2 มีนาคม 2553 23:28 น.
ธันวันตรี
นั่งดูรายการทางทีวี และอ่านเรื่องราวทางอินเตอร์เน็ต แลเห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดูรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย เรื่องผู้หญิงข้ามเพศ ก็ต่างเถียงกันไปมา คนนั้นถูก คนนี้ผิด บางคนก็ว่าความจริงก็ย่อมเป็นความจริง?
ดูรายการ The Star น้องเกรซ สาวมั่น พูดจาตรงไปตรงมา และก็ตามมาด้วยคำด่าจากผู้ชมประปราย
การเมืองคงไม่ต้องพูดถึง
เกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย?
เคยมีรายงานจากการวิจัยที่ทดลองเลี้ยงมนุษย์(lสมัยที่ยังไม่มีการควบคุมเรื่องจรรยาบรรณในการวิจัย) โดยไม่มีการพูดคุย ในห้องๆ หนึ่ง ผลปรากฏว่าเด็กคนนั้น ไม่สามารถพูดได้ แต่พัฒนาการเป็นไปตามปกติที่ควรจะเป็น เช่น คลาน ยืน เดิน เหมือนคนปกติทั่วไป
ถ้าจะอนุมานต่อจากผลการทดลอง ถ้าหากไม่มีการเรียนรู้ พฤติกรรมของเด็กก็น่าจะถูกกำหนดโดยธรรมชาติ
เนื่องจากมนุษย์มีพัฒนาการของสมองส่วนหน้า(cerebrum)มากกว่าสัตว์ชนิดอื่น ทำให้มนุษย์มีความเฉลียวฉลาดมากกว่าสัตว์ต่างๆ และสามารถที่จะเรียนรู้ และ สมมุติสิ่งต่างๆ ขึ้นมามากมาย
ถ้านำเด็กคนนั้น ไปไว้ในสังคมไหน เขาก็น่าจะมีวิธีคิด ตีค่าความผิด ถูก เป็นไปตามสังคมนั้นๆ
เช่น นำไปไว้ในสังคมที่ผู้ชายแต่งงานกับผู้หญิงหลายคนได้ สิ่งนั้นก็จะถูกต้องสำหรับเขา นำไปไว้ในสังคมที่ห้ามทำหมันในสตรี เพราะเป็นบาป การที่สตรีทำหมันเขาก็จะตีค่าว่าคือบาป และ อื่นๆ
จะพบว่า สิ่งต่างๆ ทั้งหมดทั้งปวง ถูกมนุษย์สมมุติขึ้นมาแทบทั้งสิ้น อาจจะเหมือนหรือแตกต่างกันไปในแต่ละสังคม
พระพุทธเจ้า พระองค์สามารถค้นพบคำตอบนี้ได้ก่อนนักวิทยาศาสตร์เสียอีก "ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงสิ่งสมมุติ ความจริงแท้นั้นไม่มี"
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ ก็เข้าใจตามมา "ความเป็นจริงก็ไม่ผิดกับภาพลวงตา แต่เป็นภาพลวงตาที่ไม่ยอมหายไป"
โลกใบนี้ จึงมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย ของความเชื่อ ขนบธรรมเนียม และ วัฒนธรรม
และต่างก็ตีค่าสิ่งต่างๆ ตามแต่กรอบแห่งการสมมุติของแต่ละคนที่ได้เรียนรู้มา
หากเดินบนทางสายกลาง เข้าใจธรรมชาติ เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ยอมรับความแตกต่างของกันและกัน ให้เกียรติกันและกัน น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์ดำรงชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างสันติสืบไป