8 กุมภาพันธ์ 2549 13:00 น.

ที่สุดแห่งความรัก

ทิวฟ้า ทัดตะวัน

ที่สุดแห่งความรัก

 

 

                          ๏  รักกันแต่แรกเมื้อ                       หนเห็น

             รักเริ่มแต่การเป็น                                         เพื่อนพ้อง

             รักได้จากเทียวเข็น                                       หาค่ำ    เช้านอ

             จะรักใดรึก็ร้อง                                            เร่งเร้าเสมอกัน  ฯ

 

                          ๏  นวลจันทร์นวลเด่นด้าว              แดนสวรรค์

             ลอบเล่นรักหฤหรรษ์                                     หับห้อง

             กรอกโกรกเกริกกระสัน                                กายกระเส่า

             ใยเยื่อใยรักคล้อง                                        ขาดคว้างเมื่อคลายเสียว  ฯ

 

                          ๏  ไออุ่นไอโอบเอื้อ                          แอบอก

             คราบใคร่คราบไคลรก                                 รากทิ้ง

             ซากเสกสาบสกปรก                                     ปาดปลิด           ไปเนอ

             คงแต่พราวพร้อมพริ้ง                                 พร่างพร้อยรักพรหม  ฯ

 

                          ๏  รักใสรักขุ่นล้วน                          ลมหวิว

             แล่นเรื่อยฉะเฉื่อยฉิว                                    ฉาบล้อ

             หลอกเล่นระเรียวริว                                   เร้นสลับ               เรียงแม่

             ทำระทดทิ้งท้อ                                            แถกเทิ้มระทมระทวย  ฯ

 

                          ๏  รักเทียมฤรักแท้                          ท้นวิมาน

             รักหน่อยฤรักนาน                                        เนื่องน้าว

             รักลูกฤรักหลาน                                          ของลูก  ท่านนอ

             รักเรียบฤรักร้าว                                          แหลกเรื้อเหลือเหลว     หมดเฮย  ฯ

 

 

ทิวฟ้า    ทัดตะวัน

กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙

 

				
14 ธันวาคม 2548 12:21 น.

เจ้านกขมิ้นเหลืองแก่

ทิวฟ้า ทัดตะวัน

๏  เจ้านกขมิ้นเหลืองแก่

                                                    เจ้ายักแย่ยักย้อนไปนอนไหน

                                                    อยู่เมืองกรุงเล่าก็จัญไร

                                                    อยู่บ้านนอกไซร้ก็อัปรีย์

 


                                                    บินร่อนอ่อนแรงฝ่าแสงจ้า

                                                    เนิ่นนานแล้วอ้าจึ่งหมองสี

                                                    จากเหลืองอ่อนอ่อนอยู่ดีดี

                                                    บัดนี้เหลืองไหม้คล้ายนกเทียม  ฯ

  



                                                    ๏  แผ่นดินถิ่นเกิดแต่ปางเก่า

                                                    ก็ไร้เงาเจ้าเยื้อนมายาตรเยี่ยม

                                                    หรือหลงป่าฝาบ้านอะลูมิเนียม

                                                    เหนียมเหนียมอย่างเจ้าเล่าอยู่เป็น

                                                         


                                                   หรือหลงใหลไพรป่าพนากว้าง

                                                    อ้างว้างโดดเดี่ยวไม่เหลียวเห็น

                                                    คืนค่ำย่ำดึกให้ลึกเย็น

                                                    ด้วยน้ำค้างแล่นเล่นอยู่บนกาย  ฯ

 



                                                    ๏  พี่เที่ยวค้นเที่ยวหาทั่วหล้าโลก

                                                    ไม่เห็นเจ้าเศร้าโศกโตรกใจหาย

                                                    แต่ค่อนคืนตื่นเช้าเข้าจำงาย

                                                    เปล่าดายเสาะหามานานปี  ฯ

  



                                                    ๏  โธ่โถโอ้เจ้านกขมิ้น

                                                    เจ้าสิ้นเสียแล้วหรือนี่

                                                    ปีกหางงามเหลืองเรืองรวี

                                                    ไป่มีงามเหลือระเรื่อแล้ว  ฯ

 



                                                    ๏  นกขมิ้นเหลืองอ่อนร่อนเวหา

                                                    จนกายาเหลืองแก่เสียแน่แน่ว

                                                    ไร้ชื่อไร้เสียงไร้วี่แวว

                                                    ไร้แก้วมณีที่เฝ้าควาน  ฯ

 

 

   ขณะนี้บ้านบทกวีหลังใหม่สมบูรณ์แล้วเชิญแวะเข้าไปเยี่ยมชมได้เล ยนะครับ

ที่ http://tuephar.cjb.ne				
29 ตุลาคม 2548 12:47 น.

กล่องดวงใจ

ทิวฟ้า ทัดตะวัน

๏  โอ้ดวงเอ๋ยดวงใจใช่ใจหรือ
ที่ว่าใจใจคืออะไรแน่
เฝ้าล่อหลอกลวงตนจนผันแปร
เอาใจแลดูใจให้ใจรู้


เอาใจแลดูกายให้ตายดับ
เอาใจค้นความลับที่ใจอยู่
เอาใจสอนสั่งใจไว้เป็นครู
เอาใจล้างศัตรูของดวงใจ  ฯ


๏  โอ้ใจเอ๋ยเคยอยู่แต่ในกล่อง
มิได้ล่องแล่นออกไปนอกไหน
เวียนวนด้นมาแต่ไรไร
ก็ยังเวียนด้นไปอยู่ในนั้น


มืดมิดปิดฝาสนิทแนบ
แคบแคบคับแค้นด้วยแผ่นคั่น
เป็นห้องช่องชิดสนิทกัน
ผลักผันดันเล่นไม่เว้นวาย



จากห้องสู่ห้องล่องลิ่วลิ่ว
แล่นฉิวเร็วไวดั่งใจหาย
บัดดลเรืองเด่นดังเพ็ญพราย
เพริศเพริศเฉิดฉายฉ่ำฉ่ำนวล


บัดเดียวเดี๋ยววิ่งลงดิ่งดับ
บัดเดียวเดี๋ยวกลับไปคืนหวน
ร่อนร่อนเร่เร่เรเรรวน
ตามแต่กล่องจะเซซวนไปทางใด  ฯ



๏  พาใจเปิดใจให้หลุดกล่อง
เพื่อใจไม่ต้องเมื่อกล่องไหว
เพื่อใจไม่เปลี่ยนเวียนห้องไป
เพื่อใจพ้นกล่องครองเสรี   ฯ



เยี่ยมชมบ้านบทกวี  ของ  ทิวฟ้า  ทัดตะวัน  ได้ที่  http://tuephar.pantown.com
				
29 ตุลาคม 2548 12:42 น.

กล่องดวงใจ

ทิวฟ้า ทัดตะวัน

กล่องดวงใจ


๏  โอ้ดวงเอ๋ยดวงใจใช่ใจหรือ
ที่ว่าใจใจคืออะไรแน่
เฝ้าล่อหลอกลวงตนจนผันแปร
เอาใจแลดูใจให้ใจรู้

	
เอาใจแลดูกายให้ตายดับ
เอาใจค้นความลับที่ใจอยู่
เอาใจสอนสั่งใจไว้เป็นครู
เอาใจล้างศัตรูของดวงใจ  ฯ


๏  โอ้ใจเอ๋ยเคยอยู่แต่ในกล่อง
มิได้ล่องแล่นออกไปนอกไหน
เวียนวนด้นมาแต่ไรไร
ก็ยังเวียนด้นไปอยู่ในนั้น


มืดมิดปิดฝาสนิทแนบ
แคบแคบคับแค้นด้วยแผ่นคั่น
เป็นห้องช่องชิดสนิทกัน
ผลักผันดันเล่นไม่เว้นวาย



จากห้องสู่ห้องล่องลิ่วลิ่ว
แล่นฉิวเร็วไวดั่งใจหาย
บัดดลเรืองเด่นดังเพ็ญพราย
เพริศเพริศเฉิดฉายฉ่ำฉ่ำนวล


บัดเดียวเดี๋ยววิ่งลงดิ่งดับ
บัดเดียวเดี๋ยวกลับไปคืนหวน
ร่อนร่อนเร่เร่เรเรรวน
ตามแต่กล่องจะเซซวนไปทางใด  ฯ



๏  พาใจเปิดใจให้หลุดกล่อง
เพื่อใจไม่ต้องเมื่อกล่องไหว
เพื่อใจไม่เปลี่ยนเวียนห้องไป
เพื่อใจพ้นกล่องครองเสรี   ฯ
				


เยี่ยมชมบ้านบทกวี  ของ  ทิวฟ้า  ทัดตะวัน  ได้ที่  http://tuephar.pantown.com


				
26 มกราคม 2548 14:16 น.

ทิวกว้าง ฟ้าไกล จิตใจ เท่าใดหรือ

ทิวฟ้า ทัดตะวัน

ทิวกว้าง    ฟ้าไกล    จิตใจ   เท่าใดหรือ  

	๑...
	  ทิว  ทุ่งทิวท่งท้อง		ทิวทิว
 กว้าง  ใหญ่กว้างเวิ้งวิว			กว่ากว้าง
ฟ้า      ครามครอบรวงริว			เรียวทุ่ง
ไกล     สุดสายตาว้าง			ว่างเวิ้งเวิงทิว  ฯ
                     ๒...
	  เหลืองงามอร่ามเรื้อ		เหลือเหลือง
ทิวทุ่งทิวรองเรือง			สุดหล้า
ทาทาบดุจทองเทือง			ทิวทุ่ง
เรืองระยับย้อยย้า			ย่าย้อยระยิบยวง  ฯ
	๓...
	  ไกลเขตไกลขอบฟ้า		ไกลแสน
ไกลสุดเกือบเกินแดน			เขตกั้น
ไกลจรดจบเมืองแมน			เนาอยู่     นั้นนา
ไกลกว่าไกลกว่านั้น			กว่านี้มีฤา  ฯ
	๔...
	  กว้างใดกว้างเท่ากว้าง	                     แดนใจ
ไกลเท่าไกลใดไกล			จิตนี้
ขอบเขตแห่งหนใด			เท่าเขต     ใจนา
ไกลกว่าไกลสุดชี้			ฉุดให้แลเห็น  ฯ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทิวฟ้า ทัดตะวัน
Lovings  ทิวฟ้า ทัดตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทิวฟ้า ทัดตะวัน
Lovings  ทิวฟ้า ทัดตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทิวฟ้า ทัดตะวัน
Lovings  ทิวฟ้า ทัดตะวัน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงทิวฟ้า ทัดตะวัน