30 สิงหาคม 2545 19:34 น.
นกน้ำ ไซบีเรีย
...หลายปีก่อน ฉันเคยมีไฟที่จะเดินทางท่องเที่ยว
ไปบันทึกภาพตามท่องทุ่ง ป่าเขา ในเกือบจะทุกๆวันหยุด
...ราวตีสามตีสี่จะมีคนเห็นฉันแบกกระเป๋ากล้องขึ้นรถ
แล้วขับกระบะคู่ใจผ่าความมืดออกไปเพียงลำพัง
เป้าหมายคือรุ่งเช้าในป่าหรือพื้นที่ธรรมชาติที่ไหนสักแห่ง
ซึ่งเวลานั้นจะเป็นเวลาที่ดีเวลาหนึ่งในการบันทึกภาพ
...เมื่อถึงจุดหมาย ฉันก็จะแบกกล้อง เดินชมนกชมไม้
และบันทึกภาพอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย
นั่นอาจเป็นเพราะว่าฉันยังมีไฟ มีเรี่ยวแรง และยังมีเวลากับภารกิจที่รักนี้
เพียงเพื่อความสุขที่จะได้เห็นผลงานภาพธรรมชาติที่ตนเองได้บันทึก
...มาวันนี้ฉันเดินทางน้อยลง ทั้งที่ฉันยังรักการเดินทาง
อายุที่มากขึ้นทำให้ฉันรู้สึกฝืนที่จะตื่นแต่มืดแล้วขับรถท่องโลกไปไหนต่อไหน
ฉันรู้ดีว่าไฟมิได้ลุกโชนเช่นเก่า
ดีเพียงว่าฉันยังคอยเอาฟืนสุมมิให้มันมอดสนิทก็เท่านั้น
...จริงดังว่า ถ้าเรายังมีเรี่ยวแรงและมีไฟจะทำสิ่งใดก็จงทำเถิด
เพราะเมื่อถึงเวลาหนึ่งเราอาจไม่มีจังหวะและโอกาสดังเดิมอีก
ทุกวันนี้ฉันจึงยังรู้สึกดีที่ครั้งหนึ่งเมื่อไฟยังแรง
ฉันได้ทำในสิ่งหนึ่งที่ตัวเองรักอย่างเต็มที่แล้ว
...เพื่อนบางคนมาปรึกษาฉันว่า ทำสิ่งนั้นดีไหม ทำสิ่งนี้ดีไหม
ฉันไม่ลังเลเลยที่จะตอบว่า จงอย่ารอช้าถ้าเรายังมีไฟ
ทำเท่าที่ทรัพยากรในตัวตนของเราจะทำได้
แม้ว่าสิ่งนั้นจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ตาม
เพราะไฟ..มิไดเกิดขึ้นง่ายๆ และจะโชติช่วงอยู่ตลอดเวลา
หากเกิดขึ้นแล้วปล่อยให้มันดับมอด..บางทีมันอาจไม่มีวันลุกโชนขึ้นมาอีกเลย
23 สิงหาคม 2545 09:53 น.
นกน้ำ ไซบีเรีย
ค่ำมากแล้ว
แสงของกลางวันอ่อนแรงลงทุกขณะ
ฉันหยุดยืนมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับหายไปจากขอบฟ้า
งดงามแต่ช่างดูโดดเดี่ยวในยามนี้
เมื่อฉันหันกลับไปมองอีกด้านตามแนวหาดที่เดินจากมา
หนุ่มสาวคู่นั้นเดินจูงแขนห่างไกลออกไปทุกที
จนมองเห็นเป็นจุดเล็กๆหล่อรวมเป็นจุดเดียว
เมื่อฉันมองไปยังผืนทราย
น้ำที่ลงก่อนหน้านี้เผยให้เห็นแนวหาดสีขาวเนียนเรียบ
บนผืนทราย รอยเท้าทุกฝีก้าวของฉันยังปรากฏแจ่มชัด
....จริงหรือที่บางเรื่องในชีวิตต้องใช้เวลาลบเลือน
ฉันคงต้องรอ...
อาจนานจนถึงรุ่งเช้าที่น้ำทะเลจะขึ้นมาอีก
เมื่อนั้น คลื่นก็จะลบรอยเท้าของฉันให้เลือนหายไปจากผืนทราย
13 สิงหาคม 2545 12:32 น.
นกน้ำ ไซบีเรีย
ในม่านหมอก..ฉันออกเดินชมความงามในยามเช้า
ริมชายป่าลมหนาวพัดมาบางเบา
ตรงนั้นกวางตัวหนึ่งยืนเล็มหญ้าอยู่เงียบเชียบ
ฉันอยากเดินเข้าไปชื่นชมความน่าชังของมันใก้ลๆ
แต่ฉันรู้ว่ามันมีช่องว่างระหว่างเรา
ฉันจึงหยุดยืนดูอยู่กับที่
เพราะหากฉันยิ่งเข้าใก้ลเท่าใดมันก็ยิ่งหนีห่างออกเท่านั้น
เพราะช่องว่างระหว่างมนุษย์และสัตว์มันมีระยะห่างที่ชัดเจน
อาจเพราะบาดแผลในใจที่มนุษย์ได้สร้างสมไว้ให้กับสัตว์ป่ามาเนิ่นนาน
อาจตั้งแต่เริ่มมีมนุษย์คนแรกนั่นกระมัง
สำหรับช่องว่างระหว่างมนุษย์กับมนุษย์นั้นเล่า
หากมิเคยสร้างรอยแผลใดๆให้แก่กัน
ช่องว่างระหว่างความแปลกหน้าย่อมมีโอกาสชิดกันได้เสมอ
หากทั้งสองพึงใจที่จะมีมิตรภาพต่อกัน
กวางยืนเล็มหญ้าอยู่ตรงนั้นจนพอใจ แล้วจึงเดินห่างออกไป
ฉันเดินแยกมาอีกทาง..เราต่างเดินลับหายไปในสายหมอก
8 สิงหาคม 2545 21:27 น.
นกน้ำ ไซบีเรีย
ผมไม่ได้มามือเปล่า
แต่ผมมีดอกไม้มาฝาก
นี่ไงละดูสิ ผมแบมือให้ดู
ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่คะหญิงสาวรำพึง
ลองเพ่งดูให้ดีๆอีกครั้งสิครับ..บางทีครั้งนี้คุณอาจเห็น
หญิงสาวเพ่งมองครู่ใหญ่..แล้วเธอก็อุทานขึ้น
เห็นแล้วละค่ะ ช่างงดงามเหลือเกิน
เรายิ้มให้กัน ผมบอกเธอไปว่า
อยู่ที่ใจของคุณเท่านั้นที่จะกำหนดว่า
มองเห็นดอกไม้ที่ผมยื่นให้หรือเปล่า
3 สิงหาคม 2545 16:36 น.
นกน้ำ ไซบีเรีย
มีใครบางคนบอกว่า..จะหยุดฝัน
ฉันว่า..อย่าหยุดเลยฝันต่อเถอะ
เพราะถ้าความฝันยังคือความงามความสุนทรียในชีวิต
เพราะถ้าความฝันยังเป็นแรงบันดาลใจก่อให้เกิดงานศิลป์อันหลากหลาย
และเพราะถ้าความฝันยังเป็นพลังขับเคลื่อนที่ดีของชีวิตอยู่แล้วละก็
จงฝันต่อเถอะ..อย่าหยุดฝันเลย