15 ธันวาคม 2550 15:18 น.

ต้นรัก.....

ทิพย์โนราห์ พันดาว

ฝันจะปลูก  ต้นรัก  สักหนึ่งต้น
เที่ยวดั้นด้น  หาพันธ์  ที่ฝันใฝ่
ได้พันธ์งาม  ตามนิยม  สมดังใจ
พรวนดินไป  ให้แย้มยิ้ม  อิ่มใจเรา

เฝ้าดูแล  สุขล้ำ  ค่ำและเช้า
กลัวจะร้าว  กลีบใบ  ดั่งใครเขา
สู้ถนอม  กิ่งก้าน  ริดรานเบา
อุ่นร่มเงา  เคล้าเคียง  เลี้ยงจนโต

มาวันนี้  ต้นรัก  ชักยิ่งใหญ่
ก้านกิ่งใบ  แผ่ตระการ  บานอักโข
สุงสุดสอย  ลอยสวรรค์  เสกสรรโชว์
พอเจ้าโต  ลืมคนปลูก  ไม่ถูกตา

จำต้องตัด  ต้องโค่น  ที่โคนเจ้า
เพราะยอมเขลา  ด้วยสงสาร  นานหนักหนา
เมื่อเราปลูก  เจ้าได้  แต่ไรมา
ดูสักครา  เราจะตัด  ลงบัดดล

เหลือแต่ตอ  ยังต่อต้าน  ขับขานเสียง
เสาะสำเนียง  ว่าสำนึก  รำลึกหน
คิดจะกลับ  แตกตอ  เป็นหน่อตน
เหลือจะทน  ชำแหระตอ  ก่อไฟฟืน..........




                                                            ทิพย์โนราห์  พันดาว				
15 ธันวาคม 2550 14:57 น.

เพิ่งจะรู้.....

ทิพย์โนราห์ พันดาว

เพิ่งจะรู้  ว่าเหงา  ยามเขาห่าง
ให้อ้างว้าง  อาวรณ์  นอนก็ฝัน
เพิ่งจะรู้  ไร้เงา  เขาเคียงกัน
เพิ่งรู้วัน  ใจเหงา  เขาไม่มี

ไม่เป็นไร  ใจสู้  ยังอยู่ได้
ถึงฝันร้าย  ผ่านทาง  จ้างไม่หนี
คงมีบ้าง  สักวัน  ฝันดีดี
ซักนาที  ได้สุข  ทุกข์อำลา

ถ้าฉันย้อน  เวลา  กลับมาได้
ฉันจะย้อน  หัวใจ  เธอมาหา
มอบความรัก  คิดถึง  เคยตรึงตรา
เฝ้าเก็บมา  จะบอก  ปอกความใน

แต่ที่ใน  เวลา  น้อยค่านี้
ใจที่มี  บังเอิญ  เกินทำไหว
เสียงร่ำร้อง  ว่าช้ำ  จำนะใจ
แม้นฝืนไป  ไม่เห็น  เช่นดังเดิม



                                                  ทิพย์โนราห์   พันดาว				
13 ธันวาคม 2550 18:12 น.

เงาร้าง...ในกาลเวลา

ทิพย์โนราห์ พันดาว

อวลพฤกษา  พรมผ่าน  ม่านไอหมอก
เบิกกลีบดอก  บานรับ  ซับไอหนาว
ร่องรอยรัก เงาร้าง  ยังค้างคราว
หยาดน้ำพราว  ค้างใบ  รินไล้รวง

ละอออ่อน  ไออุ่น  กรุ่นอุษา
เจ็บวาจา  ถ้อยคำ  ย้ำว่าห่วง
จันทร์ลาฟ้า  เลยลับ  ดับแดดวง
ระโรยรวง  พฤกษาไพร  ในราตรี

ระหกเหิน   เหร่อน  ฟ้อนใบไม้
ยะยักย้าย  ร่ายหล่น  บนวิถี
ระเร่ร่อน  ลอยคว้าง  กลางนที
รื่นวลี  ไม่จาง  อยู่กลางใจ

ระรินร้อน  รอยแล้ง  แห่งแสงสาด
ใจเจียนขาด  ร้อนรุม  ซ่อนสุมไว้
มิอาจเอื้อน  เอ่ยอ้าง  ทนร้างใจ
กลัวเอ่ยไป  ใจช้ำ  ซ้ำที่เดิม......




                                        ทิพย์โนราห์  พันดาว				
13 ธันวาคม 2550 17:39 น.

แด่...รักแท้ที่ไม่มีสิ่งใดทัดเทียม

ทิพย์โนราห์ พันดาว

ตั้งแต่เล็ก  เติบใหญ่ได้  เพราะแม่
รักมั่นแท้  คือแม่นั้น  ไม่หวั่นไหว
สุขและทุกข์  แม่ฟันฝ่า  มิลาไกล
ห่วงดวงใจ  ดวงน้อย   คอยผูกพัน

สู้ตรากตรำ  ส่งเจ้า  เข้าศึกษา
ทุกเวลา  เฝ้าก่อ  ถักทอฝัน
หวังให้เจ้า  เป็นคนดี  มีครบครัน
ด้วยผูกพัน  หวังเพียงเจ้า  เฝ้าดูใจ

หัวใจลูก  แทบหลุด  ทรุดแทบเท้า
ทอดร่างยาว  คือแม่  สุดแก้ไข
แม่คงเหนื่อย คงอยากพัก  จึงจากไกล
อยู่แห่งใด  แม่จ๋า  ลูกอาวรณ์

ลูกขอกราบ  แทบลง  ตรงเท้าแม่
นับตั้งแต่  นี้ไป  มีใครสอน
จะคอยรัก เคลียคลอ  พนอนอน
ลูกอยากวอน  แม่ฟื้น   คืนชีวี

หลับเถิดแม่  อย่าอาวรณ์  ก่อนจะจาก
จำใจพราก  ลูกรู้  สู้ไม่หนี
ทั้งโรคร้าย  รุมเร้า  เศร้าชีวี
แม่ไม่มี  ลูกยังอยู่  สู้อีกคน

หากชาติหน้า  มีจริง  เป็นสิ่งแน่
อยากเกิดเป็น  ลูกแม่  อีกสักหน
ถึงลำบาก  ตรากตรำ  จะจำทน
เพราะแม่ตน  คนเดียว  คอยเหนี่ยวใจ




                                                      ทิพย์โนราห์  พันดาว				
29 พฤศจิกายน 2550 19:37 น.

บทกวี....ตอนใกล้สาง

ทิพย์โนราห์ พันดาว

ดาวเหนือนวล เนื้อดาว ช่างพราวแสง
ลมหนาวแรง พัดคลอ พ้อไออุ่น
น้ำค้างเย็น หยาดซับ รับอรุณ
แสงละมุน เทียนจาง ฟ้าสางจวน

เจ้าไก่แก้ว โก่งคอ พ้อส่งเสียง
เคล้าสำเนียง หรีดคราง ร้างไห้หวล
แว่วนกไพร ในพง ส่งเสียงครวญ
ดับแสงนวล ไร้เงา เจ้าจันทรา

อีกไม่นาน อรุณรุ่ง พรุ่งจะเกิด
รักเตลิด หนีไกล เราไร้ค่า
เหลือไว้เพียง ไอร้าว คาวน้ำตา
ผ่านเวลา กาลหนึ่ง เคยซึ้งใจ

อุษาส่ง แสงพราว ลมหนาวซ้ำ
ใจคนช้ำ ปวดร้าว คราวลมไหว
มิเคยลืม ไอรัก เคยพักใจ
รอยอาลัย ยังตรึง ซึ้งในทรวง

ดาวเหนือนวล ลาลับ ลงอับแสง
ปลายฟ้าแดง สุรีย์พรม สมดั่งสรวง
ระยับหยาด แสงพราว ดุจดาวดวง
เห็นพรายพวง โศกระย้า.....ยิ่งล้าใจ




                                  ทิพย์โนราห์ พันดาว				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟทิพย์โนราห์ พันดาว
Lovings  ทิพย์โนราห์ พันดาว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทิพย์โนราห์ พันดาว
Lovings  ทิพย์โนราห์ พันดาว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทิพย์โนราห์ พันดาว
Lovings  ทิพย์โนราห์ พันดาว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงทิพย์โนราห์ พันดาว