17 กรกฎาคม 2551 12:55 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
ล่องเรือไอ เลียบคลอง สองฝากฝั่ง
แลสะพรั่ง เรือนลิ่ว เป็นทิวแถว
เรือนริมน้ำ เรียงราย ร่ายเป็นแนว
กระไอแพรว กลิ่นอาย สายตะวัน.......
เรือเทียบท่า บ้านน้อง ที่ปองรัก
ค่อยผ่อนพัก คลายร้อน ได้ผ่อนผัน
เห็นแต่เรือน คนดี ใยหนีกัน
ของกำนัล มีฝาก จากหัวใจ......
ถึงไม่แพง สูงค่า ราคาเลิศ
แต่ก็เชิด ใจชื่น ยามยื่นให้
หวังเพียงรอย ยิ้มบาง ไว้กลางใจ
ถึงหทัย ไม่ชื่น มิฝืนเลย......
พี่คนเรือ หน้าดำ คล้ำเหงื่อกร้าน
แถมไร้บ้าน พักพิง น้องหญิงเอ๋ย
ถึงรูปชั่ว รักนาง ไม่จางเลย
โถทรามเชย อย่างอน มัวซ่อนตน...
ล่องเรือไอ ผ่านเลื่อน หลายเรือนนัก
ไม่นึกรัก สาวใด ในสักหน
ผ่านเรือนน้อง ต้องตา คราถูกมนต์
เพียงได้ยล หนครั้ง กลับฝังใจ....
ขอฝากใจ คนจร นอนท่านี้
วอนคนดี อย่าแหนง แกล้งเฉไฉ
ขอเพียงเจ้า กล่าวตอบ ว่ามอบใจ
หญิงอื่นใด ไม่ซึ้ง เท่าหนึ่งนวล
ทิพย์โนราห์ พันดาว
8 กรกฎาคม 2551 15:31 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
ใครหนอใคร แอบรัก ชักไหวหวั่น
โถใครกัน คอมเม้นท์ ไม่เห็นหน้า
ใครกันเอ่ย แอบปอง มองโนราห์
นามแจ้งมา เจียมตน โถคนดี
จะเป็นหนุ่ม น้อยใหญ่ ใคร่อยากรู้
อยากจะดู ใจแดง หรือแต่งสี
หากหัวใจ สีดำ คล้ำไม่ดี
ถ้าใจมี สีแดง จะแต่งเลย
เรียกไม่แพง หรอกเจ้า เท่าชีวิต
หากลิขิต ไว้จริง อย่านิ่งเฉย
จะยอมทน ลำบาก ไม่จากเลย
ขอใจเอย อย่าไกล ไปจากกัน
หากหนุ่มนั้น มีใจ ฝากไปถึง
อย่ารำพึง อยู่เดียว อยากเกี่ยวฝัน
หากใจแม่น มั่นเสมอ คงเจอกัน
มัวรำพัน เวลา คุณค่ามี
ใครหนอใคร ผูกพัน มั่นจริงหรือ
จะไม่ถือ หากเล่น เช่นดังผี
หากว่าจะ จริงใจ ใคร่ให้ดี
ทั้งชีวี นี้มอบ ไว้ตอบแทน
ทิพย์โนราห์ พันดาว
7 กรกฎาคม 2551 17:15 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
แสนงดงามนุ่มนวลชวนใฝ่ฝัน
เหตุใดกันสองปรางค์นางจึงหมอง
หยาดน้ำตาอำพรางในปรางค์ทอง
อยากประคองซับหยาดปาดน้ำตา
ด้วยหน้าที่หยัดยืนบนผืนแผ่น
รักษาแดนแม้นดับลงกับหล้า
เพื่อปวงชนยิ่งใหญ่ไทยประชา
แม้นในราตรีตื่นยังฝืนทน
ครั้งคราใดพบกันแล้วผันจาก
ความลำบากหักหายคลายทุกหน
เพียงดอกไม้ยิ้มพรายดุจร่ายมนต์
เปรียบอุบลอวลช่อล่อภมร
อยากจะเด็ดดอกไม้ร่ายความรัก
เพียงเพื่อพักใจกร้าวราวสิงขร
ขอดอกไม้อย่าแสร้งแกล้งจากจร
โปรดอาทรสถิตย์กาย...ณ ปลายปืน
ทิพย์โนราห์ พันดาว
2 กรกฎาคม 2551 15:39 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
มัวยื้อแย่ง แข่งขัน ปันอำนาจ
จะเสียชาติ เศษเสี้ยว ไม่เหลียวห่วง
อยากถือดี เหนือใคร ไทยทั้งปวง
แผ่นดินดวง ก่อเกิด ไม่เชิดชู
มัวห่ำหั่น ยื้อใย ไขว่อำนาจ
เขาพิฆาต ยื้อสิทธิ์ ปิดตาหู
เหลือเพียงรอย อารยะราน ลูกหลานดู
ขวานเคยชู จะบิ่น หมดสิ้นแดน
แม้เพียงเศษ เสี้ยวไทย ใครก็ห่วง
บรรพชนทวง เลือดทา ข้าหวงแหน
พวกไทยมัว ยีย่ำ เขาล้ำแดน
ใครจะแทน กู้คืน เป็นผืนไทย
แม้นไม่รัก ในชาติ องอาจกล้า
คงไม่มา เขียนคำ พร่ำไฉน
ด้วยสำนึก รักแดน เหนือ แคว้นใด
วอนผองไทย อย่าหลงเงา ลืมเหง้าตัว
29 มิถุนายน 2551 14:09 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
ตะวันเอย แสงอ่อน จวนจรจาก
โปรดรับฝาก ห่วงใย จากใจนี้
แด่นักรบ ผู้กล้า แห่งธานี
แลกชีวี คุ้มเขต ประเทศไทย
จะกินนอน มิบ่น ทนลำบาก
ไหนจะจาก ถิ่นรัก พักอาศัย
เสียชีพอย่า เสียสัตย์ ป้องปัดภัย
สุดอาลัย ต้องร้าง ห่างบ้านมา
คิดถึงข้าว ขาวอุ่น ละมุนหอม
อีกพยอม ยอดทรวง ให้ห่วงหา
วันนี้จำ จากแล้ว แก้วลูกยา
ด้วยศรัทธา ยิ่งใหญ่ ให้แผ่นดิน
น่าสงสาร นักรบ น้อมนบชาติ
สุดสามารถ ยอมตาย ถวายสิ้น
เหล่าคนไทย ใยเถือ ชาติเชื้อกิน
หมดแผ่นดิน เมื่อไร ไทยคงตรอง
ขอเถอะนะ พวกพ้อง พี่น้องญาติ
หยุดอำนาจ บ้าคลั่ง ลงทั้งผอง
จับมือกัน ร่วมใจ ไทยเรืองรอง
หยุดคะนอง คิดหั่น บั่นทอนไทย
ด้วยรักและเคารพในความเป็นไทยไม่อยากร้องเพลงชาติคนเดียว
ทิพย์โนราห์ พันดาว