31 กรกฎาคม 2552 15:30 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
หรือหมดใจ ต่อกัน ในวันนี้
เพียงวลี ยังขืน ให้ขื่นขม
หรือสิ้นรัก หมดใย ในอารมณ์
ความระทม คือตอบ มอบให้แทน
หรือหมดใจ ต่อกัน ในวันนี้
ความหวังดี เคยให้ ใยหวงแหน
ความห่วงใย เคยหยาด ใยขาดแคลน
ที่มอบแทน คือเมิน เกินเข้าใจ
เราพบกัน ในทาง ระหว่างฝัน
เธอกับฉัน เหน็บหนาว ร้าวแค่ไหน
เพียงไออุ่น เสี้ยวรัก มาทักใจ
ก็เหมือนใย สายรัก มาถักพัน
หรือหมดใจ ต่อกัน ในวันนี้
แม้คนดี เอ่ยเสียง แค่เพียงฝัน
มิเคยลืม วจีใคร ในรำพัน
ถ้อยจำนรร หวานจิต ให้ติดตรา
หรือหมดใจ ต่อกัน ในวันนี้
ไร้วลี ไร้คำ ซ้ำหนีหน้า
ไร้อาทร แห่งฝัน วันเวลา
ไร้สัญญาแห่งใจ ในความจริง
ทิพย์โนราห์ พันดาว
27 กรกฎาคม 2552 19:41 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
ที่ฉันทน ก้าวย่าง บนทางฝัน
ร่ายรำพัน ขีดเขียน เพียรให้เห็น
เพราะใจรัก ในกวี ดั่งที่เป็น
แม้ยากเย็น ในเส้นทาง ไม่ร้างลา
ในต่างคน ต่างจิต จะคิดนึก
ความรู้สึก ต่างกัน ต่างปัญหา
ต่างอารมณ์ ต่างวลี ถ่ายทอดมา
ต่างศรัทธา ความชอบ ในกรอบกลอน
จึงไม่ทุกข์ แม้กวี ไม่ดีเด่น
สิ่งที่เป็น คือฉัน มันยากถอน
ในยามทุกข์ โทษทัณฑ์ เข้าบั่นทอน
ก็เขียนกลอน ปลดประดัง หวังระบาย
ในทางฝัน ของกวี มีอยู่มาก
ในความอยาก จะเป๊น เช่นดังหมาย
คือความฝัน นิยาม ความท้าทาย
แพรุ้งพราย หมายคว้า เข้าฝ่าฟัน
ที่ฉันทน ก้าวย่าง บนทางนี้
เพราะฤดี หนึ่งดวง ตามทวงฝัน
แม้อยู่ไกล โพ้นฟ้า ก็ฝ่าฟัน
หวังกำนัล คือเรียวรุ้ง ที่..มุ่งมอง
ทิพย์โนราห์ พันดาว
25 กรกฎาคม 2552 23:18 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
" ขอขอบคุณ อย่างล้นพ้น คนอุทัย
ส่งน้ำใจ เปรอปรน จนล้นเหลือ
ขอบคุณมาก ที่ยังสน คนท่าเรือ
ได้จุนเจือ คำปลอบใจ มอบให้มา
ในวันนี้ สาวท่าเรือ เชื่อใจแล้ว
ให้เพื่อนแคล้ว ผองภัย ใดในหล้า
ใต้แสงเทียน เราบอกดาว ส่งข่าวมา
ฝากสัญญา มิลืมเลือน เพื่อนแน่นอน "
เป็นบทกลอน เคยโต้กัน ในวันเก่า
ถึงมิตรเรา เคยซึ้งกัน ในวันก่อน
เคยสัมพันธ์ ซึ้งซาบ ด้วยกาพย์กลอน
นั่งอาวรณ์ ในวันนี้ ยังดีใจ
เพียงอยากบอก มิเคยเลือน จากเพื่อนรัก
เพียงเพ็ญพักต์ มิเคยพบ สบที่ไหน
เพราะซาบซึ้ง กลอนกานท์ สำราญใจ
จึงส่งใจ ตอบกลอน วอนฝากมา
เป็นสัมพันธ์ มิตรเพลง ครี้นเครงกล่อม
เปรียบพยอม แห่งชน คนทั้งหล้า
บ้างอกหัก บ้างท้อใจ ในชีวา
เอื้อนเอ่ยมา ขอเพลงฟัง มิหวังใด
ทิพย์โนราห์ พันดาว
23 กรกฎาคม 2552 22:42 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
เปลวตะเกียง ไหววับ รับลมหนาว
เริ่มเรื่องราว วัยฝัน วันอ่อนไหว
สามพี่น้อง เล่นเงา เย้าแสงไฟ
ท่ามพงไพร หริ่งร้อง ก้องระงม
พี่ทำนก ด้วยมือ กระพือปีก
บินหลบหลีก หมาเงา เห่าเสียงขรม
ต่างกระซิก หยอกเย้า เคล้าสายลม
ดับระทม เหว่ว้าง ในกลางคืน
เบื่อเล่นเงา น้องเรียง นอนเคียงพี่
ขับดนตรี เสียงใส ใจระรื่น
พี่ขึ้นต้น น้องต่อ หัวร่อครืน
แล้วลุกยืน ส่ายโยก สะโพกไกว
จวนครึ่งคืน เริ่มท้อ เฝ้ารอแม่
ง่วงเจียนแย่ แม่หนอ รอไม่ไหว
ดับตะเกียง เข้านอน ด้วยอ่อนใจ
ท่ามหรีดไพร ร้องขับ ฝืนหลับตา
เปลวตะเกียง ไหววับ รับลมหนาว
ทุกเรื่องราว เยาว์วัย ยังใฝ่หา
รอยอดีต สลักตรึง ซึ้งทุกครา
กี่เพลา อดีตงาม ยังตามเยือน
ทิพย์โนราห์ พันดาว
20 กรกฎาคม 2552 21:59 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
มือน้อยน้อย ค่อยพัน ปั่นเส้นด้าย
เป็นเส้นสาย จำเพาะ ดูเหมาะสม
เจาะกระป๋อง เป็นรู ดูให้กลม
ท่ามสายลม ร่มไม้ ริมชายคา
ด้วยมุ่งมั่น จดจำ ทำให้ได้
เพื่ออวดยาย ตอนเย็น ให้เห็นค่า
เด็กหญิงน้อย ลืมสิ้น กินข้าวปลา
เพราะศรัทธา จากใจ ใส่ตะเกียง
เอาไส้ใส่ ตรงรู ดูให้เหมาะ
แล้วลองเคาะ ให้ดัง ลองฟังเสียง
ยกขึ้นชู ชื่นใจ ในตะเกียง
แล้วเลาะเลียง สำรวจ ขวดน้ำมัน
เทน้ำมัน รินลงให้ตรงไส้
ลองจุดไฟ สว่างดี ตะเกียงฉัน
บนลานดิน แม้คืนนี้ ไม่มีจันทร์
ตะเกียงฝัน ดวงน้อย จะคอยแทน
สามพี่น้อง ดูดาว ริมราวฟ้า
ท่ามดารา ดาษดื่น หลายหมื่นแสน
ตะเกียงฝัน ซับหยาด ความขาดแคลน
สว่างแดน ดงไพร เหมือนใจคน
ทิพย์โนราห์ พันดาว
(ผู้ใหญ่ควรแนะนำเด็กมิให้เล่นแบบนี้ เพราะอาจจะเกิดอันตราย)