22 ตุลาคม 2552 15:17 น.
ธันวันตรี
ต้นรักปลูกสี่ต้น ตายสาม
ยังแต่เดียวยอกความ วิโยคย้ำ
ชลนัยน์หลั่งล้นหลาม ไหลรด รักนอ
พี่แม่พ่อสุขล้ำ สถิตฟ้านิทราขวัญ
รำพันพิลาปย้อน วัยเยาว์
ใช่ว่ารักของเรา นิราศร้าง
ยังรักแผ่ร่มเงา ระบัดยอด
รอผลิดอกออกอ้าง อาจล้างรอยเหงา
เฝ้ารอยุพเรศเคล้า คลอกัน
นบนอบทวยเทวัญ ทั่วฟ้า
บนบานโปรดดลบัน- ดาลประสบ
พบมิ่งขวัญของข้าฯ คู่ชู้เฉกถวิล
เทวินทร์เลิศฤทธิ์แล้ว เมตตา
มอบยุพินเสาวภา รอบด้าน
ดุจพิรุณชื่นชีวา ต้นรัก เราแฮ
กระซิบรักดังสะท้าน ซ่านซึ้งถึงพรหม
ดมบุหงาหอมดอกแห้ง หอมหาย
หอมสิเน่ห์หอมมิคลาย กลิ่นฟุ้ง
สองเราต่างมั่นหมาย มุ่งร่วม หอเฮย
สุขรักราวลอดรุ้ง พาดโค้งประตูสรวง
ดวงดาวพราวพร่างพร้อย เพรานภา
อยากแหวกว่ายเวหา เก็บให้
ทุกสิ่งหากปรารถนา พึงบอก พี่รา
จะยากเย็นยิ่งไซร้ จักสร้างจักสรร
นับวันยิ่งซาบซึ้ง ทรวงใน
นับแต่พบทรามวัย เพริศแพร้ว
นับนานยิ่งหวานไหว ฤทัยสนิท เสน่ห์เฮย
นับร่นเวลาแล้ว ร่วมห้องเรือนหอ
........................... .....................
........................... .....................
........................... .....................
........................... .....................
ต้นรักปลูกสี่ต้น ตายสาม
ยังแต่เดียวก็ลาม เหี่ยวแห้ง
วอดหวังงอกดอกงาม แย้มสู่ โลกแล
ฤๅรักนั้นจักแล้ง หลอกให้ใจสลายฯ
10 ตุลาคม 2552 15:56 น.
ธันวันตรี
๏ อรุณอร่ามพร้อย นภาพราย
สุรีย์ฉาบแสงทองฉาย เฉิดฟ้า
ปรางค์มาศเทพระบาย บนแผ่น พิภพฤๅ
แลแอร่มอุไรท้า ทับหล้าถมสวรรค์ ฯ
๏ อรุณอร่ามแพร้ว
พรายเก็จแก้วแพรวพราวแสง
สีกระเบื้องเรืองสำแดง
แต้มตกแต่งแข่งลวดลาย
๏ ปรางค์มาศเทพนิรมิต
งามวิจิตรเกินบรรยาย
สุรีย์ฉาบแสงทองฉาย
งามเฉิดฟ้าท้าทับสรวง
๏ ระเมียรมณฑปแก้ว
วับวับแวววาวจับทรวง
โกสุมแซมดอกดวง
ทุกด้านเด่นโดยรอบปรางค์
๏ กินนรฟ้อนกินรี
เริงฤทธีศรีสรรพางค์
ยลยอดนพศูลสร้าง
แซมมงกุฏสุดโสภา
๏ ซุ้มประตูจตุรพักตร์
แยกเขี้ยวยักษ์ยืนรักษา
อารามริมเจ้าพระยา
ต่อเนื่องมาหลายร้อยปี
๏ สัญลักษณ์แห่งกรุงสยาม
เลื่องลือนามข้ามปฐพี
อรุณราชฯเรืองธานี
จวบบัดนี้และนิรันดร์
อรุณราชฯเรืองธานี
จวบบัดนี้และนิรันดร์......
8 กันยายน 2552 20:47 น.
ธันวันตรี
๏เดชะ องค์อุตมัตถ์สัจจโมกข์ เฉลิมโลกโลกุตร์
ไหว้วิมุติมิ่งผล ส่องสกนธ์ก่องแก้ว
แพรวโกมุทปรมัตถ์ น้อมไตรรัตน์เฉลิมขวัญ
นบเทวัญเทเวศร์ ทั่วแคว้นเขตสาคร กราบบิดรมารดา
อุปัชฌาย์คุณาจารย์ โปรดประทานสุขสันต์
หฤหรรษ์ทั่วหล้า ข้าจักลิขิตถ้อย จรรโลงร้อยคำกานท์
ให้แตกฉานอรรถรส ปรากฏเกียรติคู่ฟ้า
เจิดจรัสแหล่งหล้า สง่าแท้ผ่านไผท ไทยเทอญฯ
๏บุราณขานลือเลขเก้า หนุนเนื่องเนืองเนา
ก้าวหน้าฟูเฟื่องเรืองนาม
๏เหตุหั้นบรรจบครบตาม ถึงยังเก้ายาม
น้อมกานท์ถวายภูมินทร์
๏เอกองค์รัฐราษฎร์ยลยิน พ่อแห่งแผ่นดิน
แผ่นป่าแผ่นฟ้าสาคร
๏ไหว้เทพเทวาอมร เลิศการณ์คุณากร
นำพรอำนวยอวยชัย
๏เลิศล้ำจำรัสรัชสมัย ทวีนิรามัย
ตรายใดใดไป่มี
๏วอนไหว้ไตรรัตน์ฉัตรศรี ไพสิฐฤทธี
ประสิทธิ์ชีวาสถาพร
๏พระชนม์พละอดิศร กำจายกำจร
บวรเจิดจ้าอาจิณ
๏เฉิดฉัตรเฉลิมนามสยามมินทร์ ก้องฟ้าธานินทร์
เป็นปิ่นจักรีนิรันทร์เทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
สมาชิกบ้านกลอนไทย
7 สิงหาคม 2552 22:25 น.
ธันวันตรี
ณ ผืนนา
ม่านนวลแดงแต้มแต่งโค้งขอบฟ้าทางทิศตะวันออก ส่งสัญญาณย่ำรุ่ง
ควายตัวเก่าเดินเล่าเรื่องราว
ฝากรอยเท้าแทรกทรายละเอียดสีชมพูไปสู่จุดหมาย
ซากตอข้าวผุพังตามกาลเวลา ถูกไถกลบ
ลบเลือนรอยหมองหม่นในอดีต เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
เฆมดำทะมึนกำลังตั้งเค้าฝน พลางส่งเสียงก้องร่ำลาฟ้าฝาก
แล้วโรยตัวสู่ผืนแผ่นดินอย่างรีบเร่ง
สายฝนล้าแรง เริ่มโปรยปรายอย่างอ้อยอิ่ง
แสงสีขดโค้งต่างเบียดเสียดแทรกตัวดอมดมผืนแผ่นดิน
ธัญชาติเติบกล้า แตกกิ่ง
น้ำนองท้องนา หลายชีวิตเริ่มวัฏจักรการสืบทอดเผ่าพันธุ์
ข้าวกล้าน้อยค่อยเติบกล้าตามกาลเวลา เป็นข้าวกล้าสาวเขียวขจี
ข้าวกล้าสาวเริ่มตั้งท้อง และฝากครรภ์ไว้กับท้องทุ่ง
รอเวลาให้สูตินารีสาวนามาเก็บเกี่ยว
ฮ๊วก สีเสียด ระงำ ตับเต่า ต่างระริกร่างอยู่กลางลานน้ำ
ยั่วยวนสวิง ข่อง และดางแห ยิ่งนัก!
สายลมพัดโชยอย่างเขินอาย
พอให้ข้าวกล้าสาวตั้งท้องโอนเอนพลิ้วไหวไปมา
เริงระบำผ่อนคลาย
น่าสงสารนัก บางสาวก็ถูกชิงสุกก่อนห่ามไปเสียแล้ว!!
ข้าวเม่าใหม่หอมกรุ่น รสชาติยังหวานลิ้นทุกครั้งที้ลิ้มลอง
ดวงตะวันโน้มตัวลงต่ำทางฟากทิศตะวันตก
ทอประกายแสงสีส้มอมแดงจูบโลมปุยเมฆ
เขียดน้อย ร้องแอ๊บแอ๊บ ระเบ็งแซ่
ประหนึ่งไม่อยากให้ตะวันจากไป
น้ำในนาสะท้อนแสงอาทิตย์และก้อนเมฆสีส้มแดง งดงาม
วิถีแห่งยามค่ำกำลังตื่นและคืบคลานเข้ามาแทนที่
รัติกาลคลี่ม่านคลุม
หิ่งห้อย ลอยละล่อง ระยิบระยับ
ราตรีแห่งท้องนามิเคยหลับไหล
รอเวลาวันรุ่ง เพื่อเล่าเรื่องราววิถีอันเรียบง่ายอีกครั้ง
ณ ท้องนาผืนเดิม
ยังคงเล่าเรื่องราววิถีชีวิตอันเรียบง่าย บนผืนแผ่นดิน...
ยังคงเล่าเรื่องราววิถีชีวิตอันเรียบง่าย บนผืนแผ่นดิน...
24 กรกฎาคม 2552 19:08 น.
ธันวันตรี
โกสุมส่งกลิ่นซ้อน............ผสมผสาน
หอมห่มห้วงจักรวาล.........เพริศแพร้ว
ดอกธรรมร่วมเบ่งบาน ...บริสุทธิ์
สัมฤิทธิ์จิตผ่องแผ้ว..........ล่วงแล้วสัจธรรม
สรรพสัตว์หมู่มนุษยชาติ
ทั่วทั้งอวกาศเวียนไหว้วัฏสังสาร
สิ้นซากเกษมสันต์อนันตกาล
หากห่างพระนิรพาณเสกวิญญาณชน
สรรพสัตว์หมู่มนุษย์ชาติ
สิ้นสุดศาสตร์สถุลทรามสับสน
เมื่อพบวิมุติวิโมกข์มิ่งมนตร์
หลุดพ้นพิภพพินาศทาสจัญไร
พุทธองค์ทรงสั่งสอนส่ำสัตว์มนุษย์
ด้วยสัจธรรมวิสุทธิ์วิเศษศรีสมัย
เสพวิญญาณทิพย์ทวีนิรามัย
ชั่วฟ้าดาราลัยลับจักรวาล
ปาฏิโมกข์มิ่งฟ้ารุจิรรัฐ
อริยสัจสั่งสอนสถิตย์สมาน
อิทธิบาทบทบรมธรรมวิธาน
วิเศษวิศาลประเสริฐล้ำเลิศไกวัล
พานพบเพรงพุทธานุภาพ
พาขจัดคราบกิเลศตัณหาทุกสิ่งสรรพ์
ให้เวไนยสัตว์พ้นภัยสารพัน
ประสบสุขนิรันดร์สืบบุญขจรขจายฯ
.......ดอกบัวคลี่บาน
หมู่นกขับขาน......
......สายธารไหลอ้อยอิ่ง
เสียงสวมมนต์ดังกังวาน......
......กลับสงบแล้ว
ในห้วงสำนึก......