าแต่ว่านายเนี่ยเก่งจริงๆนะ" ฉันชม ทำให้เซนะเขิลๆเพราะฉันสังเกตว่าหูของเขา เปลี่ยนเป็นสีแดง
"จริงสิว่าแต่เมื่อ เช้าตอนฉันปลุกนาย น่ะ นายกำลังฝันว่าอะไรอยู่ ทำไมถึงใช้คำแทนตัวว่า หนู ยังกะผู้หญิงแน่ะ" เซนะถามฉัน แต่สายตาของเขายังมองไปที่คนกำลังวิ่งอยู่ ฉันซึ่งกำลังหาคำแก้ตัวอยู่ก็โดน รุ่นพี่โทคิเรียกให้ไปวิ่ง 400 เมตรดู เลยรอดตัวไป
"นายนี่ วิงช้ายังกะเต่า ออกตัวตอนแรกก็ดีอยู่หรอก พอผ่านไป 200 เมตร นายเริ่มวิ่งช้าลงเหมือนเดินเลยนะ" รุ่นพี่ โทคิบอกกับฉันที่กำลังนั่งหอบแฮกๆ
"ก็..ก็ผม....ก็ผมไม่ถนัดวิ่งระยะ....ไกลนี่ฮะ...รุ่นพี่ " ฉันตอบ พร้อมกับหายใจถี่เพราะเหนื่อยมาก
"เออนะ คงจะยังงั้น...เอ้าเซนะ ไหนนายมาลองมั่งซิ" รุ่นพี่บอกกับฉันก่อนจะหันหน้าไปเรียกเซนะที่กำลังนั่งอยู่ข้างสนาม
เที่ยงของวันเสาร์
ที่ห้องรวมของหอพักชาย หอสอง โรงเรียน เซนไดกิ พวกที่กลับมาจากชมรมและพวกที่กลับมาจากข้างนอก(พวกที่ไม่เข้าชมรม) ก็จะมานั่งพักกันที่ห้องรวมชั้นล่างของหอพัก
ฉันที่นั่งดืมน้ำส้มกระป๋องในห้องพักรวมบนโซฟาอยู่ก็โดนกวนโมโห จาก คนที่ชื่อยูตะ
"ไง.." ยูตะทักฉันแล้วนั่งลงที่โซฟาข้างๆ
"มีไรไม่ทราบ" ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบเท่าไหร่นัก
"ปล๊าววว....ก็แค่อยากจะถามนายหน่อยว่า"
"ว่าอะไร?" ฉันมองหน้าของเขา ยูตะทำหน้าตายก่อนจะถามกลับมาว่า
"นายเป็นโฮโมใช่มะ รูปร่างอย่างนายน่ะ ใช่ชัวร์"
ฉันฉุนกึกแต่ก็ยังเย็นไว้ ก่อนจะตอบออกไปว่า "ถ้าใช่นายจะทำไม" แล้วมองหน้าของยูตะอีกทีด้วยสายตาที่เย็นชาแล้วพูดอีกครั้งว่า
"หรือนายก็ใช่ ถึงได้รู้ว่าฉันเป็น"
ยูตะโมโห ลุกขึ้นแล้วปัดน้ำส้มกระป๋องของฉันที่อยู่ในมือ ฉันเองถึงจะเป็นผู้หญิงถ้าฟิวล์ขาดก็บู้ได้เหมือนกัน ฉันลุกขึ้นทันทีแล้วพูดว่า
"นายจะเอาไงกันแน่"
"เอาไงก็จะชกปากนายหน่อยน่ะสิ" ยูตะตอบพร้อมกับกำมัดแล้วจะต่อยฉัน แต่พอดี เซนะ กับ ทัตสึ มาห้ามไว้ซะก่อน
"ใจเย็นสิยูตะ" ทัตสึพูดกับยูตะขณะที่มือของเขา จับมือที่กำมัดแน่นของยู้ตะไว้
"เป็นไรรึป่าว" เซนะถามฉัน
"..........."ฉันไม่ตอบแต่เดินไปใกล้ยูตะ พร้อมกับใช้ขาอันเรียวงามของตัวเอง เตะเข้าหว่างขาของยูตะอย่างแรงก่อนจะพูดว่า
"ไอบ้า ไปตายซะ" แล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ทุกคนในห้องนั่งเล่นรวมถึงกับตลึงกันไปพักใหญ่ ส่วน ยูตะที่โดนฉันเตะก็ล้มลงใช้มือทั้งสองข้างของเขากุมเป้าตัวเองไว้ด้วยความเจ็บ
ฉันที่เดินออกมาก็เดินขึ้นไปยังห้องของตัวเอง โดยบ่นพึมพัมกับตัวเองตลอดทางว่า "ไม่มีอะไรจะน่าเบื่อเท่าวันนี้อีกแล้ว เจอแต่ผู้ชายเฮงซวย นี่ถ้าฉันไม่มาอยู่แบบนี้คงไม่รู้นิสัยที่แท้จริงของพวกผู้ชายหรอก....แต่จะว่าไปก็ไม่เลวร้ายไปซะหมดหรอก เฮ้อ..."
เมื่อมาถึงห้อง ยังไม่ทันจะเก้าห้องของตัวเองก็โดนเซนะเรียกซะก่อน บอกว่าจะพาไปที่ดีๆ แล้วก็ลากฉันออกไปข้างนอก
"เกมเซนเตอร์ นายพาฉันมานี่ทำไม" ฉันถามเซนะที่ลากฉันมา เซนะมองหน้าฉัน แล้วพูดแบบยิ้มๆว่า
"ก็พามาผ่อนคลายไง เอาน่า ฉันเลี้ยงเอง ไม่ต้องห่วง"
"นายรวยงั้นหรอ จะมาเลี้ยงฉันน่ะ แล้วนึกอะไรขึ้นมา?" ฉันถาม เซนะไม่ตอบคำถามฉันแต่หยิบเหรียญ 100 เยน จากกระเป๋าของเขาให้ฉันประมาณ 20 กว่าเหรียญได้ แล้วบอกว่า "เอาน่า" แล้วก็ลากฉันเข้าไปในเกมเซนเตอร์ ฉันที่กำลังอารมณ์เสียอยู่มาเจอแบบนี้ก็หายน่ะสิ
"แล้วเจ้านั่นเป็นไงมั่ง" ฉันถามเซนะ ขณะที่เล่นเกมยิงผีอยู่ เซนะเองก็เช่นกัน
"เจ้านั่นน่ะ เจ้าไหน?" เซนะถามกลับ พร้อมกับยิงผีตายไป 3 ตัว
"ก็เจ้า ยูตะนั่นไง" ฉันบอก
"ก็นะ โดนไปแบบนั้น คงจะเจ็บน่าดู" เซนะว่า แล้วก็ยิงผีตายไปอีกตัว ก่อนจะหันมายิ้มให้ฉันพร้อมกับพูดอีกว่า "นายแพ้แล้ว" เพราะฉันโดนผีกัดตาย
ฉันมองหน้าเซนะ แล้วก็หัวเราะออกมา
"นายนี่เหมือนเด็ก" ฉันพูด ทำให้เซนะยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะว่า "นายก็เด็กแหละ" แล้วหันไปยิงผีต่อ
ฉันซึ่งมองเซนะเล่นเกมอยู่ก็คิดกับตัวเองในใจว่า "ดูๆไป อีตานี่ก็เป็นคนดีกับเค้า มากกว่าที่คิดนะเนี่ย"
"เกมโอเวอร์" เสียงในเกมบอก เนื่องจากเซนะ โดนมี 4 ตัวรุมกัดตาย เพราะกระสุนหมด
"ว้าาา ..อีกนิดเดียวแท้ๆ" เซนะพึมพัม
ฉันที่กั้นหัวเราะก็พูดออกมาว่า "เอาน่า กลับกันเหอะ เดี๋ยวหอปิดแล้วจะซวยเอา" ฉันบอกออกไป
เซนะพูดอย่างเลี่ยงไม่ได้ด้วยน้ำเสียงอ่อยๆว่า "อืม งั้นก็กลับกันเหอะ"
ที่ห้อง 304 ชั้น3 ของหอสอง ยูตะกับทัตสึกำลังคุยกันถึงเรื่องของ อากิระ ว่า
"ไอเตี้ยนั่นมัน ทำแสบ" ยูตะพูดกับทัตสึ ที่กำลังอาบน้ำอยู่
"นายเป็นฝ่ายหาเรื่องเขาก่อนไม่ใช่รึไง ยังจะมาผูกใจเจ็บอีก" ทัตสึว่า
"ฉันไม่สนหรอก ยังไงฉันจะต้องหาทางแก้เผ็ดมันคืนให้ได้" ยูตะบอกก่อนจะล้มตัวลงนอน
ทัตสึที่อาบน้ำเสร็จแล้วออกมาก็พูดว่า "ระวังละกัน เกิดอะไรขึ้นฉันไม่รู้ด้วยนะโว๊ย"
"เออ!" ยูตะตอบ
ที่ห้อง 301 ชั้น3 ของหอสอง หัวหน้าหออามายะ กำลังคิดในใจว่า "เจ้าอากิระนั่น ก็ไม่เลว" อย่างอารมณ์ดี
ที่ห้อง 306 ชั้น3 ของหอสอง อากิระ กับ เซนะ ที่กลับมาจากเกมเซนเตอร์ ก็นอนหมดแรง อยู่บนเตียงของตัวเอง
พรุ้งนี้ อากิระ ของเรา จะต้องเจอกับการแก้เผ็ด ของ ยูตะยังไง โปรดติดตามตอน ต่อไป ได้
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
22 สิงหาคม 2547 14:35 น.
นกปีกหัก
ชั่วโมงโฮมรูม
"เอ้าๆเงียบกันหน่อยได้มั๊ย จะแจกแบบทดสอบคืนให้ คนที่ได้ต่ำกว่า 30 คะแนนเตรียมตัวไว้นะ" อาจารย์เรย์จิพูดขึ้นขณะที่เปิดประตูแล้วเดินเข้ามาในห้องเรียน เสียงที่ดังจ๊อกแจ๊กจอแจในห้องก็เริ่มเงียบลง ไม่ใช่ว่าเพราะอาจารย์บอกให้เงียบหรอกนะ ที่เงียบเพราะรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ของอาจารย์ที่ยิ้มให้มันเหมือนจะบอกว่า ต่ำกว่า 30 เกือบทั้งห้อง
อาจารย์เริ่มขานชื่อนักเรียนเพื่อให้ไปรับแบบทดสอบคืนที่หน้าชั้นเรียน ทีละคนๆ แต่ดูเหมือนที่เรียกไปทั้งหมดก่อนจะถึงฉันจะไม่มีใครทำหน้าเหมือนได้ต่ำกว่า 30 คะแนนเลยสักคน
"เซนะ" อาจารย์เรย์จิขานชื่อเซนะ เซนะเดินออกไปรับ สีหน้าของเขาที่เห็นคะแนนในแบบทดสอบนั้นเหมือนคนที่ได้รับชัยชนะในการแข่งขันอะไรสักอย่าง เพราะสีหน้าของเซนะนั้น ดูพอใจอย่างมาก เมื่อเขากลับมานั่งที่ ตรงข้างหน้าฉันฉันก็เหลือบไปดูว่า ทำไมถึงพอใจอย่างนั้นนะ
"98.....98 คะแนน โหยเก่งชะมัดเลย" ฉันคิดในใจ สักพักอาจารย์เรย์จิก็เรียกชื่อของฉัน สิ่งที่เห็นในกระดาษแบบทดสอบของฉันก็คือ ตัวเลขสีแดงที่เขียนว่า "29 คะแนน" พอเห็นแบบนั้นฉันถึงกลับเผลอพูดออกมาเบาๆตรงโต๊ะของตัวเองว่า "29 เนี่ยนะ งั้นก็ต้องทำความสะอาดห้องทั้งอาทิตย์ล่ะสิเนี่ย จะบ้าตาย"
แล้วก็มีเสียงหัวเราะจากโต๊ะข้างหน้าของฉัน นั่นก็คือโต๊ะของอีตาเซนะ นั่นเองคงได้ยินฉันบ่นออกมา แน่ๆเลย ฉันว่านะ ไม่นานนักอาจารย์ก็ขานชื่อนักเรียนให้ออกมารับกระดาษแบบทดสอบหมด มีคนที่ได้ต่ำกว่า 30 คะแนนนอกจากฉัน ก็มีอีกแค่ 2 คน รู้สึกว่าจะชื่อ เค กับ คาสึโมโต้
เคเพื่อนร่วมชั้นของฉันคนนี้เป็นคนประหลาด ทำไมถึงประหลาดนะรึ ก็เจ้าตาคนนี้มันชอบแอบหัวเราะคนเดียวโดยที่ไม่มีเหตุผลเลยนะสิ หน้าตารึก็ออกจะดูน่ารัก ตัวเล็กคล้ายผู้หญิงเหมือนกับฉัน (แต่ฉันน่ะหญิงแท้นะ)
ส่วน คาสึโมโต้ คนนี้ดูดีหน่อย ดูท่าทางแก่เรียนเพราะใส่แว่นหนาเตอะ แต่งตัวดูเรียบร้อย แต่ทำไมถึงได้คะแนนต่ำกว่า 30 นะ ฉันเองก็ไม่เข้าใจ
สรุป 1 อาทิตย์นี้ ตัวฉัน และเพื่อนร่วมชั้นของฉันที่ชื่อ เค กับ คาสึโมโต้ ต้องเป็นเวรทำความสะอาดห้อง ทั้ง อาทิตย์ คาบที่ 3 ของวันนี้เป็นชั่วโมงพละ (ว่ายน้ำ) นี่นา อะไรจะซวยซับซวยซ้อน ข้าวไม่ได้กิน ต้องทำความสะอาดทั้งอาทิตย์ แถมยังจะต้อง เฮ้อ.......
เมื่อเรียนจนจบชั่วโมงที่สองของวัน ก็ต้องไปเปลี่ยนชุดเพื่อไปเรียน ว่ายน้ำต่อ ฉันซึ่งจริงๆแล้วเป็นผู้หญิงจะให้ไปใส่ชุดว่ายน้ำชายก็ไม่ได้ ใส่ชุดว่ายน้ำหญิงก็ยิ่งไม่ได้ใหญ่จึงต้องแก้ตัวไปว่า เป็นโรคแพ้คลอรีน เลยต้องมานั่งริมสระว่ายน้ำ อากาศก็ร้อน ท้องมันก็ยังมาร้องอีก
"ไง หน้านายดูแดงๆนะ เป็นไรรึป่าว" เสียงหนึ่งถามขึ้น เจ้าของเสียงนี้ก็คือ เซนะ นั่นเอง
"อากาศมันร้อน หน้ามันก็ต้องแดงสิ ถามแปลกๆ" ฉันตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิด ทำให้เซนะโกรธมั้ง ไม่งั้นคงไม่ ตอบฉันว่า "อ่อหรอ"แล้วกระโดดลงสระไปหรอก
"ไมมันร้อนยังงี๊นะยังไม่เข้าหน้าร้อนเลยด้วยซ้ำ ร้อนจริงๆ" ฉันบ่นพึมพัมกับตัวเอง
"ม่ายไหวแล้ว..ตุ่บ!!!." ก่อนที่ฉันจะสติเลือนลางก็ได้ยินเสียงของพวกผู้ชายโวกเวกโวยวายกันดังลั่น
"จารย์ครับ อากิระคุง เค้าเป็นลมไปแล้วฮะ"
"เฮ้ยใครช่วยเอามันไปส่งห้องพยาบาลทีซิ สงสัยจะเป็นลมแดด"
"..............."
"ผมพาไปเองครับ"
"งั้นฝากด้วยล่ะ เซนะ"
"...................."
แล้วร่างของฉันก็ถูกอุ้มขึ้น ในวงแขนที่แข็งแรงของ ใครบางคน ก่อนจะหมดสติไป
ฉันลืมตาตื่นขึ้นแล้วมองๆไปรอบๆก็รู้ว่า ที่ๆฉันนอนอยู่นี้เป็นห้องพยาบาลของโรงเรียน
"ในนี้อากาศเย็น.ดีแฮะ" ฉันพูดขึ้นเพราะคิดว่าคงไม่มีใครอยู่หรอก
"ไง..ดีขึ้นแล้วสิจ๊ะ" เสียงของหญิงวัยกลางคนถามขึ้น ฉันรีบหันไปมองหาที่มาของเสียงทันที จึงได้พบกับผู้หญิง ผมยาวปะบ่า หน้าตาดี ในชุดสูทสีขาว (ชุดที่พวกหมอๆเขาชอบใส่กันน่ะ)
"ค..ครับดีขึ้นแล้วฮะ" ฉันตอบออกไปทันที ที่มองเห็นสายตาที่แสดงอาการเป็นห่วงของผู้หญิงคนนั้น
"งั้นก็ดีแล้ว ว่าแต่ว่าเธอนี่น่ารักไม่เบานะ มีแฟนรึยังจ๊ะพ่อหนุ่มน้อย" หญิงในชุดสูทสีขาวถามขึ้นในขณะที่ยื่นหน้าสวยๆของหล่อนมาใกล้หน้าของฉัน จนปลายจมุกจะติดกันอยู่แล้ว ฉันเลยต้องรีบถ่อยห่างทันที
"แฟนน่ะยังไม่มีหรอกครับ ว่าแต่ว่าคุณ...?"
"งั้นรึ ฉัน นัทสึมิ เป็นอาจารย์ประจำห้องพยาบาล ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ อา-กิ-ระ-คุง-" หล่อนแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงยั่วยวน
"เอ่อ อาจารย์ รู้จักชื่อผมได้ไง" ฉันถามขึ้นด้วยท่าทีที่สงสัย
"เพื่อนของเธอที่อุ้มเธอมาส่งเรียกชื่อเธอน่ะ ว่าแต่ว่า เรียนฉันว่า นัทจังจะดีกว่านะ " หล่อนพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ฉัน
"ค..ครับ น..นัทจัง" ฉันก็ไม่อยากจะเรียกแบบนี้หรอกนะ แต่สายตาของหล่อนดูเหมือนจะบอกว่า ลองไม่เรียกสิ โดนดีแน่ - -"
พอฉันขอตัวออกจากห้องพยาบาลก็ได้รีบตรงไปยังห้องเรียนทันที เพราะถ้าอยู่ต่อสงสัยจะต้องโดนปล่ำแน่ ดีไม่ดีโดนจับได้ว่าเป็นหญิงจะยิ่งแย่ไปใหญ่
ตอนเย็นที่โรงอาหารของหอพักชาย หอสอง
"อิ่มจัง นึกว่าจะตายซะแล้วเรา" ฉันพูดในใจขณะที่กินอาหารหมด ก่อนจะเดินเอาจานไปเก็บ
"ไง อากิระ ได้ข่าวว่านายเป็นลม ในวิชาว่ายน้ำงั้นหรอ?" เสียงหนึ่งถามขึ้น ฉันรู้ได้เลยว่าเป็นเสียงของใครเพราะน้ำเสียงที่ฟังดูกะล่อนแบบนี้มีคนเดียว อามายะ รุ่นพี่หัวหน้าหอนั่นเอง
"ก็นิดหน่อยฮะ" ฉันตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"นายนี่ดูไม่ค่อยจะแข็งแรงเอาซะเลยนะ" รุ่นพี่อามายะพูดกลับมา
"เหรอฮะ พอดีผม เป็นโรคหัวใจไม่ดีนะครับ" ฉันพูดปดออกไป
"ยังงั้นหรอกหรอ ถึงว่า หน้าตา รูปร่างของนายถึงคล้ายกลับผู้หญิง" รุ่นพี่อามายะพูด ด้วยน้ำเสียงที่เชื่อสนิทว่าฉันเป็นโรคหัวใจ คนอะไรซื่อบื้อชะมัด
"เฮ้อามายะ เร็วเข้า!!!"เสียงเพื่อนของรุ่นพี่อามายะตะโกนเรียก
"งั้นฉันไปนะ มีไรไปหาฉันที่ห้องได้นะ ไปล่ะ" รุ่นพี่อามายะบอกกับฉันก่อนจะเดินตามเพื่อนออกไปจากโรงอาหาร
"เฮ้อ...ไปได้ซักที" ฉันถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆออกมา
ชั้น 3 ของหอพักชาย หอ 2
ฉันที่กำลังจะเดินกลับห้อง ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังออกมาจาก ห้อง 304 ว่า
"ยูตะ นายจะไปไหนน่ะ"
"ไปรับลม"
"คงไม่ใช่จะไปหาหญิงข้างนอกหรอกนะถ้าโดนจับได้ จะซวยเอานาา"
"เออน่า นายก็ห่วงไปได้ ทัตสึ"
"ยูตะ กับ ทัตสึงั้นหรอ คงจะเป็นตาสองคนเมื่อเช้าที่เจอในโรงอาหารละมั้ง" ฉันนึกในใจ ยังไม่ทันที่จะเก้าขาเดินออกมา เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับมีชายผมทองหน้าตาดีคนหนึ่งเดินออกมาจากห้อง ก่อนที่จะปิดประตู ชายผมทองที่ว่าก็คือ "ยูตะ"นั่นเอง
"เกะกะน่า" ยูตะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่กวนบาทาน่าดู
"เออ โทษที" ฉันบอกขอโทษออกไป ด้วยน้ำเสียงที่ไม่เต็มใจนัก
ก่อนที่ยูตะจะเดินจากไป ได้ฝากคำพูดที่ฟังแล้วฉันอยากจะวิ่งไปกระโดดเตะก้านคอจริงๆ แต่ไม่กล้าอะ
"ไออ่อน" นี่คือคำพูดที่ยูตะทิ้งไว้ ก่อนจะเดินจากไปนั่นแหละ
ที่ห้อง 306
เซนะกำลังนอนอ่านหนังสือบนเตียงของเขา ในขณะที่ฉันเดินเข้าห้องไป ก่อนที่จะเดินไปที่เตียงนอนของตัวเอง แล้วนั่งลงพร้อมถอนหายใจ
"เป็นไง" น้ำเสียงที่ฟังดูเรียบๆของเซนะถามขึ้น
ฉันหันไปมองก่อนจะตอบว่า "เหนื่อยจะตาย" ด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ
เซนะหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปอ่านหนังสือของ เขาต่อ
ฉันซึ่งไม่สบอารมณ์ กับเสียงหัวเราะของเซนะก็บอก "ราตรีสวสดิ์" กับเขาก่อนจะหลับไป
21 สิงหาคม 2547 09:56 น.
นกปีกหัก
สามวันก่อน
"ว่าไงนะคะ!! พ่อจะให้หนูไปเรียนโรงเรียนชายล้วนเนี่ยนะ พ่อสติดีหรือป่าวเนี่ย" ฉันต่อว่าพ่อของฉันที่กำลังนั่งสบายอกสบายใจดื่มกาแฟในแก้วใบโปรดที่แม่ยกมาให้
"น่า อากิระ ไหนๆก็ไหนๆแล้วจะโมโหไปทำไมกันล่ะ ก็เขาเข้าใจผิด แล้วก็ไม่มีเวลาเพราะ อีกสามวันพ่อก็จะต้องไปอเมริกา หรือลูกอยากจะไปด้วย" พ่อพูดขึ้น พร้อมกับยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มอย่างใจเย็น
"นั่นสิจ๊ะ ถ้าลูกไม่พอใจก็ไปกับเราก็ได้นะ" แม่พูดขึ้นอีก ขณะเดินไปเก็บของใส่กระเป๋า
ฉันซึ่งอยากจะอยู่ที่นี่ต่อก็ต้องยอมแต่โดยดี ผิดเองนี่ที่อยากจะอยู่ต่อแล้วจะมาบ่นทำไมใช่มะ (ไม่รู้ว่าพ่อเขาคิดอะไร) แล้วก็ต้องเก็บข้าวของเพื่อมาพักที่หอพักของโรงเรียน โรงเรียนที่ฉันจะต้องไปเรียนมีชื่อว่า เซนไดกิ เป็นโรงเรียนรัฐบาลและเป็นโรงเรียนชายล้วน หอพักที่จะไปอยู่ก็เป็นหอพักชายและฉันในตอนนี้ก็อยู่ในคราบผู้ชาย แล้วจะเจออะไรมั่งเนี่ยไม่อยากจะคิดเลยให้ตายสิ
"นี่คือห้องของเธอ" ชายอ้วน หัวล้านที่ผมเกือบจะไม่มีพูดขึ้น พร้อมกับยื่นกุญแจห้องให้ เขาคนนี้ก็คือ ผู้ดูแลหอพักชายแห่งนี้
"306..งั้นหรอเอ๊ะ..โคจิมะ เซนะ ใครกันนะ? หรือว่าจะเป็นเพื่อนร่วมห้อง" ฉันคิดในใจ
"จริงสิ เวลาอาหาร ตอนเช้าก็ 6.00-8.00 น. ตอนเย็นก็ 7.00-9.00 น. เข้าใจนะ" ผู้ดูแลหอบอก
"ค่ะ..เอ้ย!!ครับเข้าใจแล้วครับขอบคุณครับ" ฉันพูดขึ้น
"งั้นก็ดี ถ้าไม่เข้าใจตรงไหน ไปถามเจ้า เอนโด อามายะ หัวหน้าของหอชายนี้นะเค้าพักที่ห้อง301น่ะ" ผู้ดูแลหอบอกกับฉันก่อนจะเดินจากไป
ฉันซึ่งจะต้องปรับตัวให้เข้ากับความเป็นอยู่ของที่นี่ จะทำยังไงดีนะ มองไปรอบๆก็ไม่มีใครเลย จะเข้าห้องก็ไม่กล้า ต้องทำใจอยู่พักใหญ่ก่อนจะเคาะประตูห้องเพื่อที่จะเข้าไป หอพักชายของโรงเรียน เซนไดกิ มีทั้งหมด สามหอพักด้วยกัน ซึ่งฉันก็ได้อยู่ที่หอสอง ใกล้โรงเรียนที่สุด
เมื่อเข้าไปในห้องฉันก็เจอผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงริมหน้าต่าง แน่ล่ะจะเป็นผู้หญิงได้ไงก็หอพักชายนี่ ถ้ามีก็แปลกแล้ว ถ้าไม่รวมฉันนะ ผู้ชายที่ฉันเจอในห้องคงจะเป็น โคจิมะ เซนะ ผู้ร่วมห้องของฉันล่ะมั้ง ขอเรียกเขาคนนี้ว่า เซนะละกันนะ ง่ายดี อืมหน้าตาหรอ ก็หล่อละน่ะ ผมสีชา ตัวสูง คงจะประมาณ 170 กว่าๆละมั้งนะ...
"จะยืนตรงนั้นอีกนานมะ รีบปิดประตูซะทีสิ" เซนะพูดด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูแล้ว ฉันอยากจะวิ๊ดใส่แล้ววิ่งเข้าตบ ก็ได้แค่คิดละนะ
"อ๊ะ...ขอโทษที" ฉันพูด ไม่เต็มใจหรอกนะ แต่ไม่กล้าขัด
เมื่อปิดประตูแล้วฉันก็เดินเข้าไป
"ที่ของฉันล่ะ" ฉันถามขึ้น
"เตียงของนายก็อยู่ตรงนั้นไง" เซนะบอก แล้วชี้นิ้วไปที่เตียงที่อยู่ติดกับประตู พอบอกเสร็จก็หันกลับไปอ่านหนังสือต่อทันที
"คนอะไรไม่น่าคบเลย" ฉันคิดในใจขณะที่เดินไปที่เตียง แล้วเอากระเป๋าวางไว้ ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างเตียง เพื่อจะเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่อยู่ในกระเป๋า
สักพักก็เก็บของเข้าที่เรียบร้อย เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ฉันหันไปมองเซนะที่เตียงก็เห็นว่าหลับไปแล้ว พอหันไปมองนาฬิกา ก็ต้องตกใจ "ตายแล้ว ตีสองกว่าแล้วรึเนี่ย ตอนจัดของพึ่งจะ สี่ทุ่มกว่าเองนี่ อ๊ะ!!แย่แล้วพรุ้งนี้ต้องตื่นแต่เช้าซะด้วย นอนๆดีกว่า" ว่าแล้วฉันก็รีบเข้านอน
เช้าของวันใหม่เริ่มด้วยการที่ฉันตื่นสาย ไปเรียนวันแรกก็สายซะแล้ว ช่วงพักเที่ยงเป็นช่วงเลือกชมรม พอฉันกินข้าวเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปตามซุ้มต่างๆที่รับสมัคเด็กใหม่ที่ต้องการที่จะเข้าชมรม ชมรมฟุตบอล ชมรมเบสบอล บาสฯ เทนนิส วอลเล่ ฯลฯ
ฉันที่ยังตัดสินใจไม่ได้ก็เดินไปเดินมา ก่อนจะโดน รุ่นพี่ปีสาม หน้าตาดี ชวนเข้าชมรม ชงชา ซึ่งฉันก็ต้องบอกปฎิเสธไป ก่อนจะเดินหนีออกมา เจอกับ เซนะ เพื่อนร่วมห้องผู้ไม่น่าคบของฉันกำลังยื่นใบสมัคที่จะเข้าชมรมกีฑา กีฑางั้นรึ ตอนม.ต้นเราก็เคยอยู่นี่นา อืมงั้นก็เอาชมรมนี้ละกัน
"ขอใบสมัคใบนึง ครับ" ฉันพูดขึ้น รุ่นพี่ กล้ามใหญ่หน้าตาหน้ากลัว หันมามองฉันตั้งแต่หัว จดเท้าก่อนจะยื่นใบสมัคให้ คงจะว่า หุ่นยังกับผู้หญิงแบบนี้จะมีแรงที่ไหนมาวิ่ง อย่ามาดูถูกฉันเชียวนะ เห็นแบบนี้ วิ่ง 100 เมตร ใช้เวลาแค่ 14.2 วิ เชียวนะ พอกรอกเสร็จแล้วรุ่นพี่กล้ามใหญ่ก็พูดขึ้น ขณะที่ฉันยื่นใบสมัคให้
"จะไหวรึ อย่างนายน่ะ" พูดด้วยท่าทางที่ฉันดูแล้วอยากจะขอใบสมัคคืนจริงๆ
"100 เมตร 14.2 วิ ถ้าไม่รับก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมยังไงก็ได้" พอฉันพูดออกไป รุ่นพี่กล้ามใหญ่เริ่มเปลี่ยนสีหน้าทันที
"โอ้ว..ไม่เลวนี่ จริงสิ ฉันชื่อ อิสึ โทคิ อยู่ปี 3 แล้วก็เป็นประธานชมรม" รุ่นพี่กล้ามใหญ่นามว่า โทคิคนนี้พูดขึ้น
"ตกลงรับผมเข้าชมรมใช่มั๊ยครับ รุ่นพี่ โทคิ " ฉันพูดขึ้น
"รับสิๆ จะไม่รับได้ไง" รุ่นพี่ โทคิ พูดขึ้น พร้อมกับท่าทีที่ เหมือนกับ ลูกน้องกำลังพูดเอาใจเจ้านายยังไงยังงั้นเลย
เมื่อจัดการอะไรเสร็จเรียบร้อย ก็ต้องเรียนรอบบ่ายต่อ วิชาที่จะเรียนในรอบบ่ายนี้ก็คือ เลข ซึ่งฉันอ่อนที่สุด แต่ก็นะ ใช่ว่าจะไม่เก่งเลย
อาจารย์ประจำวิชานี้เป็นอาจารย์ประจำชั้นปี 1/A ของห้องฉัน เคยเห็นหน้าก็ตอนปฐมนิเทศ หนเดียวเอง ก็วันนี้ที่จริงก็ต้องได้เห็นแหละถ้ามาทันชั่วโมงโฮมรูมอะนะ ตอนที่เห็น ในวันปฐมนิเทศ นะ รู้สึว่าจะหล่อมากเลย แต่ฉันไม่สนใจหรอก ถ้าสนใจเดี๋ยวจะหาว่าแปลก ก็ตอนนี้ฉันเป็นผู้ชายนี่ ไม่ใช่ผู้หญิง พูดให้ถูกก็คือ เป็นผู้หญิงที่ต้องปลอมเป็นชาย
"เงียบๆหน่อย" คนที่พูดนี้ก็คือ ชายหนุ่ม อายุอาราวประมาณ 26 หน้าตาหล่อ ดูมีสกุล คนๆนี้ก็คืออาจารย์ที่พูดถึง รู้สึกจะชื่อว่า อามาโนะ เรย์จิ มั้งนะ
"เอาละวันนี้ฉันมีแบบทดสอบมาใหพวกเธอ ทำกัน ก่อนจะเริ่มเข้าบทเรียน เอาหัวหน้าห้องมาเอาไปแจก"
"แบบทดสอบอะไรเนี่ย" ฉันนึกในใจขณะที่ดูแผ่นกระดาษ หรือ แบบทดสอบ ที่แจกมา
"จารย์ครับที่มันข้อสอบไม่ใช่หรอฮะ" เพื่อนร่วมชั้นของฉันถามขึ้น
"ก็ใช่นะ ทำซะ ไม่ต้องถามมาก ใครได้ต่ำกว่า 30 คะแนน ต้องเป็นเวรทำความสะอาดห้อง 1 อาทิตย์ เข้าใจนะ" อาจารย์เรย์จิพูดขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย (ก็ยิ้มแบบปกติแหละ)
เพื่อนทั้งห้องร้องครางพร้อมกันรวมทั้งฉันด้วย แต่ดูเหมือนจะมีบางคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าฉันจะทำตัวสบายๆ จะใครซะอีกก็ โคจิมะ เซนะ น่ะสิ อ้าวฉันลืมบอกไปหรอว่า เซนะอยู่ห้องเรียนเดียวกลับฉัน ลืมไปได้ไงนะเรา
ผ่านไปจนหมดชั่วโมง อาจารย์เรย์จิก็เดินมาเก็บแบบทดสอบพร้อมกับบอกว่าพรุ้งนี้จะแจกคืน ใครที่ได้ต่ำกว่า 30 คะแนน ระวังไว้ให้ดี
ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ฉันนั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะรอดหรือป่าว..
ตกเย็นกลับมาหอพัก เพื่อที่จะอาบน้ำ แล้วลงไปกินอาหารเย็นที่โรงอาหาร แต่ก็ต้องมาอารมณ์เสียเพราะ น้ำมันไม่ไหล ถ้าน้ำไม่ไหลก็มีอย่างเดียวก็คือต้องไปอาบน้ำที่ห้องน้ำรวมภายในหอ ฉันซึ่งเป็นหญิง จะไม่อาบก็ไม่ได้ จะไปอาบก็ไม่กล้า เลยต้องลงไปกินข้าวก่อน แล้วเรื่องอาบน้ำค่อยว่ากันอีกที
ที่โรงอาหารของหอพัก
"ไง นายใช่มั๊ยที่เค้าลือกันว่าเหมือนผู้หญิงน่ะ" หนุ่มที่ดูท่าทางกระล่อน พูดขึ้น
"ก็ผู้หญิงนี่จะไปเหมือนผู้ชายได้ไง" ฉันคิดในใจ
"อ่อ ฉันชื่อ เอนโด อามายะ อยู่ปี 2 เป็นหัวหน้าหอนี้ เรียกฉันว่า มาจังก็ได้นะ"
"ไม่ล่ะฮะ รุ่นพี่ อามายะ" ฉันตอบกลับไป จะให้เรียกมาจังหรอ ฝันไปเถอะ
"เอางั้นนะ งั้นก็ตามสบาย มีอะไรสงสัยเกี่ยวกับหอ ก็ถามฉันได้นะ สำหรับนายฉันพร้อมจะตอบเสมอ" รุ่นพี่อามายะพูดจบก็เดินจากไป
"เหอๆไอรุ่นพี่จอมขี้หลี้" ฉันคิดในใจ
...................................................................................................
เช้าวันรุ่งขึ้นฉันรีบตื่นขึ้นมาล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ที่เซนะ จะตื่น "วันนี้ก็เป็นวันที่ สอง ของการมาอยู่หอนี้สินะ เมื่อวานเหนื่อแทบตาย " ฉันคิด
พอออกจากห้องน้ำก็เจอกับเซนะที่กำลังลุกขึ้นจากเตียงด้วยอาการงัวเงียสุดๆ จะพูดไปเวลาอีตานี่นอนน่ารักยังกะเทพบุตร แต่เวลาตื่นยังกะปีศาจ ปากจัดยังกะอะไรดี แถมท่าทางยังกวนโอ๊ยอีก
"อ..อรุณสวัสดิ์" ฉันกล่าวทักทาย
เซนะมองหน้า ก่อนจะตอบว่า "อืม" แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป กวนโอ๊ยมั๊ยล่ะ ยังไงก็ชั่งเถอะ ไปกินข้าวเช้าดีกว่า วันนี้ อาจาร์เรย์จิจะแจกแบบทดสอบคืนด้วย
เช้านี้ฉันอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะว่าโรงอาหารคนยังไม่ค่อยมีเพราะยังเช้าอยู่ เลยทำให้ฉันไม่ต้องเบียดเสียดเข้าไปขออาหารเช้าจากคุณป้าที่คอยตักอาหารเช้าให้พวกเด็กในหอพักกินกัน
"คุณป้าวันนี้ดูสวยแต่เช้าเลยนะครับ ผมเห็นแล้วนึกว่าสาวที่ไหนอีก" ฉันพูดชม
"อุ๊ยตาย อรุณสวัสดิ์จ้า อากิระคุง" ป้าโรงอาหารกล่าวทักฉัน
"จำชื่อผมได้ด้วยหรอครับ สวยแล้วยังจำชื่อได้เก่งอีกนะครับเนี่ย"
"แหม ป้าจำได้หมดแหละจ้า เอ้านี่ให้พิเศษเลยนะ" พูดจบป้าโรงอาหารแกก็ตัก ข้าวกับแกงให้พูนจานเลย แถมยังมีนมสดแถมมาให้อีกขวด
"ขอบคุณครับ" ฉันพูดขอบคุณก่อนจะเดินไปหาโต๊ะเพื่อจะนั่งกินข้าว
"ถอยหน่อยๆ!!"
"โครม!!! ...เพล้ง!!" เสียงโครมนี่เกิดจากการชน ส่วนเสียงเพล้งเนี่ยเป็นเสียงจานข้าวกับขวดนมที่อยู่ในถาดฉันตก
"ซวยจริง บอกให้หลบทำไมไม่หลบ"ชายคนหนึ่งซึ่งมีผมสีทอง หน้าตาดี ตวาดใส่ฉัน
"ขอ..ขอโทษ เอ่ยไม่ใช่สิ นายตั้งหากใครใช้ให้วิ่งในโรงอาหารกัน" ฉันพูดขณะที่ลุกขึ้น
"พูดงี๊ก็สวยเดะ"
"เออสิ จะเอาหน่อยมะ ฉันก็ชักจะทนไม่ไหวละ วิ่นมาชนแล้วยังจะมาพูดจาหาเรื่องอีก" ฉันพูด ฟังแล้วดูเหมือนผู้ชายใช่มะ แต่ยังไงฉันก็ผู้หญิงนะ
"ไม่เอาน่า ยูตะ " ผู้ชายอีกคนที่วิ่งตามมาที่หลังพูดขึ้น กับคนที่วิ่งมาชนฉัน
"ทัตสึ นายจะว่าฉันผิดงั้นสิ"
"ก็นะ"
รู้สึกว่าคนที่วิ่งมาชนฉันจะชื่อว่ายูตะ แล้วคนที่วิ่งตามมาที่หลังจะชื่อ ทัตสึ
"โธ่โว๊ยอะไรกันฟะเนี่ย" ยูตะพูดขึ้น
"ขอร้องผิดแล้วอย่าโวย ไม่อยากขอโทษก็ไม่ต้อง เพราะฟังไปก็เท่านั้น มันไม่ทำให้ข้าวเช้าฉันกลับคืนมาเหมือนเดิมหรอก" ฉันพูดออกไปก่อนจะเดินไปเอาไม้กวาดมากวาด
"ถอยไปสิ ไม่ช่วยแล้วยังมายืนขวางอีก" ฉันพูด พร้อมกับใช้ไม้กวาด กวาดไล่
"ชิ!!ไอเตี้ยเอ้ย" พูดจบก็เดินหนีไป
"เฮ้ยยูตะรอด้วยดิ ขอโทษนะไอนั้นมันบ้าน่ะ" ทัตสึกล่าวขอโทษฉันแทนยูตะ แล้วเดินไป
"ไม่ต้องบอกก็รู้" ฉันบ่นพึมพัม อดกินเลยสิเนี่ย เฮ้อ ก็ดีจะได้ ไดเอทไปในตัว....
>> จบตอน