30 กรกฎาคม 2550 23:32 น.
ทาสกวีแลเทพธิดากวี
๑ กระต่ายฟ้าร่าเริงบนเชิงฟ้า
ท่ามดารารัตติกาลกาลผสานฝัน
หยดขวัญหยาดค้างพฤกษาลดาวัลย์
น้ำนวลจันทร์กลั่นย้อยระย้าดวง
๒ จำเรียงรื่นบุหงาหอมขจรกลิ่น
สุคันธมาลย์ละเลงรินทั้งแดนสรวง
สุคนธ์ตรลบอบอาบกลิ่นจันทน์จวง
กระแจะพวงจันทร์กระพ้อจรุงไพร
๓ แว่วแว่วหวานเรไรในเรือนป่า
ร่ำคีตาธรรมชาติออกขานไข
เสนาะเสียงสำเนียงแก้วกล่อมดวงใจ
วังเวงไหววูบจิตสู่นิทรา
๔ ฝันลอยลอยลอยไกลไปสู่สรวง
ร้อยดาวรวงต่างแหวนแทนหัตถา
ถักเมฆขาวพราวต่างผืนแพรวา
ห่มแก้วตานอนหลับในทับทอง
๕ ผวาตื่น...
น้ำตารื้นร้าวรานบาดใจหมอง
คิดถึงจันทร์แรมลับในฟ้าทอง
เนืองนองเหน็บหนาวพราวน้ำตา
29 กรกฎาคม 2550 21:00 น.
ทาสกวีแลเทพธิดากวี
...คำว่าเพื่อน เถือกเถือ เนื้อในอก
ใจมันตก ต่ำตีน สุดปีนป่าย
เพราะหมายสูง เอายูงฟ้า มาแนบกาย
ใจจึงได้ ความช้ำ มาซ้ำเติม
...เปลือยหัวใจ ไขออก เพื่อบอกรัก
จึงเจ็บหนัก เพราะฟ้า ไม่ส่งเสริม
มอบหัวใจ ให้เจ้า เอาเผดิม
จากแรกเริ่ม จนจดจำ ช้ำจนตาย
...รักไม่รัก หรือไม่ ไม่อาจรู้
แต่ใจรัก รักอยู่ ไม่รู้หาย
อาจไม่รัก อาจไม่รู้ จนวันวาย
แต่ความตาย ไม่คลาย ใจหมายรัก...
...แด่ เมย์
11 เมษายน 2550 02:41 น.
ทาสกวีแลเทพธิดากวี
๑ แสงแดดร้อนหลอมละลายใจชายหนุ่ม
ระอุรุมเร้าคะนึงถึงความฝัน
ไออบอ้าวผะผ่าวแผ่วแว่วจำนรรจ์
จำเรียงเสียงจอมขวัญวันเคียงกาย
๒ วันเคยกอดแอบอุ่นใต้คูณเหลือง
พระจันทร์เรืองพราวโพยมดั่งโคมฉาย
นวลชดช้อยจับช่อเหลืองเลื่อมพราวพราย
ระย้ารายดั่งสายทิพย์ขลิบเรือนทอง
๓ คล้ายเรือนทิพย์รโหฐานของสองเรา
คลอคู่เคล้าข้างเคียงเพียงเราสอง
เจ้าอิงแอบ พี่แนบเนื้อนวลละออง
ในเรือนทองสองรักมั่นนิรันดร์กาล
๔ นานเหลือเกินเกินกาลจะหมุนกลับ
มองคูณทองย้อยระยับกับลมผ่าน
เจ้าปลิดปลงลงถมทับดุจสายธาร
เป็นพยานใจรักที่เปลี่ยนแปลง
๕ ที่เปลี่ยนไปใครหรือมาแปรเปลี่ยน
ใจจึงเวียนหมุนลอยไร้หลักแหล่ง
คูณปลิดผล็อยละลิ่วร่วงไร้เรี่ยวแรง
ดังใจเจ้าหมายแกล้งปลิดชีวิต
๖ ปล่อยชีวาเคลิ้มไปในไอร้อน
จงช่วยผ่อนละลายรักยะเยือกจิต
ไอกลิ่นกายจงเหือดหายสลายฤทธิ์
เผาบ่วงรักสลักติดทั้งขุมทรวง
๗ ถ้อยคำซึ้งครวญซ้ำย้ำให้เศร้า
ว่าสองเราสิ้นรักและสิ้นหวง
ที่ห่วงหาจงเหือดหายอย่าหมายทวง
ทิ้งแดดวงโศกซ้ำซ้ำกับคำลา
๘ กองคูณเหลืองเรืองทองคือกองเถ้า
เศษซากเศร้าเผาไหม้ในแดดจ้า
จงเผาเถิด! เปลวแดดแผดแสงมา
เผารักข้าให้มอดไหม้ใต้ร่มคูณ
7 เมษายน 2550 00:57 น.
ทาสกวีแลเทพธิดากวี
@หอมกลิ่นขวัญดั่งแก้ว กฤษณา
เนื้ออ่อนฤาเท่าสุดา อ่อนเนื้อ
เพ็ญจันทร์แจร่มนภา ฤาเท่า โฉมเอย
ชาวสวรรค์บ้าใบ้เบื้อ รักแก้วโฉมน้อง พี่นา
@งามกุมุทน้องน้อย เอียงโอน
ยามอุบลลมโยน ยักย้าย
ริษยาภมรโดน ดมดื่ม บัวนา
เรียมจะเบื้อบ้าใบ้ บ้ารักขวัญตา เจ้าเอย
@แสงจันทร์กระจ่างพื้น พราวนภางค์
นวลบ่เทียมโฉมสะอางค์ น้องได้
จันทร์เพ็ญยังมีหมาง รอยหม่น
พักตร์ขวัญอะเคื้อไร้ ขุ่นข้องกมลนา
@สงสารใจน้อยนี้ อนาถนัก
มันบ่เจียมตนรัก ขวัญฟ้า
ยมทูตจงเร่งหัก เอาชีพ เรียมเทอญ
แม้นหากอยู่เห็นหน้า น้องพี่เจ็บอยู่ บ่รู้ตาย
20 กุมภาพันธ์ 2550 13:02 น.
ทาสกวีแลเทพธิดากวี
@ ตราบชีวาหนึ่งนี้ เพียงฝัน
ฝันแต่พักตร์นวลขวัญ อะเคื้อ
มลายสิ้นหกสวรรค์ สิบหกโลก
สิ้นชีพ บ สิ้นเชื้อ สิ้นรักฉันใด
@ ฉันใดจักได้คู่ จอมขวัญ
ขวัญสถิตย์ถึงสวรรค์ สุดยื้อ
เรียมจักเกี่ยวเสี้ยวจัทร์ มาเกี่ยว
สักสิบมื้อแสนมื้อ จักเอื้อมไปถึง.