17 สิงหาคม 2551 23:02 น.
ธมกร
ไ ม้ ใ บ กั บ ไ ม้ ก ว า ด
วันคล้ายวันเกิดอีกโอกาส
ทำบุญกับไม้กวาดในอาศรม
อรุณอุ่นแรงแสงแดดคม
ปลิดทิ้งใบสักถมทับทวี
เพื่อดอกจะผลิผลจะเผย
ลูกเอ๋ยใบใด...ใครเป็นพี่
เลือดเนื้อของแม่คนดี
ยอมพลีชีวิตอุทิศน้อง
บางกิ่งของแม่แก่ระกะ
ก็จะตามเจ้าอย่าเศร้าหมอง
กล้าเกิดกล้าตายอย่างไตร่ตรอง
กล้าปองปรารถนาค่าแห่งตน
เพียงไม้ กวาดไม้ กระจายกลิ้ง
กรวดทรายพรายพริ้งขึ้นอีกหน
สัมผัสแห่งเท้าเพรากมล
โลกยิ้มแยบยล...ลมชื่นเย็น
ร่มลานอาศรมกับใจใส
รุ่มร้อนใดใดมิได้เห็น
พิงสักพักไม้กวาดปาดเหงื่อกระเซ็น
ร่วงเป็นกวาดเป็น...เห็นสุขแท้
ศิวกานท์ ปทุมสูติ
ทุ่งสักอาศรม
๑๗สค.๕๑
17 สิงหาคม 2551 16:55 น.
ธมกร
เ ร า มี ท า ง
อย่าท้อเลยที่รักถ้าจักหวัง
ก้าวขึ้นฝั่งปรารถนาโพ้นผาหิน
เราช่วยกันสรรค์สร้างทางชีวิน
ให้ผาราบลงเป็นดินให้เราเดิน
อย่าหวั่นเลยที่รักถ้าจักใฝ่
มุ่งไปสู่ภูไพรและเถื่อนเถิน
ถึงป่ารกปกคลุมลุ่มไหล่เนิน
เรามิใช่ส่วนเกินอริญญิกา
อย่ากลัวเลยที่รักถ้าจักรื้อ
ขวากหนามลงด้วยมือที่แกล้วกล้า
แม้ต้องเจ็บปวดบ้างบางเวลา
ความรักจะเยียวยาให้หยัดยืน
อย่าสงสัยในรักเลยที่รัก
เมื่อตระหนักในน้ำใจที่หยิบยื่น
เมื่อเชื่อมั่นในมรรคาแห่งวันคืน
ว่านักสู้คู่ชื่น คือสองเรา
อย่าสับสนในเส้นทางเลยที่รัก
เมื่อสมัครใจปองอย่าหมองเศร้า
มีแก้วมณีหรือกรวดทรายปลายทางเรา
ก็ไม่สำคัญเท่าเรามีทาง
ศิวกานท์ ปทุมสูติ
17 สิงหาคม 2551 16:21 น.
ธมกร
สั ม ผั ส ทิ พ ย์
[ประดุจแย้มเดียงสาสวรรค์]
เม็ดฝนกับหลังคาสังกะสี
บรรสานดนตรีที่เพราะพร่าง
บรรโลมลำนำชื่นฉ่ำวาง
จังหวะหัทยางค์อันชื่นเย็น
นอนแคร่ชายคาละอองสาด
ชุ่มหมาดซีกกายไม่รู้เห็น
รู้รับแต่ซับสุขกระเซ็น
ดอกดินกระเด็นน่าเด็ดดอม
ไม่คิดที่จะกระเถิบหนี
ล้ำลึกรู้สึกนี้เก็บถนอม
เหมือนย้อนเยาว์วัยได้อวลออม
อัศจรรย์อกอ้อมธรณิน
เปาะแปะ เปาะแปะ โปรยปราย
หลายครั้งหลายคราไม่เคยถวิล
มัวแต่หลบร่มบังฝนหลั่งริน
ไม่ดื่มกินคีตาชลาทร
เม็ดฝนกับหลังคาสังกะสี
หยาดพัชรมณีมิหยุดหย่อน
ไหนเลยจะรู้หากคู้นอน
ห้องหับซับซ้อนซ่อนหัวใจ
เปาะแปะ เปาะแปะ โปรยพรำ
โอ้โศลกลำนำอันยิ่งใหญ่
ขอบคุณอรุณรุ่งที่เปลี่ยวไร้
ทำให้จิตสงัดสัมผัสทิพย์
ธมกร (ศิวกานท์ ปทุมสูติ)
กว่าจะข้ามขุนเขา (ด้วยปลายมีดของเธอและฉัน)
14 สิงหาคม 2551 00:04 น.
ธมกร
โพสต์นี้ มีบทกวี "ไทไฮกุ" (๓ วรรค) มาฝากครับ
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ตั้ ง ไ ข่
(ไทไฮกุ)
ขี่คอพ่อโพกผ้า
กู้ชาติกู้ประชาสำนึก
ตั้งไข่อนาคต
ศิวกานท์ ปทุมสูติ
หมายเหตุ
ฉันทลักษณ์ ไฮกุ ง่ายๆ คือ
วรรคแรก ๕ คำ
วรรคสอง ๗ คำ
วรรคสาม ๕ คำ
วรรคแรกกับวรรคสองเดินความสืบเนื่องกัน (จะให้สัมผัสกันก็ได้)
ส่วนวรรคสามให้ฉีกความออกไปไกลๆ แต่เป็นเรื่องเดียวกัน
10 สิงหาคม 2551 20:43 น.
ธมกร
"มียาอะไรไหมที่ช่วยให้หลับแล้วไม่ต้องตื่นอีก"
ชอบประโยคอันมีนัยแห่งปริศนาธรรมที่คุณยอดรัก สลักใจ กล่าวไว้ในวาระสุดท้ายของชีวิตนี้ยิ่งนัก
เราท่านทั้งหลายลองถอดปริศนาธรรมนี้กันดูเถิด แม้คุณยอดอาจไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนมาก (เพราะเข้าใจสภาวธรรมแห่งการก้าวข้ามพรมแดนสำคัญนั้นแล้ว) แต่เราต่างชวนกันครุ่นคำนึงได้...และใคร่ครวญต่อไปอีกว่า ดั่งนั้นแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ของเราผองล่ะ ควรให้อะไรแก่ความมีอยู่และเป็นอยู่...ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
ขอความสุขซึ้งในเสียงเพลงที่คุณยอดรักได้มอบไว้แก่ผู้ฟังทั้งหลาย จงเป็นอานุภาพพลังให้ดวงวิญญาณของคุณยอดรักได้รับสุขและสุคติในสัมปรายภพตลอดไป
...
และในโพสต์นี้ ขอนำบทกวี "น้ำค้างที่รัก" มาสู่กันอ่านครับ
น้ำค้างที่รัก
[ด้วยจิตพิสุทธิ์เป็นเดิมพัน]
กว่าจะข้ามขุนเขา [ด้วยปลายมีดของเธอและฉัน] , ธมกร [ศิวกานท์ ปทุมสูติ] , ๒๕๔๙
.
เธอก้าวเข้ามาแต่ครานั้น
ในทางที่ฉันสรรค์สร้าง
ยอมพลีชีวิตอุทิศวาง
ให้ฉันนำทางทุกย่างเท้า
ศรัทธาแห่งเธอคือน้ำค้าง
เปราะบางบนใบหญ้ายอดเขา
หวาดแดดหวั่นลมรุกเร้า
จึงหวังยุดฉุดเช้าให้ยาวยืน
เธอก้าวเข้ามาถึงครานี้
ไม่มีไม่เห็นเส้นทางอื่น
จนหายไปในฉันและวันคืน
กลืนทั้งชีวิตจิตวิญญาณ
น้ำค้างที่รักของใบหญ้า
ที่สุดแดดจ้าจักพร่าผลาญ
หรืออาจบางทีมิช้านาน
ความเป็นเราจะร้าวรานเพราะตั๊กแตน
ฉันอยากให้เธอเตรียมใจ
วันหนึ่งเราจะไร้กันไกลแสน
ทั้งมิอาจกำหนดสิ่งทดแทน
นอกจากแก่นชีวันแห่งมรรคา
เรามีกันและกันในวันนี้
เพื่อไม่มีกันและกันในวันหน้า
ฝึกไม่มีทั้งที่มีอยู่ปรีดา
เพื่อยิ้มกับน้ำตาเมื่อลาร้าง
อย่ากลัวแดดแรงเลยที่รัก
แดดจะฟักฟูมเธออกฟ้ากว้าง
จะโอบกอดยอดใบให้ฉันพลาง
แล้วเราต่างจะเห็นเส้นทางจริง