2 ธันวาคม 2552 11:18 น.
ธันวันตรี
๏ หยาดพระเสโทหลั่งท้น ท่วมไผท
ชโลมสุขชโลมใจ พสกซ้อง
เหนือใต้ออกตกไกล เกินกว่า พระบาทฤๅ
เยือนย่ำยินสุขร้อง ร่ำซึ้งสวัสดี
๏ สีเขียวพรมป่าไม้ จรุงเมือง
การเกษตรรุ่งเรือง จรัสหล้า
พอเพียงเพื่อประเทือง ประทินถิ่น ไทยเฮย
พระราชดำรัสผ่านฟ้า สู่แคว้นขวานทอง
๏ ขวานทองนามเกริกก้อง โลกา
ด้วยพระชาญปรีชา เชี่ยวล้น
ชนชาติต่างปรีดา ใต้ร่ม พระแฮ
ทรงหล่อรวมราษฎร์พ้น ผ่านร้ายราญรอน
๏ ยอกรเหนือเกศก้ม กราบพระองค์
พรพระศักดิ์สิทธิ์ประสงค์ สู่ไท้
ถวายพระพรพ่อหลวงทรง เจริญยั่ง ยืนเฮย
ยงอยู่คู่ชิดใกล้ กล่อมเกล้าพสกสยามฯ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
สมาชิกบ้านกลอนไทย
23 พฤศจิกายน 2552 13:27 น.
ธันวันตรี
๏ สายรุ้งคำนับโค้ง ภูไพร
สินธุกรูกระแสใส จูบพื้น
ส่ำสัตว์ดาษดื่นไป ทั่วป่า
สินทรัพย์สมบูรณ์ชื้น- ชุ่มน้ำทำกิน
๏ อินทรีสอดส่องคุ้ม ครองหาว
กาต่างมีสีขาว ผ่องแผ้ว
เขาชวาโฉบเฉี่ยวดาว สันติ
พิราบขาวผงาดแกล้ว กู่ก้องพสุธา
๏ ชาวประชากินอยู่เข้ม- แข็งกัน
การเกษตรรังสรรค์ รุ่งเรื้อง
ผลผลิตต่างแบ่งปัน บริโภค
เศรษฐกิจพอเพียง เบื้อง บาทไท้นำทาง
๏ โบสถ์วิหารปรางค์สถูปป้อม โอฬาร
ระบำเล่นรำขับขาน ครึกครื้น
วรรณศิลป์กล่อมวิญญาณ วิเศษยิ่ง
ศิลปะศิลปินฟื้น เฟื่องฟุ้งเฉลิมขวัญ
๏ ทุกวันทุกทุกบ้าน ทำดี
ทุกถิ่นศีลธรรมมี มากล้น
ทุกศาสน์พิสุทธิ์ศรี สมบ่ม บุญเฮย
ทุกมนุษย์ต่างหลุดพ้น ทุกข์ร้ายทุกประการ
๏ สื่อสารส่งดอกไม้ เจรจา
สัตย์มั่นเหมือนภูผา สง่าถ้วน
ปรองดอง ทั่วพารา สงบทั่ว
ยิ้มระรื่นเย็นชื่นล้วน รอบทั้งธรณิน
๏ ธรณินจรัสจ้า จักรวาล
ทุกมิติบูรณาการ เด่นด้าว
ธรรมชาติโยงผสาน สู่สม-ดุลแฮ
แลเลิศเจิดอะคร้าว เปรียบคล้ายพิมานแมน
๏ พิมานแสนสุขนี้ ใครสรรค์
ฤๅแค่เพียงความฝัน ใฝ่ฟ้า
ฤๅเราร่วมมือกัน หมายมั่น
สร้างสวรรค์สู่หล้า สุขหล้าแหล่งสยามฯ
1 พฤศจิกายน 2552 14:09 น.
ธันวันตรี
๏ ไฟประทีบอร่ามฟ้า เฟือนจันทร์
สายนทีสีสัน สว่างเรื้อง
ใบตองจีบอย่างบรร- จงจัด
ลอยกระทงขมาเบื้อง แม่เจ้าคงคา
๏ สีแสงแข่งสีสัน
ลางเลือนจันทร์อันแจ่มจ้า
กระทงน้อยลอยธารา
ขอขมาแม่นที
๏ ตั้งจิตอธิษฐาน
ขอพบพานสิ่งดีดี
ใดใดร้ายร้ายหนี
ชีวีชื่นรื่นร่มเย็น
๏ ลมหนาวลอยพัดพลิ้ว
กระทงลิ่วรี่แลเห็น
ลมหนาวคราวคืนเพ็ญ
ไม่หนาวเช่นหนาวทรวงใน
๏ ลอยลอยแลอ้างว้าง
ไม่เหมือนอย่างของใครใคร
เป็นคู่คลอกันไป
บ้างเป็นสายสายรายเรียง
๏ ทุกวันลอยกระทง
สักวันคงมีคู่เคียง
ภาวนาไร้ศัพท์เสียง
เสี่ยงความหวังฝากฝั่งชล
30 ตุลาคม 2552 13:18 น.
ธันวันตรี
๏ รอยเขม่าเพลิงแผดไหม้ หมองสถาน
รอยอริรุกราน ลุกฟ้อง
รอยอดีตรุ่งโรจน์จาร จารึก
รอยแตกยุแยกร้อง ร่ำไห้โหยหวน
๏ รอยไฟไหม้ผลาญเผา
ยังนานเนาผ่านเวลา
ชาวกรุงศรีอยุธยา
หลั่งน้ำตานองผืนดิน
๏ รอยอริมารุกล้ำ
มาหั่นห้ำให้สูญสิ้น
พ่ายพังทั้งธรณิน
ยิ่งยลยินยิ่งร้าวราน
๏ รอยอดีตเคยรุ่งเรือง
เคยฟูเฟื่องมายาวนาน
เหลือเศษซากสถาน
ไว้เล่าขานผ่านกาลสมัย
๏ รอยแยกยินเสียงก้อง
ดูเศร้าหมองร้องร่ำไห้
พินาศชาติบรรลัย
ไทยหนอไทย "ไร้สามัคคี"
๏ รอยกาลเหมือนเตือนให้
"ไทยรักไทย" ทั้งปฐพี
"อย่าให้ใครย่ำยี"
ขณะที่ "ไทยฆ่าไทย"
28 ตุลาคม 2552 15:19 น.
ธันวันตรี
๏ ร่องขุ่นร่อนจากฟ้า ลงดิน แลฤๅ
ถึงอัศจรรย์วิจิตรศิลป์ เสกสร้าง
บริสุทธิ์พุทธะระบิล ระเมียรแบบ
สถิตเสถียรสล้าง สฤษฏ์หล้าระบือสรวง
๏ เฉลิมชาติศาสน์กษัตริย์
โฆษิตพิพัฒน์วาดวัดวา
แลอร่ามงดงามตา
แพรวเพริศฟ้าจ้าจับสวรรค์
๏ สีขาวพราวบริสุทธิ์
เพียงผ่องผุดพุทธธรรม์
แก้วแวววาวสุริยัน
สะท้อนศิลป์จินตนาการ
๏ แทรกบทรสพระธรรม
ควรน้อมนำจำจิตจาร
อสูรเกรี้ยวแยกเขี้ยวมาร
ราวทุกข์ราญผลาญชีวี
๏ อุโบสถปรากฏสง่า
พุทธภูมิพาพิสุทธิ์ศรี
ปทุมทิพย์กลีบโสภี
สร้างไว้สี่ชี้อริยองค์
๏ เอกลักษณ์ฉลักเฉลา
สร้างศิลป์เราสืบมั่นคง
ธรรมาค่ายืนยง
สร้างสยามงามแท้จริง
...ธรรมาค่ายืนยง
สร้างสยามงามแท้จริง ๚ะ๛