28 เมษายน 2552 17:19 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
..วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน..ฉันโทรหาเธอเพื่อขอพรในวันเกิดของฉันจากเธอ..
เมื่อเสียงของคำว่า" เบริดฺเดย์ จ๊ะ " เล็ดลอดผ่านเข้าสู่โสตประสาทของฉัน
มันไม่ได้ส่งตามกระแสเลือดไปไหนเลย..นอกจากหัวใจของฉันเพียงอย่าง
เดียว..และแล้วสมองของฉันก็สั่งงานว่า ใช่แล้วน้ำเสียงแบบนี้และ...
คำคำนี้ฉันปารถนาที่จะได้ยินมาเกือบจะครึ่งชีวิตของฉัน... ฉันเพิ่งสมใจ..
ในวันเวลานี้นี่เอง.. แม้แต่คนของฉัน ฉันยังไม่เคยได้ยินคำนั้นหลุดออก
จากปากของเขาเลยในตลอดห้วงแห่งวันเวลาที่เขาอยู่กับฉันมาตลอดเวลา
13 ปี..แต่เธอสามารถให้ความสุขจากคำพูดของเธอเพียงไม่กี่คำแก่ฉันได้
..รู้มั้ย มันทำให้ความรัก คความศรัทธา ที่ฉันมีต่อเธอเพิ่มพูนขึ้นมา....
จนฉันไม่สามารถจะเขียนมันออกมาเป็นตัวอักษรได้..ฉันรู้เพียงแต่ว่า..
ความสุขในหัวใจของฉัน..มันล้นทะลักออกมาจากหัวใจของฉัน และมันค่อย..
ค่อยไหลผ่านกระแสเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกาย.. หล่อเลี้ยงขีวิตของฉัน...
มันทำให้ฉันมีพลังแห่งชีวิตขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ....
ฉันอยากจะสารภาพอะไรกับเธอบางอย่างว่า..เพียงในเวลาที่เธอได้อวยพร
ให้กับฉัน ..ความรู้สึกของฉันในเวลานั้น มันบอกกับฉันว่า..ฉันไม่ต้องการ
คำอวยพรจากใครอีกแล้วในวันเกิดของฉัน..ถึงจะมีแต่ก็ไม่สามารถทำให้
ฉันมีความสุขเหมือนกับคำของเธอเลย ไม่มีจริงจริง..ฉันกล่าวขอบคุณเธอ
และบอกกับเธอว่าประทับใจมากกับคำว่า " เบริดเดย์ " ของเธอ เพราะว่า..
ฉันไม่เคยมีใครอวยพรให้ เธอถามว่าทำไม ฉันบอกว่า ฉันไม่บอกใคร
ฉันจะอวยพรให้ตัวเองคนเดียวและเธอก็..กดเพลง แฮปปี้เบริดเดย์..
จากโทรศัพท์มือถือของเธอให้ฉันฟังจนจบเพลง " ขอบตุณค่ะ "..
นั้นเป็นคำพูดของฉันที่ขอบคุณค่อเธอ....
วันนี้ฉันมีความสุขอย่างมากมาย..ในวันเกิดของตัวเอง เพราะมีเธอในชีวิต
ของฉัน...ฉันขอบคุณฟ้าที่มอบเธอมาให้ฉันรู้จัก และให้ฉันได้มีสัมพันธ์
อันงดงาม แม้จะเป็นได้แค่คำว่า " เพื่อน " เท่านี้นฉันก็ดีใจ และรักเธอ
มากกว่าตัวของฉันเองเสียอีก.....รักเธอ คนดีของฉัน
ทิพย์โนราห์ พันดาว
21 เมษายน 2552 20:28 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
ในวันนี้ ฉันมานั่งนึกทบทวน ถึงเรื่องราวของเราสองคน ที่ผ่านมาในวันวาน
มันเนิ่นานมาเหลือเกินสำหรับฉัน.. มีเรื่องราวหลายอย่างผ่านเข้ามาในชีวิต
ของเราสองคน.. นับตั้งแต่เราเจอกันในวันแรก มีทุกข์ มีสุข หัวเราะ และ
ร้องไห้..แต่มันก็ไม่สามารถทำให้เราสองคนแยกจากกันได้เลย เพียงครู่เดียว
ที่เราไม่เข้าใจกัน สำหรับฉันมันเหมือวันเวลาอันยาวนาน ฉันไม่สามารถ..
รับรู้ได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น...จิตใจวุ่นวาย สับสน วนคิดถึงแต่เธอ...
และความเสียใจก็ตามมา และน้ำตาแห่งความร้าวรานก็ถาโถม.เข้ามาจน
ฉันไม่สามารถกักกั้นน้ำตาไว้ได้ ฉันรู้สึกเหมือนใจจะขาด ถ้าเธอจากฉันไป
และถ้าเธอจากฉันไปจริงๆ ฉันคงไม่มีอะไรเหลือเลยในชีวิต...
แน่นอนฉันคงต้องอยู่แบบโดดเดี่ยว และว้าเหว่เป็นที่สุด ฉันมีความสุข...
เมื่อฉันได้เขียนบันทึกถึงเธอ ได้นึกถึงใบหน้าเธอ และได้ยินเสียงของเธอ
ที่ผ่านเข้ามาในโสตประสาทและผ่านเข้าสู่หัวใจของฉัน ไม่มีวันเลยที่ฉัน..
จะลืมเธอ ทำไมนะในชาติก่อน เราสองคนเคยแยกคู่รักคนอื่นเขาหรือเปล่า
ในช่วงเวลาของชาตินี้ เราถึงต้องแยกจากกันทั้งๆ ที่เรารักกัน..
..ถ้าเป็นจริงฉันก็คงไม่เรียกร้องสิทธิอะไร ในชาตินี้หรอก เผื่อว่าชาติหน้า
เจ้าแห่งชิวิตของเราสองคนจะดลบันดาลให้เรารักกันในชาติหน้าก็ได้นะ..
...ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของสากลโลก และผู้เป็นเจ้าฟ้าที่ลิขิตชะตาชีวิต
ของเราสองคน ขอให้เราสองคน สมหวังในความปารถนาในครั้งนี้..
ด้วยเถิด และขอให้สัมฤทธิ์ผลภายในชาตินี้ด้วยเถิด...เนื่องจาก..
เราสองคนมีความปารถนาตรงกัน ขอท่านจงเมตตาแก่ข้าและคนรัก
ของข้าด้วยเถิด " เธอพอใจใชไหมกับการกล่าวขอแด่กามเทพ แห่งสวรรค์
ในเบื้องบนครั้งนี้ ฉันอยากให้เธอพอใจ...นะคนดีของฉัน...รักเธอ
ทิพย์โนราห์ พันดาว
21 เมษายน 2552 19:45 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
..ในสายลมแห่งความหนาวเย็นในวันนี้..ฉันรู้สึกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อฉันนึกถึงเธอ นึกถึงในวันเวลาเมื่อวันวานที่เราพูดถึง " ฝัน " ของเรา
ด้วยความรู้สึกที่อิ่มเอมด้วยกันทั้งสองฝ่าย และมันก็ทำให้ช่วงชีวิตของ
ฉันในเวลานั้นมีค่ามากมาย และมีพลังอย่างมหาศาล เมื่อหัวใจฉัน
รับรู้ว่า ฉันมีคุณค่าสำหรับเธอมากมายขนาดนั้น และมันก็ทำให้หัวใจ
ของฉัน รักเธอมากยิ่งขึ้น จนบางครั้งฉันแอบถามตัวเองในบางช่วงเวลา
ว่า ถ้าฉันขาดเธอไปฉันจะอยู่ได้อย่างไร ไม่ได้เลยฉันอยู่ไม่ได้โดยที่
ไม่มีเธอ..ในโลกนี้ฉันไม่ฝันอะไรมากไปกว่า กับการที่ได้อยู่กันเธอ
สองคนในบ้านหลังเล็กๆ ปกคลุมไปด้วยต้นไม้นานาพันธ์ มีระเบียง
เล็กเล็ก เอาไว้เขียนรูปและเอาไว้อ่านหนังสือในช่วงเวลาที่เราสอง
คนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มีโต๊ะไม้ตัวเก่า สำหรับเราสองคนไว้กินกาแฟ
ในยามเช้าหรือในยามบ่าย ...เธอถามฉันว่าทำไมต้องมีโต๊ะกาแฟ...ด้วย
ฉันตอบไปว่า มีไว้เพื่อเราจะได้คุยกัน ปรึกษากัน และเพื่อ...
เวลาเราสองคนจะได้พบกันในตอนเช้าของทุกวัน สบตากัน ยิ้มให้กัน
และบอกคำรักกันทุกวัน ฉันว่า มันโรแมนติคดีออก...เธอว่าอย่างนั้นมั้ย
..ฉันดีใจที่เธอชอบฝันของฉัน ไม่สิ ฝันของเราต่างหาก และเราก็พูด
กันว่าเราจะรอวันนั้น วันที่ฝันของเราเป็นความจริง......
..ฉันอาจจจะเป็นคนเห็นแก่ตัวอยู่บ้าง..ที่ฉันจะไม่ให้เธอมีครอบครัว
เพราะฉันไม่อยากให้ใครแย่งเธอไปจากฉัน ฉันคงทนไม่ได้
แต่ในเวลานี้ ตัวฉันกลับเป็นฝ่ายที่มีพันธะเสียเอง มันไม่ยุติธรรม
สำหรับเธอเลยใช่ไหม แต่เราก็รักกันจนได้ รักกันมากขนาดขาดซึ่ง
กันและกันไม่ได้ ...เราเคยห่างกันไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง ....ซึ่งมัน..
ทำให้ฉันเจ็บปวดทรมานมากกับการที่ต้องขาดจากเธอ ฉันคิดว่า
เธอคงเป็นเช่นฉันเหมือนกัน ถ้าไม่อย่างนั้น เราคงจะไม่ได้กลับมา
สร้างฝันของเราอีกใช่ไหม และมันก็เป็นบทเรียนที่สอนให้เราสองคน
ว่า เราสองคนจะอยู่โดยไม่มีกันและกันไม่ได้ฉันเชื่ออย่างนั้นเธอว่ามั้ย
ในช่วงเวลานี้ ฉันไม่หวังอะไรอีกแล้ว นอกจากเธอ ถึงแม้ว่า...
มันจะสมหวังในช่วงเวลาที่เราจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม ฉันยินดี
ที่จะหวัง...ฉันจะเชื่อเธอ กับคำพูดที่ว่า " ต้องมีสักวัน " นับตั้งแต่
วันที่ฉันเจอเธอวันแรก ความรักในหัวใจฉัน ไม่เคยเหือดแห้ง...
ไปไหนเลย มีแต่จะเพิ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้
ไม่เคยเลยจริงๆจงเชื่อคำของฉันนะคนดีของฉัน..ฉันรักเธอ...
ทิพย์โนราห์ พันดาว
19 เมษายน 2552 14:50 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
...คำพูดที่ไม่ได้ตั้งใจ...
แค่คำพูดที่ออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ..หรืออะไรก็ไม่ทราบได้...รู้ไหม..
มันทำให้ฉัน หวั่นไหว อย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยในชีวิต..
....ฉันรู้เธอพูดเพราะควบคุมสติสัมปะชัญญะไม่ได้..แต่มัน
ก็เป็นคำพูดที่เธอพูดออกมาจากใจของเธอ..และมันก็ทำให้ฉัน..
รู้สึดีขึ้นอย่างมากมาย ที่รู้ว่า..แท้จริงนั้น เธอก็ " ปารถนา " ฉัน
เหมือนที่ฉัน"ปารถนา " เธอ แต่ความปารถนาของเราสองคน
มีเส้นขีดขั้นที่ชื่อว่า "ศีลธรรม " กั้นอยู่เท่านั้นเอง ..เมื่อไหร่นะ ...
เส้นที่ชื่อ"ศีลธรรม" จะเลิกขีดขั้นระหว่างเราสองคนซะที! ....
ต้องมีสักวันอย่างแน่นอน ฉันเชื่อย่างนั้นและฉันก็คิดว่า..
เธอก็คงเชื่อเหมือนกัน คนดีของฉัน
ทิพย์โนราห์ พันดาว