7 กรกฎาคม 2550 18:17 น.
ทานพอ
ต่างก็แปลก
รักแรกเริ่มเรียนรู้ดูแปลกนัก
ต่างก็หักห้ามใจไม่เป็นสอง
ช่างฉ่ำหวานน้ำตาลยังเป็นรอง
พี่มีน้องน้องมีพี่มีสองเรา
รักเริ่มร่วงแรกรู้ดูแปลกนัก
ไร้น้ำหนักโลเลเฉกเช่นเสา
หลักปักเลนโอนเอนเหมือนรักเรา
พี่มีเขาน้องมีเขาเราแยกทาง
นาย ทานพอ
7 กรกฎาคม 2550 18:08 น.
ทานพอ
จากเพื่อน
เพื่อนจำพรากจากโลกให้โศกศัลย์
ยิ่งจาบัลย์เคยร่วมสุขสนุกสนาน
มาลาเพื่อนเลือนลับกับวันวาน
ห้วงแห่งกาลผ่านผันนั้นพาจร
เพื่อนทำบุญร่วมน้อยจึงพลอยลับ
เหลือเพียงศัพท์วาจาอนุสรณ์
ยามยลยินมิสิ้นโศกโลกอาวรณ์
อกสะท้อนอ่อนเผลี้ยจะเสียคน
เคยสำเหนียกเสียงเพื่อนเอื้อนคำหวาน
เคยส่งสารสื่อเศร้ากล่าวหลายหน
เคยพาทีว่ามีสุขทุกข์ระคน
เคยกังวลร่วมเรียนเพียรวิชา
ด้วยโลกเคลื่อนเลื่อนเวียนเขียนคำจาก
น้ำตาหลากเอ่อล้นจนท่วมหน้า
แต่โลกเวียนเปลี่ยนใหม่ไปกี่ครา
เพื่อนยังตราตรึงจิตสนิททรวง
นาย ทานพอ
7 กรกฎาคม 2550 17:53 น.
ทานพอ
อาลัยรัก
ด้วยอาลัยจึงฝากใจใส่อักษร
เป็นบทกลอนสะท้อนความอ่อนไหว
เปลี่ยวเอกาใยเล่าเท่าเปลี่ยวใจ
เปลี่ยวปราศัยเปลี่ยวใดไหนจะปาน
คคนางค์ขอบกว้างช่างห่างเหิน
อยากจะเดินเกินก้าวอย่างห้าวหาญ
แต่ฟ้าสูงดินต่ำประจำนาน
จะกี่กาลนานวันไม่ผันไป
ดินก้อนน้อนคอยจ้องมองแผ่นฟ้า
ชมเวหาเวิ้งวุ้งทุ่งสดใส
ประเดี๋ยวเดียวหมอกมืดจืดทันใด
ฝนพรำในใจดินถิ่นต่ำสกุล
เจ้าดินน้อยลอยล่องตามคลองคลื่น
น่าสะอื้นสงสารเจ้าเศร้าเกื้อหนุน
ร่างเหลวแหลกแยกสลายกลายเป็นจุน
ด้วยสิ้นบุญล่องไปในสายชล
กระแสธารผ่านเชี่ยวไม่เกลียวกลับ
พาดินลับล่องแล้วกับแก้วฝน
ยามยลยินถิ่นน้ำช้ำกลม
ยิ่งต่ำตนตกใต้ท้องสายธาร
นาย ทานพอ