18 เมษายน 2549 11:24 น.
ธรรมาภิวัฏ
กริ้งกริ้ง เสียงโทรศัพท์ดัง
เลยหมุนตัว บิดขี้เกียจ คว้าโทรศัพท์ขึ้นมารับ
ครับ แม่..
โทรมาตั้งแต่เช้าเลยนะ..
ยังไม่ตื่นเลย เพิ่งตื่นเมื่อตะกี๋นี้แหละ..
ครับ ครับ..
วันนี้เลยหรือ..
บ่าย เย็นๆ นู่นแหละจะถึงบ้าน..
ครับ ครับ ผมจะรีบไป..
สวัสดีครับ..
ลุกหยิบผ้าเช็ดตัว เข้าห้องน้ำ.. สักพักแต่งตัว.. จัดเตรียมสิ่งของดูว่าไม่ได้ลืมอะไร ดึงคันโยกสะพานไฟลง ล็อคลูกบิดประตูห้อง คล้องกุญแจ..
เดินมาถึงชั้นหนึ่งของหอพัก..
พี่เนียง.. ฝากดูห้องด้วยนะ จะกลับบ้านต่างจังหวัดสองสามวัน..
ม้วนวีดีโอที่พี่ยืมไป ฝากไว้ก่อนนะ กลับมาค่อยว่ากัน..
ขอบคุณมากครับพี่เนียง แล้วจะหาของติดไม้ติดมือมาฝาก..
ครับ.. ไม่ลืมครับไม่ลืม
ป้ายรถเมล์.. ยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกา.. เวลาสามโมงกว่าๆ ไม่สายมากเท่าไร คงไปถึงหมอชิตก่อนเที่ยง..
รถเมล์มา สาย 63 .. รีบวิ่งตาม.. จนกระทั่งได้ขึ้นไปนั่งบนรถ..
ตังค์ที่ให้ไม่พอดีหรือครับ..
อะไรนะ.. 8 บาทแล้ว..
เพิ่งจะขึ้นเมื่อเช้าเองหรือ.. ยื่นเงินเพิ่มให้ และ รับเงินทอน..
รถเมล์จอด.. รีบเบียดคนข้างๆ เดินลง..
อะไรวะ.. ขึ้นอีกแล้ว แถมยังไม่ถึงหมอชิต หมดระยะซะก่อนแล้ว รถเสริมก็ไม่บอกก่อน บ่นพึมพึมพำพำ
เดินลัดเลาะเข้าไปในสวนหย่อม ข้างๆ ห้างใหญ่กลางเมือง.. ระหว่างทางเดินในสวนหย่อม.. เหลือบมองไปเห็นคนแก่คุกเข่าสวดมนต์ไหว้ฟ้าไหว้ดินอยู่ปลกปลก..
เดินแวะเข้าไปใกล้ๆ.. ยกมือไหว้
ทำอะไรตา..
สวดมนต์ไหว้เทวดา..
อ๋อ.. เป็นหมอดู..
ไม่ล่ะครับ.. เงินไม่ค่อยมี ขอนั่งพักหลบแดดหายเมื่อยสักหน่อย
ขอบคุณครับ.. นั่งลงบนเสื่อที่คุณตาหมอดูปูไว้
สักพัก..
ไม่แพงหรือครับ..
ไม่ล่ะครับผมไม่ค่อยชอบดูหมอเท่าไร..
ดูให้ถูกถูก.. ? ไม่ครับ ขอบคุณครับคุณตา
ฟรีเลยหรือครับ.. ?
อ๋อ.. ตามศรัทธา..
เกิด.. 25 มีนา 25 ครับ ปี..
ปีจอ..
ไม่ใช่ปีจอ.. ทำไมล่ะครับ..
อ๋อครับ.. มันยังไม่พ้นสงกรานต์ปีใหม่ไทย.. มองดูคุณตาขีดขีดเขียนกระดานชนวน..
มองดูขี้ธูปหลุดจากก้านธูปตามแรงลม..
ลมพัด.. ใบไม้ร่วง.. เอนกิ่งอยู่ไหวไหว..
หันหน้ากลับมาสู่คุณตาตามเสียงเรียก..
อ่า.. ครับ.. เป็นคนดวงดี..
จะครองกิจการสามอย่าง..
มหาเศรษฐี 500 ล้าน เลยหรือครับ..
ไม่จริงมั้งตา.. ถ้างั้นผมขอยืมจ่ายค่าเทอมที่ค้างเค้าสักหมื่นหน่อยสิ.. เดี๋ยวรวยเมื่อไรจะเอามาคืนสักแสน..
พูดทั้งหัวเราะติดตลก..
เงียบฟังต่อ..
จะเสียเพราะผู้หญิง.. ยังไงครับตา
อืม.. อืม.. ครับ 23 24 ต้องระวัง.. แล้วคู่แท้หล่ะครับ..
อะไรนะ.. ตั้ง 34 จะรอไหวเหรอ ..
เทวดาบวกเลขให้ผิดหรือเปล่าตา.. พูดทั้งหัวเราะติดตลก แล้วเงียบฟังต่อ..
จะต้องย้ายถิ่นพำนัก..
คงใช่อะครับ.. ย้ายหอทุกเทอมอยู่แล้ว ย้ายเข้าย้ายออก หอนอกหอใน..
ครับ.. ผมจะระวังอุบัติเหตุขาซ้าย คุณตายื่นใบขาวขาวตัวหนังสือสีม่วงให้.. เป็นตารางดวงชะตา.. ดูเหมือนนามบัตร แต่เขียนว่ามุมด้านล่างว่า สมาคมโหรไทย.. พร้อมกับซองสีขาว.. เขียนตัวหนังสือแดงแดงว่า ค่าบูชาครู 299 บาท.. 299 บาทไทย..
ชะงักนิดนิด..
ล้วงธนบัตรสีแดง 3 ใบใส่ซองยื่นให้..
คุณตาลายมือดีสวยนะครับ.. คุณตายิ้มเล็กๆ.. พร้อมกับยื่นมือรับ แล้วพนมมือ หลับตา บ่นอุบอิบอุบอิบ เหมือนกำลังให้พร..
พนมมือค้อมหัวลงรับพร..
ไปล่ะครับคุณตา สวัสดีครับ คุณตารับไหว้
..บนรถประจำทางมุ่งหน้าสู่ต่างจังหวัดทางภาคอีสาน
นั่งที่นั่งขอบริมหน้าต่าง ดูทิวทัศน์รายทาง..
นึกนึกคิดคิด.. เรื่องราวสาระตะที่ผ่านมา..
คุณตาหมอดู..
แม่.. พ่อ.. ทางบ้าน..
คงกลับถึงบ้านมืดค่ำกว่าที่คาดไว้..
พระอาทิตย์แดงแดงคล้อยลงสู่ดงพุ่มไม้ไกลตาออกไป..
เสาลายต้นเมื่อกี้ผ่านไปแล้ว..
เสาลายต้นใหม่ข้างหน้ากำลังวิ่งเข้ามา..
มืดลงมืดลง.. จนกระทั่งไม่เห็นเสาลายต้นใดวิ่งผ่านตา..
11 เมษายน 2549 07:58 น.
ธรรมาภิวัฏ
เรื่อง:จมลงไป..
-------------------------------------------------------------------------------------บ้านเรา
---------------------------------------------11 เมษา 46
ถึงเธออันเป็นที่รัก..
..ในทุกๆวินาทีแห่งความคิดถึงช่างนานแสนนาน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฉันไม่เคยคิดถึงเธอ เวลาแห่งความเศร้าไม่เคยห่างไปไหนมันคอยทักทายเสมอๆ ภาพเก่าๆ ใช่.. ฉันมักจะพูดเสมอๆ ว่าฉันชอบลำน่าน เพราะฉันมีความรู้สึกดีที่นั่น ภาพนั้นมันผ่านไปก็นานเสีย.. นานมาก แต่หัวใจของฉันยังหวลระลึกนึกถึงมันเสมอ กับทุกวันนี้ที่เราต่างก็ต้องมองออกไปข้างหน้า ช่างแตกต่างกันยิ่งนัก ใช่.. การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แนวทางที่จะนำไปสู่ความเลวร้ายเสมอ การเปลี่ยนแปลงจากสิ่งหนึ่งไปสู่สิ่งหนึ่ง เพื่อนำไปสู่เหตุผลที่ดีขึ้นของชีวิต มันไม่มีความผิดอะไรที่จะต้องไปบีบคั้นเอาคำตอบกับใคร ในความรู้สึกผิดชอบอย่างจงใจ เพราะเราต่างรู้และมีคำตอบในมุมมองของตนเอง ความคิดและมุมมองของเรา คือตัวของเรา เรา.. ย่อมต่างไปจากกัน บนรากเหง้าที่ติดค้างในอดีตที่ต่างกัน จึงมองไม่เหมือนกันในวันนี้ แต่.. สิ่งหนึ่งที่เราเหมือนกันก็คือความเป็นคน ความรักความคิดถึงความสงสารความเห็นใจ จะมีในใจของเราทุกคนเหมือนๆ กัน เพียงแต่ว่า เราจะให้น้ำหนักความสำคัญของมันมากเพียงไหน.. ความผิดถูกจึงแยกออกไปไม่ได้ ถึงแม้วันนี้น้ำหนักของมันช่างเบาบางยิ่งนักในใจของเธอหากเปรียบกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ก็นับว่าน้อยเหลือ.. เหลือเกิน ที่จะเบนให้ถึงซึ่งความเข้าใจในมุมมองของฉัน แต่สำหรับฉันแล้ว.. น้ำหนักตรงนี้มันยิ่งหนักนัก หนักเกินกว่าที่จะวางมันลงไปได้ จดหมายฉบับนี้คงไม่ต้องได้ตัดพ้อกันว่าใจดำ ฉันรู้ เข้าใจ แต่ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากเข้าใจ ฉันจึงปฏิเสธมันเสมอมา..
"เราจะประคับประคอง" มันหายไปไหน ไม่รู้เหมือนกัน ทิ้งไว้กับอดีต เพื่อที่จะก้าวต่อไป กับอนาคตที่เธอว่า"เรื่องของชั้น จะทำอะไรก็เรื่องของชั้น วันนั้นก็วันนั้น วันนี้ก็วันนี้ วันนั้นไม่เหมือนวันนี้ วันนี้จึงต่างกัน" ถึงบทของมัน.. น้ำตาก็แทบจะเล็ด บทจะฆ่ากันให้ตายก็ไม่อาลัยอะไรเลยสักอย่าง มองเห็นแต่ความเลว.. แม้ถึงจะมองไม่เห็น ก็ยังว่าฉันเห็น อย่างนั้นแหละมันเลวร้ายเสียยิ่งกระไร สมเหตุผลแล้ว ลุแก่เหตุผลแล้ว จึงได้เหตุผลแล้วอย่างนี้แหละ มันจะสมคะเนยิ่ง ใช่.. แน่นอน ฉันผิด แต่เราจะยอมรับไหมหล่ะ ว่าเราต่างก็ผิดเหมือนๆ กัน และก็แน่หล่ะคงไม่มีใครทำถูกไปเสียหมด หากเธอถูกและฉันถูก เราก็ถูกเหมือนๆ กัน คงไม่ต้องมานั่งเสียใจจนป่านนี้ นั่นหน่ะสินะฉันรู้ว่าฉันเสียใจ แต่เธอหล่ะ..?
..ได้โปรดอย่าคาดคะเนว่าคิดแทน เพราะคงไม่มีใครคิดแทนใครได้ ฉันเพียงแค่คาดเดา มิได้มีเหตุชี้แจง หรือชักนำอันใด ฉันยอมรับว่าฉันผิด ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คาดเดา แต่ขอแสดงความคิดเห็นบ้างได้ไหม เพราะฉันกินข้าว จึงเดินได้และคิดเป็น อย่างนั้นก็อย่ามาเหยียดว่าไม่มีความคิด ไม่มีเหตุผล และไม่เข้าใจอะไรเลย..
..ในความเป็นจริงที่ตื้นเขินของปํญหา ได้โปรดอย่าปฏิเสธว่ามันลึกกว่านั้น มันตื้นอย่างที่ตาเราเห็น เดินออกไปนอกบ้านสิ ถ้าเจอผู้ชายคนไหน ก็ลองถามคำถามอย่างเดียวกันดู ดูสิว่า จะได้คำตอบแบบเดียวกันบ้างไหม และด้วยความเป็นธรรมอันที่ไม่ค่อยจะหาเจอในโลก ลองถามคำถามแบบเดียวกันนี้กับผู้หญิงทุกคน เขาจะให้คำตอบเช่นไร มันจะตรงหรือต่าง.. ไม่รู้..?
..หรือจะตัดหัวตัดท้ายรวบยอดหล่ะว่า ใช่แล้ว.. ฉันไม่แคร์ ไม่ใส่ใจ ไม่คิดว่าจะให้เป็น เพราะไม่คิดแต่แรกแล้วว่าจะให้เป็นไป ปฏิเสธออกไป บ่ายเบี่ยงออกไป ก็ไม่ได้พ่ายแพ้แก่ปัญหานี่.. แค่ปัดมันออกไป อย่างไม่เป็นปัญหา..? ..? ..?
..อย่าได้ตีค่าความรักเป็นราคาแห่งเหตุผล ยามเมื่อที่เราสิ้นเหตุผลใช่ว่าความรักจะสิ้นไป แล้วหากถ้าสิ้นรักไป แล้วเหตุผลอันใดหล่ะ ที่เราจะยังอยู่.. เมื่อใดที่ไม่เหลืออะไรอีกแล้วในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นราคา หรือคุณค่า โปรดนึกถึงความรักนี้..
..ทุกวันที่ฉันยื้อ เพราะต้องการให้ยืดยาวและมั่นคง ในความมั่นใจ.. มือข้างหนึ่งที่พยายามตะกายเข้าหาฝั่ง มือข้างหนึ่งที่ฉุดรั้งเธอเอาไว้ เธออย่าได้หมดแรง อย่าได้สิ้นหวัง.. แต่พลันปัดป่าย ให้มันยิ่งจมลงไป เราก็ยิ่งจะจม สุดท้ายฝั่งก็คงไม่ถึง เป็นแค่คลื่นระลอก วงน้ำกระเพื่อมยามตะเกียกตะกาย กระทบตลิ่งแล้วก็คงจะกลืนหาย ไม่มีความหมายอะไร..
ไม่มีความหมาย..?
..จากความคิดถึงลำน่านแต่ก่อนนั้น จนถึงวันนี้ ด้วยความรัก ฉันก็ยังหนักแน่นในใจอยู่เสมอๆ ใช่จะหาเรื่องราวเสแสร้งใส่ร้าย หากแต่ความรักและความคิดถึงที่หนักอก จึงเพ้อๆพร่ามๆ เพราะว่ารักหนักหนา คิดถึงหนักหนา ทั้งเมื่อตื่นลืมตา หรือว่าข่มตาหลับ มันคอยถามย้ำในใจเสมอๆ "เธออยู่ไหน เธอทำอะไร เธอเหงามั้ย เศร้าหรือเปล่า จะมีใครบ้างไหมหนอคอยดูแลห่วงใย ปลอบใจ ในยามที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร"
..โปรดรู้ไว้เถิดว่า ยามเธอเหงา เราก็เหงาไม่ต่างกัน
..โปรดรู้ไว้เถิดว่า ยามเธอเศร้า เราก็เศร้าไม่ต่างกัน
..กลับมาเถิดที่รัก..
เรื่องราวร้ายๆ ได้โปรดให้อภัย และสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นจากอะไร หรือเหตุอันใด.. ได้โปรดปล่อยวางมัน ให้อภัยแก่กัน แล้วกลับคืนมาเถิด มันจะไม่มีวันสาย หากเราต่างคนต่างคิดจะแก้ใข
-----------------------------------------------------------------------------ด้วยรักที่คงมั่น
------------------------------------------------------------------------ด้วยคืนวันไม่ผันแปร
----------------------------------------------------------------------------คนเดิมของเธอ..