30 มิถุนายน 2546 17:28 น.
ธารเธียรเพียรtong
@ กลเกมล่อหลอกหล้า..........พร่าผลาญชีวี
เจ้าจักปลิดชีพพลี..................เพื่อพ้อง
หนึ่งชีวิตที่มี...................... ..บ่ก่อผลนา
อย่าเรียกร้องปกป้อง............ยุ่งยาก
@ ปล่อยคนให้วิ่งหล้อ...........ดุจสัตว์
แล้วจึ่งใช้ตาข่ายมัด................มั่นไว้
สร้างเป็นฉากผูกรัด................หลอกล่อ ลวงฆ่า
ฉมวกปักเข้าให้......................อ่อนล้า
@ เลือดทะลักพุ่งเข้า.............ใบหน้า
ปากส่งเสียงร่ำหา....................สะอื้น
น้ำตาหลั่งทรมา......................เจ็บปวด เหลือเกิน
ขอรักช่วยหล่อหลื้น.................บ่ได้
@ ปากขยับแช่งสาป.............ในใจ
เจ้าก่อกรรมอันใด.................หมั่นสร้าง
จงเกิดเหตุผลักไส.................นำสู่อเวจี
นรกบ่อ้างว้าง........................ดอกเจ้า
@ สิ้นถ้อยคำสบถ................ยิ่งเศร้า
ความมืดมิดเร่งเร้า................เจ็บปวด
รู้สึกสั่นเหน็บหนาว...............ช้ำชอก วิญญาณ์
ความรวดร้าวยิ่งยวด.............แผ่ซ้าน
@ ชีวิตหนึ่งพึ่งสิ้น...............บ่ได้ พิเพียง
สนุกให้หนำใจ.....................อีกครั้ง
สังเวยเพชฌฆาตไป.............เกลื่อนกลาด หลายศพ
เกมล่าชีวิตไม่ยั้ง..................ยิ่งหนัก
@ เวรกรรมที่ก่อไว้............ติดตรึง
จิตครุ่นคิดคำนึง..................สะท้อน
เคยทำชั่วเพลงหนึ่ง.............ผลเกิดสนอง
ปฏักเฆี่ยนซ้ำซ้อน...............เจ็บหนัก
@ เขาขายเราเรียบร้อย.....ลาจาก
โรงฆ่าสัตว์จักพราก.............หม่นไหม้
เนื้อถูกเชือดรอยบาก..........เลือดหลั่ง แดงฉาน
เสียงโอดครวญร่ำไห้...........กู่ก้อง
@ จบแล้วการชดใช้..........เพลงเก่า
เคยคิดอย่างโง่เขลา............จบสิ้น
อยากจะลบแรเงา...............ลืมเรื่อง วันวาน
เสือกกระสนทนดิ้น.............ปลดหนี้
@ กรรมใดใครคิดสร้าง....สมมา
เวียนว่ายซ้ำทุกครา............บอกใบ้
ทำดีจักดีนา........................ทำชั่ว ชั่วเกิด
จำใส่ใจเอาไว้....................ทุกภพ
25 มิถุนายน 2546 17:26 น.
ธารเธียรเพียรtong
เสียงเต้นดังตึกตัก ตึกตัก
กระต่ายหลงจันทร์หนัก มากขึ้น
หัวใจซิหลงรัก เธออยู่ นานเฮย
ได้แต่ร้องสะอื้น ไป่รู้ความนัย
แสงจันทร์สว่างจ้า ส่องนวล ยวนตา
ใจก็คิดเสสรวล ยิ่งนัก
ความรักเริ่มรัญจวน ขอฝากความนัย
ส่งบทกลอนถึงที่รัก ฟากฟ้าเป็นใจ
อยากฝากคำเอ่ยเอื้อน กับจันทร์
กระต่ายเฝ้าใฝ่ฝัน ฝากอ้อน
เพียงคำหนึ่งผูกพัน เกรงกริ่ง วิญญาณ์
มิใช่เพียงยอกย้อน ล่อหลองลวงกัน
25 มิถุนายน 2546 13:16 น.
ธารเธียรเพียรtong
สุนทรครูกวีศรีสยาม
ระบือนามเกียรติก้องทุกแห่งหน
กวีแก้วแพรวพร่างกลางใจชน
เราทุกคนสุดแสนจะภูมิใจ
ยี่สิบหกมิถุนามาบรรจบ
เป็นวันครบรอบปีที่ยิ่งใหญ่
วันกำเนิดสุนทรภู่กวีไทย
มาร่วมใจรำลึกถึงครูกลอน
ทุกถ้อยคำลำนำท่านเรียงร้อย
ประทับรอยตราตรึงซึ้งคำสอน
บทเห่กล่อมเสภาทุกบทตอน
ท่านสุนทรเสกสรรค์มาบรรยาย
นับจากนี้ไม่มีท่านอยู่แล้ว
ดั่งดวงแก้วลาลับไปจนใจหาย
ความรู้สึกที่มีไม่เสื่อมคลาย
เกียรติคุณฝากไว้คู่แผ่นดิน
------------------------------------------------------------
สุนทรภู่งามแห่งยอดกวี ศรีสง่าแห่งชาติไทย
ร้อยกรองเลิศวิไล แต่งบทกลอนได้เป็นพระสุนทรโวหาร
20 มิถุนายน 2546 15:47 น.
ธารเธียรเพียรtong
พี่ชายในสายตา
แม้นเจ้าได้อ่านสาส์นฉบับนี้แล้ว.....เจ้าจงเข้าใจในความรู้สึกของพี่ชายที่รักเจ้าตลอดมา........
ฤารักที่พี่ให้ ยังน้อย เกินไป
เจ้าจึ่งมองนายร้อย หนุ่มฟ้อ
แต่ใจพี่ยังคอย วันหนึ่งเคียงกาย
มิใช่เพื่อนหยอกล้อ ตัดพ้อในใจ
เป็นพี่ชายจึ่งซึ้ง ดวงจิต
ได้แค่แนบสนิท เท่านั้น
ใจเจ้าบ่ใกล้ชิด สมดั่งมาดหมาย
ดวงจิตคิดอัดอั้น พ่ายแพ้หรือเรา
เห็นเจ้านั้นเปี่ยมสุข พี่สุขยิ่งกว่า
เห็นร่องรอยแห่งทุกข์ ยิ่งเศร้า
หัวใจหมดสนุก คร่ำเคร่ง ทรมาน
เพียงแค่มองดูเจ้า ปวดร้าวเหลือเกิน
นั่งมองดาวแต่งแต้ม ปลายฟ้า งดงาม
ดวงจิตคิดเสน่หา เพราะรัก
กลับเหน็ดเหนื่อยวิญญาณ์ ใครใคร่ ปลอบโยน
จึงเริ่มจะตระหนัก เรื่องรักกลลวง
เสียงแจ้วแจ้วจากแก้ว พี่จ๋า
เอื้อนเอ่ยถ้อยวาจา น่ารัก
รู้อยู่แก่ใจว่า เป็นแค่ พี่ชาย
ใจซิฝันทอถัก ปลูกรัก นิรันดร์
เจ้าจะรักใครพี่ไม่ว่า แต่ขอให้พี่ได้อยู่ดูแลเจ้าอย่างนี้ตลอดไป ก็พอใจ
20 มิถุนายน 2546 15:45 น.
ธารเธียรเพียรtong
พี่ชายในสายตา
ธารเธียรเพียรทอง
ฤาพี่เป็นได้แค่พี่ชายในสายตา......
แม้นเจ้าได้อ่านสาส์นฉบับนี้แล้ว.....เจ้าจงเข้าใจในความรู้สึกของพี่ชายที่รักเจ้าตลอดมา........
ฤารักที่พี่ให้ ยังน้อย เกินไป
เจ้าจึ่งมองนายร้อย หนุ่มฟ้อ
แต่ใจพี่ยังคอย วันหนึ่งเคียงกาย
มิใช่เพื่อนหยอกล้อ ตัดพ้อในใจ
เป็นพี่ชายจึ่งซึ้ง ดวงจิต
ได้แค่แนบสนิท เท่านั้น
ใจเจ้าบ่ใกล้ชิด สมดั่งมาดหมาย
ดวงจิตคิดอัดอั้น พ่ายแพ้หรือเรา
เห็นเจ้านั้นเปี่ยมสุข พี่สุขยิ่งกว่า
เห็นร่องรอยแห่งทุกข์ ยิ่งเศร้า
หัวใจหมดสนุก คร่ำเคร่ง ทรมาน
เพียงแค่มองดูเจ้า ปวดร้าวเหลือเกิน
นั่งมองดาวแต่งแต้ม ปลายฟ้า งดงาม
ดวงจิตคิดเสน่หา เพราะรัก
กลับเหน็ดเหนื่อยวิญญาณ์ ใครใคร่ ปลอบโยน
จึงเริ่มจะตระหนัก เรื่องรักกลลวง
เสียงแจ้วแจ้วจากแก้ว พี่จ๋า
เอื้อนเอ่ยถ้อยวาจา น่ารัก
รู้อยู่แค่ใจว่า เป็นแค่ พี่ชาย
ใจซิฝันทอถัก ปลูกรัก นิรันดร์
เจ้าจะรักใครพี่ไม่ว่า แต่ขอให้พี่ได้อยู่ดูแลเจ้าอย่างนี้ตลอดไป ก็พอใจ