30 มิถุนายน 2554 20:28 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
มลิสายเรียงร้อย..ห้อยระย้า
ริมโค้งฟ้าสุรีย์อ่อน..จวนค่อนสาง...
ลมรำเพย..เอื่อยกลินกรุ่น..ละมุนบาง
เดือนดาวจาง..วิหคแว่ว...จากแนวไพร
มองมะลิเรียงร้อย ....เป็นสร้อยสาย...
ฝันที่หมาย..ยังหายห่าง..อยู่ทางไหน
ในยามนี้ฉันคนเก่า...ยังเหงาใจ
เธอคนไกล..เหงาหรือเปล่า..บอกกล่าวที
งามอรุณ..เบิกฟ้านภาผ่อง..
ลำแสงทองโอบสาด..คีรีศรี..
วอนลมพัดความห่วงใย...ในฤดี
แด่คนดี แห่งดวงใจ..ที่ไกลกัน
แม้พ้นผ่านม่านเวลา..นาทีซึ้ง
ยังตราตรึง...แว่วคำหวาน..วันวานฝัน
กี่โคนรุ้ง..กี่คุ้งฟ้า...กี่ป่าพรรณ
ร้อยจำนรร ..มิเคยจาง..ห่างหัวใจ
มะลิสายเรียงร้อย...ห้อยระย้า
ยามอ่อนล้าฉันแอบเพ้อ..เธออยู่ไหน
หอมมะลิ..หวลวันวาน..ถึงหวานใจ
หวลอาลัย ไอรักเก่า...ยังเฝ้ารอ
ทิพย์โนราห์ พันดาว
ทิพย์โนราห์ พันดาว
30 มิถุนายน 2554 19:44 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
เก็บดาวเรืองเรียงร้อย เป็นสร้อยพวง
เพื่อบวงสรวง ครูตัวอย่างที่สร้างฉัน
คือต้นแบบแนบฉบับ ขับรำพัน
ให้มีฉัน หนึ่งตัวตนคนกวี
ขอกราบกรานนบน้อม พร้อมลำลึก
ฝังผนึกในคำกลอน สุนทรศรี
บรมครูตัวอย่าง สร้างกวี
ทั่วธานี มีคำกลอนสุนทรยล
กวีเอก เสกโศก ในโลกฝัน
ร่ายรำพันภาษาใจ ในทุกหน
ทั้งฉากรัก ฉากเศร้า เหงาระคน
สุนทรดลได้เลิศล้ำ ในคำกลอน
ย่อกรกราบครูกกลอน สุนทรภู่
บูชาครูจากหัวใจ ไม่หน่ายถอน
ขอให้ศิษย์ จิตสว่างในทางกลอน
ทุกบทตอนให้ติดตรึง ซึ้งอุรา
เก็บดาวเรื่องเรียงร้อย เป็นสร้อยพวง
เพื่อบวงสรวงกวีใหญ่ ที่ในหล้า
สุนทรภู่กวีเอก เสกโลกา
เรืองปรัชญา ทุกคำกลอนล้วนสอนคน.......
ทิพย์โนราห์ พันดาว